ตามรวบแรงงานต่างด้าวลอบค้ายาเสพติดและผลิตปืนเถื่อนขาย

คืบหน้าหญิงวัย 53 ปีเผยชีวิตรันทด
หลังโดนอดีตผัวแอบขายบ้านที่ดินขณะถูกจำคุกหลังพ้นโทษ
เป็นคนไร้บ้านต้องอาศัยญาติใช้โรงรถ-โรงเก็บฟางเป็นที่หลับนอน ร้องขอความเป็นธรรม
จากกรณีน.ส.รัชนีพร หรือสาว กลิ่นม่วง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 12 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังพ้นโทษคดียาเสพติดเดินทางกลับบ้านที่พ่อแม่เคยสร้างไว้ด้วยน้ำพักน้ำแรง
หวังเป็นที่อยู่อาศัย ทำสวนทุเรียนเลี้ยงชีพในช่วงบั้นปลายชีวิต
ต้องน้ำตาตกพบว่าอดีตผัว ที่เคยเลิกรากันกว่า 2 ปี เหตุเพราะติดการพนันและติดผู้หญิง
ย่องกลับมาแอบขายบ้านและสวนทุเรียนเชิดเงินไปจนหมด
ขณะสาวใหญ่ผู้เสียหายถูกจำคุกอยู่ในฑัณฑสถานหญิงสงขลา
และพบว่าถูกขายผ่านมือไปแล้วถึง 5 ราย จึงร้องขอความเป็นธรรมทวงถามถึงหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องว่า
มีการซื้อขายกันได้อย่างไรเมื่อ
ทั้งที่ผู้เสียหายยังมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านอยู่ในทะเบียนบ้าน
อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าของบ้านผู้เสียหายถาม ใครเป็นผู้เซ็นต์รับรองหนังสือซื้อขายบ้านให้ ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ หมู่ 12 (บ้านบางมาศ)ติดตามความคืบหน้าและตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว พบน.ส.รัชนีพร หรือสาว ผู้เสียหายในคดีดังกล่าว โดยพาไปชี้ให้ดูโรงรถและโรงเก็บก้อนฟาง ของญาติราย
หนึ่งที่ใช้เป็นที่ช่วยทำงานและเป็นสถานที่อาศัยหลับนอน
ที่ต้องเลือกโรงรถและโรงเก็บฟางข้าวเพราะเกิดความเกรงใจเจ้าของบ้านไม่อยากรบกวนไปมากว่านี้ ถึงมองว่าเป็นความรันทดของชีวิตจริงๆ
ขณะเดียวกันทางด้านนายสมบูรณ์ ฯอายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ 12 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อนบ้านน.ส.รัชนีพร
เจ้าของบ้านที่เป็นผู้เสียหาย เล่าว่า
เดิมที่ดินและบ้านเป็นของตน แต่ตนได้ยืมเงินของน.ส.รัชนีพร หรือสาว
ตอนหลังไม่สามารถหาเงินจำนวน 350,000 บาทมาใช้คืนได้ จึงยกที่ดินประมาณ
5 ไร่กับบ้านอีก 1 หลังให้เป็นการชดใช้หนี้กัน
หลังจากนั้นก็เห็นเขาอยู่ทำมาหากินกันที่บ้านหลังดังกล่าว
แต่เรื่องส่วนตัวอื่นๆว่าแยกทางกันนั้นตนเองไม่รู้
นายสมบูรณ์ เล่าอีกว่า
ที่ดินติดเขตป่าสงวนฯทางเจ้าหน้าที่รัฐอนุญาตให้ชาวบ้านจับจองเป็นที่ทำกินประมาณกว่า
30 ปี ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ
