ชมคลิป| คนขับพ่วงเล่านาทีระทึกชนประสานงานเก๋งเจ็บสาหัส 4 รายติดในรวมเด็ก
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
คนขับพ่วงเล่านาทีระทึกชนประสานงานเก๋งเจ็บสาหัส
4 รายติดในรวมเด็ก คาดหลงช่องจราจรเหตุบังคับวิ่งสวนทางปิดถนนซ่อม
เวลา 22.30 น.วันที่ 25 เม.ย. 66 ร.ต.อ.หญิง สุดารัตน์ บัวยง รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านวิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร ได้
รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งชนกับรถบรรทุกพ่วง
บนถนนสายเอเชีย 41 กม.ที่ 11 หมู่ที่ 6 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร
มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ จำนวน 4 ราย
จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ4864 ชุมพร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน จอดอยู่ในเลนจราจรช่องซ้าย ส่วนภายในพบผู้บาดเจ็บ จำนวน 4 ราย ทราบชื่อภายหลังคือนายถาวร แกล้วทนงค์
อายุ 49 ปี ชาวตำบลนาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร เป็นคนขับ และมีชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 50 ปี นั่งเบาะซ้ายด้านหน้า โดยทั้งสองคนถูกอัดติดอยู่กับพวงมาลัยและคอนโซลรถ แขน ขาหัก และใบหน้าถูกแรง
กระแทกเป็นแผลฉีกขาด ทั้งสองมีอาการสาหัส ในขณะบริเวณเบาะด้านหลังพบผู้บาดอีก 2 ราย คือ ด.ช.ธนภัทร แก้วทนงค์ อายุ 8 ปี ซึ่งนั่งมาด้านซ้าย และมีหญิง ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40 ปี นั่งเบาะด้านขวาหลังคนขับ อยู่ในอาการ
สะลึมสะลือ
เจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยจึงต้องใช้เครื่องตัดถ่างมาตัดอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถ
จนสามารถนำตัวทั้งหมดออกมาได้ ก่อนนำตัวส่ง รพ.ชุมพร อย่างเร่งด่วน
ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ
ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ส่วนตัวหัวลาก หมายเลขทะเบียน 82-4673 สมุทรสาคร และส่วนหาง
หมายเลขทะเบียน 82-4679 สมุทรสาคร จอดอยู่เลนจราจรช่องขวา
สภาพด้านหน้าข้างขวาถูกชนอย่างแรง จนกันชนพัง ลูกหมากคันชักล้อหน้าขาด
ส่วนคนขับไม่ได้หลบหนีไปไหน ยังอยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อนายเกียรติประดิษฐ์
อมะมูล อายุ 45 ปี ชาวตำบลถ้ำวัวแดง อ.หนองวัวแดง
จ.ชัยภูมิ
สอบถามนายเกียรติประดิษฐ์ เล่านาทีเกิดเหตุทราบว่า ตนเองได้ขับรถไปบรรทุกสินค้ามาจาก จ.สงขลา เพื่อไปส่งปลายทางที่ จ.สมุทรสาคร จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งทางกรมทางหลวงได้มีการทำถนน และได้ปิดช่องจราจรขาขึ้น และเปิดช่องทางให้รถทุกชนิดวิ่งสวนกันในช่องจราจรขาล่อง โดยมีกระบอกกรวยสะท้อนแสงเป็นสัญญาณบังคับการ
เดินรถสองช่องทางแบบสวนทางกัน ตนเองได้ขับมาด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.และได้สังเกตว่ามีรถยนต์วิ่งมาในโค้งเปิดไฟสูง สวนทางมา จนกระทั่งขับผ่านโค้งมาด้วยความเร็ว ตนเองยอมรับตกใจมาก เพราะรถยนต์เก๋งคันดังกล่าววิ่งมาในเลนจราจรช่องด้านขวา ซึ่งเสมือนขับย้อนศร ตนเองพยายามเบรกบังคับรถให้จอด แต่ไม่ทันแล้วรถยนต์เก๋งได้
พุ่งชนอย่างจัง เข้าบริเวณกันชนด้านขวาและชนกระแทกเข้ากับล้อหน้าอย่างแรงจนรถกระเด้งกลับไป
จึงลงมาเพื่อช่วยเหลือและได้แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้ เพื่อรอสอบปากคำ
นายถาวร แกล้วทนงค์ ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์เก๋งอีกครั้ง เพื่อสรุปสำนวนในคดีนี้ต่อไป
...................................................................
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น