ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดชุมพรร่วมกับตำรวจภูธรสวี
นำหมายศาลบุกเข้าจับกุมตัวหนุ่มไทยหลังตระเวนขโมยลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชน
โดยนำปืนที่ได้ขายให้กับลูกจ้างตัดยางชาวเมียนมาโดยอ้างว่าส่งต่อไปให้เพื่อนเป็นชนกลุ่มน้อยริมชายแดนฝั่งประเทศเมียนมา
เมื่อวันที่
7 ก.พ.67 ร.ต.อ.สมคิด จันนินวงศ์
รอง สว.สส.สภ.สวี จ.ชุมพร ร.ต.อ.ธวัช
ภู่พร รอง สว.กก.สืบสวน
ภ.จว.ชุมพร ร.ต.อ.ยงยุทธ สมัยสงค์
รอง สว.กก.สส.2 บก.สส.ภ8 ด.ต.ชวนากร บุญกาศจีระกุล พร้อมกำลัง
นำหมาย
สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี
ศาลจังหวัดหลังสวน ลงวันที่ 31 มกราคม 2567 ร่วมกันจับกุมตัวนายศุภรัตน์ หรือกาย
อายุ 21 ปี ขณะอยู่ในขนำไม่มีเลขที่ ซอนถ้ำหมี หมู่ 3
ตำบลวังใหม่ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ซึ่งต้องหากระทำความผิด
“ลักทรัพย์ในเคหสถานเวลากลางคืน
โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ฯ
พร้อมทั้งได้ตรวจค้นพบพระเครื่องหลายรายการซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นของกลางในการลักทรัพย์
จึงได้ยึดทำการบันทึกไว้
สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์
จากการสอบสวนขยายผลนายศุภรัตน์ หรือกาย
ให้การรับสารภาพว่า ตนเองพร้อมนายนภัทร
หรืออิฐ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนี ได้ก่อเหตุร่วมกันลักทรัพย์ในพื้นที่สภ.สวี
มาแล้วจำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกลักทรัพย์บริเวณใกล้กับวัดพระบรมธาตุสวี
หมู่ 1 ตำบลสวี อ.สวี จ.ชุมพร ได้เงินสด พระเครื่อง
จำนวนหนึ่ง
ครั้งที่สอง
ก่อเหตุลักทรัพย์ที่บ้านนาเหรียง หมู่ 1 ตำบลครน อ.สวี ทรัพย์ที่ได้ไปมีอาวุธปืนสั้นฯ 1 กระบอก พระเครื่องและเงินสด หลังก่อเหตุได้แบ่งกันกับนายนภัทร หรืออิฐ ส่วนอาวุธปืนได้นำไปขายให้กับ นาย
มิว มิน
ซอว ชาว
สนับสนุนโดยเพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์.
สัญชาติเมียนมาร์
ซึ่งอาศัยในบ้านไม่ทราบเลขที่ ริมถนนสายน้ำผุด-จันทึง หมู่ 5 ตำบลหินแก้ว อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปตรวจสอบพบ นาย
มิว มิน
ซอว
จึงได้แสดงตัวและสอบถามถึงอาวุธปืนสั้นฯนาย มิว มิน ซอว
พาเจ้าหน้าที่ไปเอาปืนที่ซุกซ่อนไว้ภายในบ้านโดยรับว่าได้ซื้ออาวุธปืนจากนายศุภรัตน์หรือกาย จริงในราคา
12,000 บาท จึงควบคุมตัวไปยังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการสืบสวนจังหวัดชุมพร โดยกล่าวหาว่า 1.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ลักทรัพย์หรือรับของโจร 3.เป็นบุคคลต่างด้านเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
การอนุญาตสิ้นสุดหรือเพิกถอน
ผู้สื่อข่าวสอบถามนาย มิว มิน ซอว
รับสารภาพอีกว่า อาวุธปืนที่ซื้อมาจะนำไปให้เพื่อนซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยฝั่งประเทศเมียนมาร์เพราะอยากได้ตนจึงรับซื้อไว้และบอกว่าทำเป็นครั้งแรก
แต่ด้านเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อซึ่งจะสอบสวนขยายผล ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน
สภ.ท่าแซะ
ส่วนนายศุภรัตน์ หรือกาย เคยถูกจำคุกในคดีลักทรัพย์มาแล้ว 1 ครั้ง และพ้นโทษมาเมื่อประมาณ 2
ปีก่อนจนมาก่อเหตุซ้ำจนถูกจับกุมอีก และอ้างว่าที่ก่อเหตุครั้งนี้เพราะไปเที่ยวบ้านเพื่อนแล้วเงินหมดขอใครไม่ได้จึงก่อเหตุนำเงินเสพยาเที่ยวเตร่ หลังสอบสวนและบันทึกการจับกุมเสร็จตำรวจได้ส่งตัวนายศุภรัตน์ให้พนักงานสอบสวน
สภ.สวี พื้นที่ก่อเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
..........................................................................................
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น