ส่วนน.ส.สงัดฯอายุ 64 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านอีกคน ที่มีสวนอยู่ติดกัน เล่าว่า น.ส.รัชรีพร หรือสาว บอกผ่านน้องสาวมาว่า ให้ตนเข้าไปร่วมทำสวนในที่ของน.ส.รัชนีพรได้เลย รายได้จากสวนจะได้แบ่งกัน หลังจากพ้นโทษออกมาจะได้มีเงินใช้บ้าง จากนั้นสามีตนก็ไปกู้เงิน ธกส.มาลงทุนในสวน พอทำไปทำมาอดีตผัวของน.ส.รัชนีพร ที่เลิกรากันไปก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ปี จู่ๆก็มาขอคืนตนไม่รู้จะทำไงก็เลยปล่อยให้เขาไป แต่ทางอดีตผัวของน.ส.รัชนีพร อ้างว่าเดี๋ยวจะคืนเงินให้บ้างเพราะเห็นว่าตนไปกู้เงินธนาคารมาลงทุน ตั้งแต่นั้นไม่เห็นทำตามที่พูดไว้ มารู้อีกทีอดีตผัวน.ส.รัชนีพร ขายบ้านและที่ดินไปแล้ว
ทางด้านนายวิชัย ฯ อายุ 30 ปีชาวหมู่ 22 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
ซึ่งเป็นเพื่อนของหลานน.ส.รัชนีพร ออกมาเล่าว่า
รู้สึกเห็นใจเจ้าของบ้านอยากให้ได้บ้านคืน ตอนที่ป้าสาว
เจ้าของบ้านถูกจำคุกหลานป้าสาวได้มาพักอาศัยดูแลบ้าน ก็ถูกอดีตผัวป้าสาวมา
ไล่ข่มขู่ให้ออกจากบ้านจำใจต้องออกเพราะเขามีปืน”
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนายสวง
ริ้วงาม อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12 ตำบลรับร่อ ปัจจุบันเป็นนายก.อบต.รับร่อ กล่าวว่า
ขณะนั้นตนยังเป็นผู้ใหญ่บ้าน น.ส.รัชนีพร มายื่นขอบ้านเลขที่จึงออกให้เขาไป
สมัยนั้นยังไม่จับพิกัดเรื่องที่ดิน ต่อมาทราบว่าถูกจับกุมในคดีค้ายาเสพติด
ส่วนการซื้อขาย หลังออกจากคุกจะกลับมาอยู่ในที่ดินพบว่าเปลี่ยนเจ้าของขายเปลี่ยนมือไปหมดแล้ว
ตนในฐานะผู้นำไม่ได้เซ็นต์หนังสือรับรองอะไรที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์เพราะติดเขตป่าสงวนฯ
แต่บางคนที่ซื้อไม่มั่นใจ ก็จะให้เซ็นต์รับรองว่าซื้อจากคนนี้จริง รายนี้มาทราบตอนหลังว่าขายเปลี่ยนมือไปแล้ว
แต่ผู้ซื้อรายที่ 5
ตนได้อยู่ในตำแหน่งนายก อบต. ไม่ทราบว่าผู้ใหญ่คนใหม่เซ็นต์รับรองให้หรือเปล่า
แต่ตนยืนยันว่าสมัยตนเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่ได้เซ็นต์หนังสืออะไรจากที่ดินที่มีปัญหากันอยู่ในขณะนี้
หมู่ 12 เป็นพื้นที่บางส่วนติดพื้นที่ สปก.และป่าสงวน
ซื้อขายได้ชาวบ้านชุมชนรู้กันระหว่างการซื้อขายเปลี่ยนมือ แต่จะทำอะไรได้เป็นโมฆะกันไป
ส่วนจะเป็นคสช.หรือเปล่าตนไม่รู้ ”นายก อบต.รับร่อ กล่าว
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวด้านน.ส.รัชนีพร
ในฐานะเจ้าของบ้านที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลังดังกล่าว
ถามว่าการซื้อขายบ้านที่เจ้าบ้านไม่รับรู้ จู่ใครก็ได้มาบอกขายบ้าน
แล้วจะซื้อขายกันได้ง่ายๆกันขนาดนั้นเชียวหรือ วันหนึ่งพอเจ้าของบ้านทวงสิทธิ์กฎหมายจะทำอะไรกับคนซื้อคนขายได้บ้าง
จึงขอความเป็นธรรมด้วย
...........................................................
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น