ระทึก!กระบะขนแรงงานเถื่อนเต็มคันคนขับซิ่งแหกด่านฝ่ายปกครองพลิกคว่ำเจ็บระนาว
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
คลิปนาทีระทึก!กระบะขนแรงงานเถื่อนเต็มคันคนขับซิ่งแหกด่านฝ่ายปกครองพลิกคว่ำเจ็บระนาว ด้านผู้ต้องหาลั่น
“ผมคนดีนะพี่”ต่อไปแล้วแต่เวรแต่กรรม
เมื่อวันที่ 20 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศิลปชัย เรือนสูง นายอำเภอสวี มอบหมายให้ นางสาวนนท์ลภัส ชูสอน ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายบุญก้อง ศรีสงคราม ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายดารากร จันทนา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง
พร้อมด้วย นายอุดม ช่วยเต็ม กำนันตำบลทุ่งระยะ นายนิติคม พรหมเจริญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งระยะ และ นายสมหวัง เรืององอาจ นายสมนึก มาพร้อม นายภัทรดร ซั่วเซ่งอี้ ทั้ง 3 นายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบล ทุ่งระยะ นายนพดล หวังถวิล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9
ซิ่งแหกด่านจนท.ฝ่ายปกครองอำเภอสวีจนพลิกคว่ำ
ตำบลทุ่งระยะ
นางสาวสุนิศา เผือกผ่อง เจ้าหน้าที่ ศป.ปส.อ.สวี พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน
สังกัดกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอสวีที่ 5 ประกอบด้วยนายหมวดตรีนิมล จันทราม,
นายหมู่ใหญ่อัมภวัน
ภู่ขันเงิน, นายหมู่ใหญ่บรรจง วงศ์สุวัฒน์, นายหมู่ใหญ่บัญชา นามกร, นายหมู่ใหญ่พิศาล คงเจริญ,
นายหมู่โทพงษ์ศักดิ์ ชื่นจิตร สมาชิกเอกณัฐพงษ์
สุขสำเภา
เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สวี ภายใต้การอำนวยการของ
พ.ต.อ.อุดร แก้วสุขศรี ผกก.สภ.สวี, พ.ต.ท.เชิดชัย
ยิ่งสังข์ รองผกก.สภ.สวี, ร.ต.อ.มานิตย์ มณฑิราช รอง
สวป.สภ.สวี, ด.ต.ขจรศักดิ์ แทนโป ผบ.หมู่(ป.)สภ.สวี ด.ต.พิชิต
เกตุสถิตย์ ผบ.หมู่(ป.)สภ.สวี
สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายข่าวในพื้นที่
ว่ามีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผ่านเส้นทาง อำเภอสวีในพื้นที่ตำบลทุ่งระยะ
โดยในเดือนมีนาคม 2565 ได้มีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวมาแล้วประมาณ 3 - 4 ครั้ง
โดยจะมีรถจากต่างพื้นที่เข้ามารับแรงงานต่างด้าว และสายข่าวแจ้งว่าในคืนนี้(วันที่
19 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 20 มี.ค.)จะมีการขนแรงงานต่างด้าวอีก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีแรงงานต่างด้าวชาวพม่าน่าจะเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย มาพักอาศัยอยู่บริเวณแนวป่าบนเขา ในซอยกรุงเทพ พื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งระยะ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร จึงได้สนธิกำลังกันทำการดักซุ่มดูอยู่บริเวณริมถนนในซอยดัง
แรงงานเมียนมาที่ได้รับบาดเจ็บกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ
กล่าว จนเมื่อเวลาประมาณเวลา 02.00 น. มีรถต้องสงสัยขับออกมาจากซอยคาดว่าน่าจะเป็นรถคันที่ใช้ขนแรงงานต่างด้าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น เมื่อคนขับรถคันดังกล่าว เห็นเจ้าหน้าที่ จึงได้เร่งเครื่องทำการหลบหนี ไม่ยอมให้ตรวจค้น ทำให้รถเสียการทรงตัวพลิกคว่ำ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าทำการตรวจสอบรถคันดังกล่าว เป็นรถกระบะบรรทุก ยี่ห้อ อีซูซู สีบรอนเงิน ทะเบียน บท 7229
สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์
สมุทรปราการ พบผู้โดยสารอยู่ในกระบะ โดยมีผ้าใบทึบสีดำปิดคลุมกระบะไว้โดยรอบ
มีบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาอยู่ในกระบะรถคันดังกล่าว นับรวมได้ จำนวน 35 คน ได้รับบาดเจ็บการการรถพลิกคว่ำหลายรายจึงประสานกู้ภัยเขาทะลุปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดมายังที่ว่าการอำเภอสวี
ตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีหนังสือเดินทางมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม และได้ตรวจสอบผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว ชื่อ นายฤทธิ์ธีเดช หรือแม็ก คงสงค์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/95 หมู่ 5 ตำบลบางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง สอบถามให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ขับขี่รถคันดัง
กล่าวและได้รับตัวบุคคลต่างด้าวโดยสารมากับรถคันของตนจริง โดยจะนำบุคคลต่างด้าวไปส่งยังอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อ้างว่าทำมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อ 2 วันก่อนโดยขับรถกระบะมารับแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาชายหญิงจำนวนหลายราย ณ ที่จุดเดียวกัน นำพาชาวเมียนมาทั้งหมดนั่งรถกระบะไปส่งที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้รับค่าจ้างเที่ยวละ 10,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสวีซึ่งเป็น
ชุดจับกุมตัวได้ในครั้งนี้ไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายฤทธิ์ธีเดชฯ
คนขับรถ ซึ่งเป็นชาวจ.ระนอง เนื่องจากมีหลักฐานจากการพุดคุยผ่านข้อความทางโทรศัพท์มือถือและหลักฐานอื่นๆ
ผู้ต้องหา ยังสารภาพอีกว่า เมื่อ 5 ปีก่อนเคยถูกจับคดีขนโรฮิงญา และถูกคุมขังในเรือนจำมากว่า 2 ปี เมื่อออกมาได้ประกอบอาชีพสุจริตโดยรับจ้างเลี้ยงกุ้ง แต่ถูกตำรวจจับในคดีมีอาวุธปืนปลอมสิ่งเทียม(ปืนอัดลม) ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 16 เดือน ซึ่งประกันตัวออกมายื่นอุทธรณ์
สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์
สู้คดี แต่ด้วยประสบปัญหาการเงินรถกำลังจะโดนยึด
จึงกลับมาขนแรงงานเถื่อนอีกจนถูกจับดังกล่าว โดยผู้ต้องหาลั่นว่า “ผมคนดีนะพี่”ต่อไปนี้แล้วแต่เวรแต่กรรม”
ผมช่วยให้แรงงานพวกนี้มีงานทำเท่านั้นเอง
นายฤทธิ์ธีเดช/คนขับรถกระบะนำพาแรงงานเถื่อนหนี
โดยชาวเมียนมาทั้งหมด 35 คนและคนไทยผู้นำพา 1 คน ได้ถูกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสวีให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19(ATK) แต่ปรากฏไม่พบเชื้อแม้แต่รายเดียว
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายฤทธิ์ธีเดชฯ ว่า ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม และ
สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์
ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง
ส่ง พนักงานสอบสวนสภ.สวี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
..................................................................
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น