ชาวบ้านสุดทนสามผัวเมียมั่วสุมเสพยาแจ้งตำรวจช่วยเด็ก 2 คน
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 กันยายน 67 พ.ต.ท.วิจิตร สามัญเมือง สว.สืบสวน สภ.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า มีสามคนผัวเมีย อาศัยบ้านอยู่ข้างสำนักสงฆ์เขาสามล้าน ม.1 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มี
พฤติกรรมมั่วสุมเสพยาเสพติด
กันภายในบ้านซึ่งมีลูกชายและหลานสาว วัย 6 ปี กับ 4 ปีของทั้งสามอยู่ด้วย หวั่นจะเกิดเหตุร้ายและส่งผลกระทบต่อเด็ก
วอนให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยจัดการนำตัวเด็กทั้งสองออกมาพ้นจากสิ่งที่ไม่ดี
จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังตำรวจพร้อมทหารชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน
(ชป.กร.)กองกำลังเทพสตรี และฝ่ายปกครอง
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ ตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ปลูกอยู่บนเชิงเขาริมถนนสายบ้านร้านตัดผม-เขาสามล้าน ใกล้กับสำนักสงฆ์เขาสามล้าน เพียง 50 เมตร เจ้าหน้าที่พบนายธวัชชัย ฯ อายุ 29 ปี ชาวตำบล
สนับสนุนโดย ร้านเค.เอส.รุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นั่งอยู่บริเวณหน้าประตูบ้าน ส่วนภายในบ้านพบ น.ส.สายฝน ฯอายุ 28 ปี ชาวตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งทั้งสองคนนี้เป็นสามีภรรยากัน ส่วนตัวเจ้าของบ้านทราบชื่อคือนายสุภาพ ฯ อายุ 48 ปี
นั่งเล่นอยู่กับ เด็กชายเอ นามสมมุติ อายุ 6 ปี ลูกชายของนายธวัชชัยกับ น.ส.สายฝน อยู่หน้าทีวี และ ด.ญ.บี
นามสมมุติ หลานของนายสุภาพ โดยทั้งหมดเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตกใจทำท่าจะลุกวิ่งหนี
ทำให้เด็กทั้งสองร้องไห้กระจองอแงลั่นบ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวและแจ้งให้ทราบถึงที่มาหา เนื่องจากได้มีการแจ้งเหตุดังกล่าว และจะขอตรวจค้นบริเวณรอบและในบ้าน ทำให้ทั้งสามผ่อนคลายลงแต่ก็ยังแสดงอาการลักษณะเพิ่งเสพยาและยาบ้ากำลังออกฤทธิ์ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจค้นภายในบ้านและรอบบ้าน ซึ่งพบเพียงเศษกระดาษฟรอยและอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้สำหรับเสพยาบ้า
ถูกทิ้งไว้ในกองขยะ
และในห้องนอน ยังพบหลอดยาลมแบบพลาสติกใสชนิดพกพามีเศษยาบ้าแตกหล่นอยู่
แต่ไม่พบยาบ้าแต่อย่างใด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมทั้งนำปัสสาวะของนายสุภาพและนายธวัชชัย
มาตรวจหาสารเสพติดในร่างกายพบเป็นสีม่วงทั้งคู่
จากการสอบถามนายธวัชชัย
ทราบว่า ตนกับ น.ส.สายฝน นั้นเป็นสามีภรรยากัน อยู่ด้วยกันมา 9 ปี จนมีลูกชายคนหนึ่งชื่อ ด.ช.เอ นามสมมุติ
โดยทำมาหากินแถวบ้านของนายวัชชัย ที่ ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ต่อมาตนเองและ
น.ส.สายฝน ภรรยาได้รู้จักกับนายสุภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มเสพยาเสพติดด้วยกัน ต่อมาประมาณ
2-3 เดือนที่ผ่านมา น.ส.สายฝน ได้หนีนายธวัชชัยและลูกชาย
เพื่อมาอยู่กินกับนายสุภาพ ที่บ้านหลังนี้ ตนเองสงสารลูกร้องไห้ทุกวัน หลังจากที่
น.ส.สายฝน หนีออกจากบ้าน ตนไม่รู้จะทำอย่างไร จะไปตาม น.ส.สายฝน
ให้กลับบ้านมาสร้างครอบครัวใหม่ แต่ทางครอบครัวตนเอง ไม่ยอมรับ ตนเองจึงตัดสินใจ
อุ้มลูกหนีออกจากบ้าน มาอาศัยชายคาเดียวกัน สามคนผัวเมีย เสียเลย
เพื่อจะลูกต้องไม่กำพร้าแม่
ในขณะที่นายสุภาพ
เล่าว่า
เราทั้งสามก็ยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพร้อมที่จะอยู่ร่วมชายคาเดียวกันเพราะทุกคนรับได้
ส่วนเรื่องยาบ้านั้น เราเป็นเพียงผู้เสพยาเสพติดเท่านั้น โดยยาเสพติดที่เสพนั้นก็เพียงยาบ้า
และน้ำต้มกระท่อมเท่านั้น ยาบ้า ที่นำมาเสพกันนั้น
ตนจะเป็นคนสั่งซื้อผ่านทางเฟซบุ๊ค และจะนัดรับใกล้บ้าน โดยแต่ละครั้งจะซื้อมาเสพ
ครั้งละ 5 เม็ด โดยนายสุภาพ จะเสพ วันละ 2 เม็ด
ส่วนนายธวัชชัย จะเสพ 2 เม็ด ส่วน
น.ส.สายฝน จะเสพยาบ้า 1 เม็ด ที่เหลือ
ส่วนที่มีชาวบ้านแจ้งตำรวจไปว่า เสพต่อหน้าเด็กนั้น ตนเองก็ยืนยันว่า เมื่อซื้อยาบ้ามาแล้ว จะแบ่งกันแล้วคอยหมุนเวียนนั่งคุมเด็กทั้งสองไว้ให้อยู่เฉพาะบริเวณหน้าบ้านเท่านั้น ส่วนคนที่จะเสพ ก็จะเดินไปแถวกองขยะ หลังบ้าน เป็นบริเวณเสพยาบ้า ทุกครั้งที่เสพยาบ้า จะไม่ให้เด็กเห็น เพราะรู้ว่ายาเสพติดเป็นสิ่งไม่ดี แต่ที่เสพก็เพื่อทำงานเท่านั้น
และเราสามีคนผัวเมีย
จะขอเข้าสู่กระบวนการบำบัดผู้ป่วยติดยาเสพติด ตามสิทธิกฎหมายทุกประการ
เพื่อขอโอกาสกลับมาเป็นคนดีของสังคมอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกคำให้การพร้อมให้ทั้งสามไปรายงานตัวทุกครั้งระหว่างอยู่การบำบัดรักษาตามเงื่อนไขของ
รพ.ส่วนเด็กทั้งสอง
จะมอบให้ญาตินำไปดูแลเป็นการชั่วคราวก่อนนำคืนสู่โอบอกครอบครัวภายหลังต่อไป
.........................................................
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น