จนท.บุกรวบนักพนันลอบชนไก่ในสวนปาล์ม อ้างชนเพื่อการกุศล

 

จนท.ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และกอ.รมน.สนธิกำลังบุกรวบนักพนัน 33 รายลักลอบชนไก่ในสวนปาล์มน้ำมันตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร  

สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี

       เมื่อเวลา 15.50 น.วันที่ 12 เม.ย.67  เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ชุมพร ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ,พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร   เจ้าหน้าที่ตำรวจ

 กก.สส.ภ.จว.ชุมพร นำโดย  พ.ต.ท.สุรพศ สุทธิเกิด รอง นำกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าแซะ  เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอท่าแซะ  ภายใต้การอำนวยการของ นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอท่าแซะ   จนท

สนับสนุนโดย ร้านเค.เอส.รุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์

 กอ.รมน.จังหวัด ช.พ. นำโดย ร.อ.กอบศักดิ์ นาคหาญ จนท.ปฏิบัติการฝ่ายการข่าว,จ.ส.อ.อรรถพล คลี่บำรุง จนท.ฝ่ายการข่าว ,จ.ส.อ.พงศ์ศิลป์ รุ่งอาญา จนท.ฝ่ายการข่าว

      ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 33 คน แยกเป็นชายไทย  29 คน  หญิงไทย 1 คน ชายสัญชาติเมียนมา 3 คน ความผิดฐาน  “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีลักลอบเล่นพนัน ชนไก่ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต”  พร้อมยึดของกลางในที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย ไก่ชน จำนวน 5 ตัว และสังเวียนชนไก่ จำนวน 1 ชุด

สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์.

           สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ได้ทำการสืบทราบว่า มีการลักลอบเล่นการพนันชนไก่  ในสวนปาล์มน้ำมันบ้านน้ำตกทรายอ่อน กลุ่มปากพรุ หมู่ 17 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร  จึงได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ  และ

สนธิกำลังกันเข้าทำการตรวจสอบ โดยนัดรวมพล ตรวจเช็คกำลัง จากนั้นได้ร่วมกันเดินทางไปทำการตรวจสอบ เมื่อไปถึง พบ นักพนันชนไก่ จำนวนหลายชน กำลังล้อมวงเล่นพนันชนไก่กันที่ในสังเวียนชนไก่ในที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้พยายามพากันวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการควบคุมตัวผู้เล่นพนันชนไก่ไว้ได้

        

จึงได้แจ้งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน  “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีลักลอบเล่นพนัน ชนไก่ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต  และจากการสอบถาม ผู้เล่นการพนันที่ถูกจับกุมทุกคนให้การรับสารภาพ ว่า ได้ร่วมกันลักลอบเล่นการพนันชนไก่ พนันเอกทรัพย์สินกันจริง 

         ก่อนเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ถูกจับทุกคนพร้อมของกลาง มายัง สภ.ท่าแซะ จัดทำบันทึกการจับกุม นำตัว ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

..............................................................