อาสากู้ภัยคาใจหญิงปริศนาโผล่ร่ำให้พอรู้ว่าผู้ตายไม่ใช่คนขับเก๋งBMWฉิ่งหาย

รูปภาพ
        จากกรณี นางสาวจิรันธนิน อายุ 30 ปี ขับรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อ BMW หมายเลขทะเบียน กจ 44 นครศรีธรรมราช ด้วยความเร็ว 207 กม./ชม.พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ รุ่นเวฟ 110 ไอ หมายเลขทะเบียน 1 กณ 9257 ชุมพร มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ เป็นนักเรียนชายชั้น ม. 4 กับนักเรียนหญิงชั้น 2. โรงเรียนดังในเมืองชุมพร ตายพร้อมกับแม่รวม 3 ศพ  ขณะแม่ขับไปรับกลังจากเรียนพิเศษ ส่วนสาวที่เป็นคนขับรถ BMW ได้ขอให้ชาวบ้านละแวกเกิดเหตุช่วยหาแมวสายพันธุ์ต่างประเทศจนเจอ แล้วทิ้งรถเก๋งคันหรูอุ้มพาแมวหลบหนีหายไปกับความมืด เหตุเกิดเชิงสะพานถนนสาย จ. หมู่ 9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อค่ำวันที่ 27 พ.ย. 67 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมาและมีความเคลือบแคลงสงสัยหลายประเด็นของคดีดังกล่าวด้วย        ความเคลื่อนไหวล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 67 ฟังอีกมุมจากกู้ภัยสาวที่มีข้อสงสัยกับพฤติกรรมของหญิงสาวปริศนาเข้ามาร่ำให้ต่อหน้าร่างผู้เสียชีวิตแต่พอรู้ภายหลังว่าผู้เสียชีวิตไม่ใช่คนขับเก๋ง BMW กับกับอึ้งพร้อมกับหายตัวไป       โดยอาสากู้ภัยสาวรายนี้เป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าช่วยเหลือทำ CP

แม่ร้องครูหนุ่มทำร้ายเด็กพิเศษลูกชายวัย 6 ขวบจับกดพื้นใบหน้าดวงตาช้ำเลือด

 

จากกรณีมีการแชร์สนั่นโลกโซเชียลรายหนึ่งในพื้นที่อำเภอหลังสวน จ.ชุมพร โดยโพสรูปภาพของเด็กที่ถูกทำร้ายและภาพครูผู้ช่วยชายรายหนึ่งพร้อมระบุข้อความว่า “คนหลังสวนคิดว่ายังไง ถ้าครูผู้ช่วยคนนี้ทำกับลูกหลานท่านช่วยกันแชร์เลยคะพรุ่งนี้นักข่าวทุกสำนักต้องมาเยือน #สงสารน้องตะวัน รร.แห่งหนึ่งไม่ไกลจากอำเภอหลังสวน ครูผู้ช่วยทำเกินกว่าเหตุ จับเด็ก อ. กดพื้น เหตุจากร้องให้ไม่หยุด” ซึ่งโพสดังกล่าวเกิดการวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างโดยประชาชนให้ความสนใจ แต่หลังจากนั้นก็มีการลบโพสดังกล่าวไปแล้ว

          ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่อำเภอหลังสวนพบแม่พ่อและญาติเด็กที่ถูกทำร้ายเพื่อขอทราบข้อเท็จจริง แม่เด็กยินยอมเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวรับฟังว่า คุณตาของเด็กได้ไปรับกลับจากโรงเรียนแต่เห็นว่ามีรอยฟกช้ำบริเวณใบหน้า และดวงตาข้างขวาช้ำเลือด และหลังกกหู น้องเป็นเด็กพิเศษไม่ค่อยพูดแต่บนว่าเจ็บ

          ต่อมาทางคุณตาได้สอบถามที่โรงเรียน ทางครูประจำชั้นอ้างว่าน้องทำตัวเอง แต่คุณครูคนดังกล่าวโทรศัพท์ไปบอกป้าเด็กว่าครูจับน้องกดลงพื้น เพราะว่าน้องร้องให้ไม่หยุดและเป็นวิธีการดูแลเด็ก  โดยปกติน้องเป็นเด็กซนมีโวยวายบ้างตามประสาเด็กพิเศษ สำหรับลุกชายเข้าเรียนที่ศูนย์ฯเกิดเหตุได้เพียงไม่กี่เดือน ซึ่งก่อนหน้านั้นได้หยุดเรียนและหาหมอเพื่อฝึกพัฒนาการ

          แม่เด็ก เล่าต่อว่า ครูก็ยังยืนยันว่าเขาทำแบบนี้เพราะทำถูกต้องแล้วซึ่งเป็นวิธีของเขา  ตนองฟังดูแล้วไม่พอใจเพราะมันรุนแรง เด็กเจ็บจากการฟกช้ำไม่ควรจะเกิดขึ้น หลังเกิดเหตุได้เดินทางไปแจ้งความแล้ว ที่สภ.หลังสวน         รอติดต่อโรงเรียนอีกที อีกทั้งต้องรอดูกล้องวงจรปิดเพราะเด็กเจ็บจริงๆ ตอนนี้น้องมีอาการเจ็บและจับใบหูบ่อยๆในหูไม่ได้เป็นแผลแต่ก็ช้ำเลือด มีชาวบ้านและพระสงฆ์พูดให้ฟังว่าเคยมีเหตุการณ์กรำทำกับเด็กคนอื่นด้วย ซึ่งตนก็ไม่ได้เห็นเอง เขาบอกมาแบบนั้นแต่น่าจะคงมีเกิดขึ้นบ้าง

         ทางโรงเรียนจะนัดคุยเจรจากันที่โรงพักอีกทีวันอาทิตย์ ตนเองต้องการที่จะคุยเร็วๆจริงแล้วต้องได้คำตอบในวันนี้ด้วยซ้ำแต่ทางโรงเรียนยังไม่คุยให้ชัดเจน หลังเกิดเหตุมาทางฝ่ายผอ.และผู้ช่วยการศึกษาพิเศษเดินทางมาพูดคุยด้วยโดยแจ้งว่าวันจันทร์ทางโรงเรียนจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้วจะติดต่อกลับมาอีกที ตนมองว่าไม่อยากให้เกิดขึ้นกับเด็กคนอื่นในเมื่อทำกับลูกของตนได้ก็น่าจะทำกับลูกคนอื่นได้เหมือนกัน

ซึ่งตนมีความกังวลว่าถ้าคุณครูตนดังกล่าวยังสอนอยู่หรือยังเป็นครูอยู่ก็น่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ครูทำรุนแรงกับเด็กไม่อยากให้เป็นครูต่อไปแล้ว”  แม่เด็ก  กล่าวให้สัมภาษณ์

.....................................................










ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เก๋งบีเอ็มชนจยย.3แม่ลูกร่างลอยคนละทางกู้ภัยสุดยื้อเสียชีวิตทั้งหมด หญิงคนขับเก๋งอุ้มแมวหายตัวไป

หญิงเจ้าของรถบีเอ็มฯดอดเข้าพบตร.แล้ว

ญาติร่ำให้หนุ่มออกทอดแหจับกุ้งพลัดเรือจมหายค้นหาข้ามคืนพบเป็นศพ