สาธารณสุขอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก

รูปภาพ
  สาธารณสุขอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก วันที่ 19 ก.ย.67.ที่ บริเวณหน้าศาลพ่อตาหินช้าง หมู่ที่  2 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร   นายสิทธิชัย ชูจีน สาธารณสุขอำเภอท่าแซะเป็นประธานจัดกิจกรรมจิตอาสารณรงค์                 สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก โดยมีนายชัยยุทธ ไชโย ผู้อำนวยการ รพ.สต.สลุย เป็นผู้ดำเนินงานร่วมกับ ฝ่ายปกครองท้องถิ่น ปกครองท้องที่ ทหารตำรวจ  กองอาสารักษาดินแดน(อส.) สังกัด กองร้อยอาสารักษาดินแดน จังหวัดชุมพรที่ 1 อาสาสมัครสาธารณสุข สนับสนุนโดย ร้านเค.เอส.รุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์  จิตอาสา บริษัท cpi และเด็กนักเรียน โรงเรียนต่างๆ เข้าร่วม กิจกรรมจำนวนประมาณ 400 คน สาธารณสุขอำเภอท่าแซะ  กล่าวว่า เพื่อดำเนินการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก การเตรียมรับสถานการณ์ การแพร่ระบาดของไข้เลือดออก ในช่วงฤดูฝน และให้มีการทำงางานอย่างต่อเนื่องมีประสิทธิภาพ ตลอดจนกระตุ้นเตือนให้           สนับสนุนโดย เพิ่มพููลคาร์เซ็นเตอร์ ประชาชนในช

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่งลิ้งอ้างการไฟฟ้ายายวัย 81 หลงกลสูญเงินกว่า 7 หมื่น เหลือ5 บาท

 

        แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกไม่เลือกอายุ ยายวัย 81 ปีเจ้าของร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองชุมพรหลงกล หลังส่งลิ้งข้อความผ่านซิมมือถือก่อนผ่านไปทางแอพพลิเคชั่นไลน์อีกครั้ง  อ้างเป็นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคข้อความระบุว่า “จดตัวเลขมิเตอร์ผิดทำให้ระบบยืนยันการชำระค่าไฟของคุณไม่สำเร็จ ติดต่อเจ้าหน้าที่” พร้อมกับแนบลิ้งมาด้วย กดดูแปบเดียวถูกดูดเงินในบัญชีสูญ 70,600 บาท เหลือไว้เพียง 5 บาท 45 สตางค์

สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี

       เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 22 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากยายวัย 81 ปี เจ้าของร้านค้าแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองชุมพร จ.ชุมพร พร้อมน.ส.ปูหลานสาววัย 46 ปี นำหลักฐานเป็นลิ้งข้อความของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชื่อบัญชีม้าผู้รับเงินโอนปลายทางพร้อมกับเอกสารการแจ้งความร้องทุกข์กับ สภ.เมืองชุมพร เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

      ยายเจ้าของร้านค้า  เล่าประสบการณ์ชีวิตครั้งนี้ให้ฟังว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณบ่ายโมงวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมามีข้อความเข้าผ่านซิมมือถืออ้างว่าเป็นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคระบุว่า  “จดตัวเลขมิเตอร์ผิดทำให้ระบบยืนยันการชำระค่าไฟของคุณไม่สำเร็จ ติดต่อเจ้าหน้าที่” แต่ก็ไม่ได้สนใจ  จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้เข้าแอพธนาคารเพื่อจะชำระค่าไฟฟ้ามีทั้งหมด 5 ใบ แต่สแกนจ่ายไปแล้ว 3 เหลือ 2 ใบ เกิดขัดข้องสแกนไม่ผ่าน

สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์

       ต่อมานึกขึ้นได้ว่าเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.มีข้อความจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(ข้อความจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์)ส่งเข้ามาซึ่งเป็นเวลาประจวบเหมาะกับที่ตนเองเจอปัญหาพอดี จึงกดลิ้งเข้าไปแต่ระหว่างนั้นมีโทรศัพท์โทรเข้ามาหาเป็นผู้หญิงชื่อจิตตรา ตนเลยถามว่านี่เป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจริงหรอ หญิงสาวคนชื่อจิตตราบอกว่าจริง หลังจากนั้นก็ให้หญิงคนดังกล่าวทำรายการให้ โดยหญิงคนดังกล่าวทราบภายหลังว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สอนให้เรากดนั่นกดนี่ ต่อมาหญิงสาวคนนั้นก็บอกว่าเรียบร้อยแล้วนะ

สนับสนุนโดยเพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์.

         จากนั้นตนกดเข้าไปทำรายการผ่านแอพธนาคารอีกครั้งสแกนเข้าแอพได้ปกติ  แต่ปรากฏว่ายอดเงินไม่พอจ่ายค่าไฟจึงเอะใจ   เช็คเงินพบว่าเงินไม่เหลือแล้ว  และระหว่างที่มิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์คุยกับเรานั้นหน้าจอโทรศัพท์จะหมุน เดิมมีเงินในบัญชี 70,605.45 บาท (เจ็ดหมื่นหกร้อยห้าบาทสี่สิบห้าสตางค์) ไม่นานมีข้อความเตือนการถอนเงินเข้ามาครั้งแรกจำนวน  49,000 บาท  ครั้งที่สองห่างกันเพียง 1 นาที ถูกถอนออกไปจำนวน 21,600 บาท  เหลือในบัญชีไว้เพียง 5. 45 บาท (ห้าบาทสี่สิบห้าสตางค์) รู้ตัวเมื่อสายแล้ว

          ยายเจ้าของร้านค้า  เล่าอีกว่าอยากจะแจ้งเตือนภัยเป็นอุทาหรณ์แก่เพื่อนๆประชาชนทั่วไปด้วย ไม่ว่าอะไรจะเข้ามาในโทรศัพท์ก็ไม่ต้องไปสนใจ แม้ว่าช่วงเวลานั้นอาจจะมีปัญหาให้ติดต่อสำนักงานการไฟฟ้าฯโดยตรงดีกว่า   หลังเกิดเหตุไปติดต่อธนาคารเบื้องต้นอายัดบัญชีธนาคาร และได้ชื่อของบัญชีม้าผู้รับโอนเงินปลายทางไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์ให้ไปติดต่อความคืบหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ”

...........................................................................................


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชาวบ้านสุดทนสามผัวเมียมั่วสุมเสพยาแจ้งตำรวจช่วยเด็ก 2 คน

เหิมไม่เกรงกลัวกม.ผญบ.เตือนไม่ฟังรุกป่าต้นน้ำปลูกปาล์ม ป่าไม้หญิงสนธิกำลังซุ่มจับคาหนังคาเขา

จ่าทหารขับเก๋งออกจากค่ายจะไปธุระเสียหลักรถตกร่องกลางถนน เหินชนฝั่งตรงข้ามเสียชีวิต