หญิงวัย 43 ปีขับรถเก๋งออกไปทำงานตามปกติ
แต่หายไปผิดสังเกตไม่กลับบ้านญาติระดมออกตามหาข้ามคืนและโทรติดต่อไม่ได้ จนตำรวจสายตรวจพบนอนรมควันเสียชีวิตอยู่ในรถเก๋งจอดนิ่งดับเครื่องอยู่ริมถนนเยื้องหน้าวัดแห่งหนึ่ง
สภาพร่างกายเบื้องต้นไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายแต่อย่างใด
สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 16 ก.ค.67 พ.ต.ท.ไพศาล ศรีสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร
ได้รับแจ้งว่ามีคนนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถเก๋งจอดอยู่ริมถนนสายเอเซีย 41 ฝั่งขาล่องใต้ ระหว่าง กม.ที่ 49-50 เยื้องวัดเขาหมาแหงนหรือวัดผุสดีภูผาราม
หมู่ 2 ตำบลช่องไม้แก้ว อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร
จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วยพ.ต.อ.กิตติพงศ์ เทพหนู
ผกก.สภ.ทุ่งตะโก แพทย์โรงพยาบาลทุ่งตะโก ตำรวจพิสูจน์หลักฐานชุมพร เจ้าหน้าที่กู้ภัยกู้ชีพเขตทุ่งตะโก รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งนั่งส่วนบุคคล
ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยารีส สีเทา ทะเบียน ชุมพร จอดนิ่งดับเครื่องยนต์อยู่ริมไหล่ทาง ลักษณะเป็นเนินสูง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นบริเวณไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใกล้รถเก๋งคันดังกล่าว
ซึ่งมองจากภายนอกผ่านกระจกพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงทราบชื่อภายหลังคือน.ส.สุลาวัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ชาวอ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร สภาพนั่งหลังพิงอยู่บนเบาะคนขับ
สนับสนุนโดย ร้านเค.เอส.รุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์
ตรวจสอบพบว่าประตูรถถูกล็อคจากภายในทุกด้านจึงให้ช่างมาทำการปลดล็อคได้สำเร็จท่ามกลางสายฝนตกโปรยปรายตลอดเวลา
สภาพผู้เสียชีวิตสวมเสื้อยืดคอปกแขนสั้นสีกรมท่า นุ่งกางเกงขายาวสีดำ
มีรองเท้าแตะสีดำวางอยู่ใต้เบาะนั่ง 1
คู่ โดยยังพบอีกว่ามือขวาของผู้เสียชีวิตกำบุหรี่ไฟฟ้าไว้แน่น
เบาะนั่งข้างคนขับมีกระเป๋าสะพานวางอยู่ 1ใบ
ประตูข้างคนขับพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายเสียบคาไว้ และยังพบเตาอั้งโล่วางอยู่บนที่วางเท้าบริเวณเบาะหลังด้านซ้าย
1 ลูก สภาพถ่านไหม้หมดแล้วเหลือแต่ขี้เถ้า
เจ้าหน้าที่เก็บบันทึกไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งตรวจลายนิ้วมือแฝงภายในรถคันเกิดเหตุอย่างละเอียด
คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง
สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์
สอบถามนายประสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 76 ปี ผู้เป็นพ่อคนตาย เล่าว่า
ลูกสาวได้ออกไปทำงานที่อำเภอสวีตั้งแต่ ช่วงเช้าวันที่ 15 ก.ค.ถึง 5
โมงเย็นก็ยังไม่กลับบ้านโทรตามก็ไม่รับสาย
จึงออกตามหาตั้งแต่เมื่อวานจนข้ามคืนจนช่วงสายๆวันนี้มีคนแจ้งว่านอนนิ่งอยู่ในรถ
และเดินทางมาดูพบเสียชีวิตแล้ว ก่อนหน้านี้ลูกสาวไม่ได้พูดอะไรดูไม่เครียด ปกติทุกอย่าง
ส่วนนายเรวัฒน์ (สงวนนามสกุล)อายุ 27ปี สามีผู้เสียชีวิต เล่าด้วยอาการน้ำตาซึมว่า
ปกติจะกลับบ้านตรงเวลาแต่เมื่อวานเห็นผิดเวลาจึงโทรตามแต่โทรเท่าไหร่ก็ไม่ติด
ส่วนปัญหาก่อเหตุนั้น ภรรยาไม่ได้พูดหรือเล่าปัญหาอะไรให้ฟังทั้งสิ้น
ทั้งปัญหาส่วนตัวและที่ทำงาน ตนกับภรรยาก็ไม่เคยทะละกันเลย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ทุ่งตะโก
กล่าวว่า สายตรวจรถยนต์ได้ออกตรวจเมื่อถึงจุดเกิดเหตุพบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่เห็นผิดปกติเบื้องต้นตรวจสอบพบมีคนอยู่ด้านใน
คาดว่าน่าจะเสียชีวิตจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนเดินทางมาตรวจสอบ
หลังเกิดเหตุเก็บพยานหลังฐานทั้งพยานแวดล้อมและพยานบุคคลก่อนบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมส่งร่างผู้เสียชีวิตไปยังโรงพยาบาลทุ่งตะโกเพื่อชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง
เบื้องต้นญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น