รองนายก อบต.หอบหลักฐานพบสื่อ ร้องปลัดตัดไม้หวงห้ามเพื่อประโยชน์ตนเอง
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
วันที่ 13 ธ.ค.65 รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย เลขานุการนายก อบต. และประธานสภา อบต. นำเอกสารหลักฐานเป็นภาพถ่ายและหนังสือเดินทางเข้าร้องเรียนต่อนายเอกชนะ นวนละมัย
นายกสมาคมสื่อภูมิภาค จ.ชุมพร
เพื่อร้องความเป็นธรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปลัดอบต. อ้างทำการลุแก่อำนาจโดยตัดไม้หวงห้ามบริเวณในเขตที่ทำการอบต.เพื่อประโยชน์ต่อตนเองและพรรคพวกโดยไม่ได้รับอนุญาติ
โดยรองนายกองค์อบต. เปิดเผยตามหนังสือร้องเรียนว่าปลัด อบต. กระทำการลุแก่อำนาจ ดังนี้ 1. เมื่อประมาณเดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม 2564 ขณะที่ ปลัดอบต. ปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ได้ทำการตัด ต้นไม้ในพื้นที่อบต. ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ เป็นป่าช้าเก่า และยังเป็น ป่าไม้ชุมชนที่ชาวบ้านร่วมกันปลูกไว้ในนานแล้ว เมื่อครั้งสร้างที่ทำการอบต. ได้กระทําการโดยลุแก่อำนาจไม่มีการประชุมหรือประชาคมกับชาวบ้านใน
พื้นที่ ในการตัดต้นไม้และไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อำเภอ อีกทั้ง ต้นไม้ที่ทำการตัดนั้นเป็นไม้หวงห้ามและเป็นไม้กระถินเทพาขนาดใหญ่ ได้สอบถามปลัดอบต.คนดังกล่าว เกี่ยวกับเรื่องการตัดต้นไม้ดังกล่าว ซึ่งได้
ให้คำตอบว่าต้นไม้ที่ตัดไปนั้นเป็นต้นไม้ตีนเป็ดอย่างเดียวไม่มีต้นไม้อื่นแต่อย่างใด
จึงได้ตรวจสอบไม้ กระถินเทพาที่ได้ตัดเอาไป
ได้นำไปสร้างบ้านให้พรรคพวกของปลัดอบต.รายนี้
ประกอบกับประมาณปี พ.ศ.2555-2556 ขณะนั้นผู้ร้องได้ดำรงตำแหน่งนายกอบต. ได้มีชาวบ้านมาขอตัดต้นไม้(ต้นกระถินเทพา) จำนวน 1 ต้นเพื่อนำไปบูรณะซ่อมแซะหลังคาโบถของวัดที่ชำรุด แต่ปลัดฯไม่อนุญาตโดยแจ้งว่าในการตัดต้นไม้ในที่ สาธารณะในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบล นั้น จะต้องมีการลงมติประชาคมจากชาวบ้านก่อนแล้ว เสนอให้นายอำเภอ และป่าไม้จังหวัดชุมพร เข้ามาตรวจสอบก่อนว่าไม้ที่จะตัดได้นั้น เป็นไม้หวงห้าม
หรือไม่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวข้างต้นของปลัดคนดังกล่าวได้ตัดต้นไม้ในองค์การบริหารส่วนตำบล โดยที่ไม่มีการลงมติประชาคมของชาวบ้านแต่อย่างใด
และยังได้นำไม้ที่ตัดไปใช้เพื่อประโยชน์ของ ตนเองและพวกพ้อง
ลุแก่อำนาจของตัวเองทั้งสิ้น
อีกทั้งต้นไม้ที่ปลัดฯได้ดำเนินการตัดไปมีอยู่ทั่วไปในพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล และเมื่อได้สอบถามปลัดฯ ก็ได้คำตอบว่าต้นไม้ที่ตัดไปนั้น อยู่บริเวณที่จะทำการก่อสร้าง
แต่ไม่มีโครงการที่จะทำการก่อสร้าง ซึ่งอ้างว่าไม้ที่ตัดได้นั้นให้เป็นค่าจ้างของคนตัดไม้
แต่ความจริงแล้วผู้ที่มาตัดไม้เป็นพนักงานขององค์การบริหารส่วนตำบลและเครื่องมือที่ใช้ตัดไม้ก็เป็น เครื่องมือของอบต. ซึ่งการตัดไม้มีอยู่บริเวณจำนวน 2 แห่ง
1.บริเวณริมขอบสระน้ำของอบต.ซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งเสาธงของอบต. บริเวณใกล้กับศูนย์เด็กเล็ก 2.การ์ดเรลที่กั้นบริเวณริมแม่น้ำใกล้พื้นที่อบต.ได้มีการสร้างเขื่อนกันตลิ่งพัง
และในบริเวณนั้นมีการ์ดเรลกันแนวตลิ่งริมถนน เมื่อมีการสร้างเขื่อนกันตลิ่งพัง จึงมีการรื้อถอนการ์ดเรลออกเพื่อไม่ให้การ์ดเรลเสียหายและสะดวกในการเข้าไปดำเนินการก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งพัง
จึงได้รื้อถอนการ์ดเรลแล้วนำไปเก็บรักษาไว้ในอบต.เมื่อนำไปเก็บรักษาไว้แล้วปลัดฯได้นำการ์ดเรลนั้นไปขายโดยพละการ
แล้วนำเงินไปใช้ส่วนตัว
โดยในการขายการ์ดเรลครั้งนั้น ได้นำเสาแป้นบาสเก็ตบอลซึ่งอยู่ในสภาพใช้การได้
สั่งให้ตัดเงาแป้นบาสเก็ตบอลไปขาย เป็นเศษเหล็ก
แล้วนำเงินที่ขายได้เอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวในคราวเดียวกัน ซึ่งในการขายทั้ง 2 รายการนี้ ไม่ได้มีการทำให้ถูกต้องตามระเบียบของทางราชการแต่อย่างใด ปลัดคนดังกล่าว ได้ทำไปโดยลุแก่อำนาจ ของตนเองทั้งสิ้น
ในเวลาต่อมา เลขานุการนายก อบต.ผู้ร้องเรียน พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณที่ต้นไม้ถูกตัดซึ่งอยู่บริเวณรอบสระน้ำหน้าที่ทำการอบต.และรอบศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
พบว่ามีร่องรอยต้นไม้ถูกตัดเหลือแต่ตอจำนวนหลายต้น บางตอสภาพถูกเผาดำเป็นตอตะโก บางตอส่วนถูกต้นหญ้าขึ้นปกคลุมเนื่องจากเกิดเหตุตั้งแต่ปี
2564 โดยเลขาฯผู้ร้องเรียนเผยอีกว่าต้นไม้ถูกต้นไปกกว่า 20 ต้น เมื่อถามว่าเกิดเหตุตั้งแต่ปี
2564 ทำไมถึงมาร้องเรียนในตอนนี้ เลขาฯ ตอบว่า
ขณะเกิดอยู่ในระหว่าการเลือกตั้ง
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อปลัด อบต.คนดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ทราบว่าไม่อยู่ไปตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบ
จึงได้โทรศัพท์ติดต่อปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้
หลังจากนั้นเลขานุการนายกอบต.และประธานสภา
อบต. เดินทางต่อไปยื่นหนังสือร้องเรียนยังสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชุมพร
โดยมีเจ้าหน้าที่ออกมารับหนังสือเพื่อทำการตรวจสอบต่อไป
......................................................................................
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น