ผู้ว่าชุมพรเปิดวอร์รูมช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชกระท่อม
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
เร่งระบายต้นกระท่อมที่ตกค้างกว่า 4 ล้านต้นออกสู่ตลาด หลังเจออดีตนักการเมืองดัง ขายฝันส่งเสริมให้ปลุก แล้วจะรับซื้อส่งโรงงานในราคาต้นละ 30 บาท
โดยอดีตนักการเมือองยังได้เรียกเก็บเงินมัดจำค่ากล้ากระท่อมต้นละบาทแล้วกลับหายเงียบไป
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 กันยายน 2565 ที่ห้องประชุมศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผวจ.ชุมพร พร้อมด้วยนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ.ชุมพร นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร และคณะกรรมการ
ยุทธศาสตร์พัฒนาการด้านเกษตร ได้ร่วมประชุมกับเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชกระท่อม จ.ชุมพร จำนวน 50 ราย โดยการนำของนางเสาวนีย์ ช่วยชูหนู เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนกรณีที่เกษตรกรผู้ปลูกพืชต้นกระท่อม ได้ถูกนายทุนอ้างว่าได้มีบริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่ ต้องการต้นกระท่อมจำนวนมาก เพื่อจะนำไปสกัดและแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งหากผู้ใดสนใจเข้าร่วม ก็ต้องทำ
หนังสือสัญญาจองโควตาไว้ โดยจะเสียค่าจองโควต้าต้นละ 1 บาท เมื่อครบกำหนดตาม 3 เดือน ทางนายทุน จะมารับซื้อเพื่อนำไปส่งให้กับบริษัท ในราคาต้นละ 30 บาท ทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อ ทำสัญญาจองโควตา กันหลายรายๆละนับหมื่นจนเป็นถึงแสนต้น แต่เมื่อถึงกำหนดจริงทางนายทุนดังกล่าว ได้บิดพลิ้ว ไม่ทำตามสัญญา สร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านเป็นจำนวนมาก ที่ลงทุนไปแล้ว ซึ่งมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์.
นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผวจ.ชุมพร ได้เปิดเผยหลังจากที่ได้ประชุมรับฟังและหาข้อสรุปร่วมกัน กว่า 1 ชั่วโมง ว่า ชุมพรเป็นเมืองเกษตร ที่จังหวัดได้กำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาด้านการเกษตรไว้แล้ว และพืชกระท่อม ก็เป็นอีก 1 ตัวของพืชเกษตรตัวใหม่ของจังหวัดชุมพร ที่น่าจะทำรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพืชกระท่อมได้อย่างดี เพราะเป็นพันธุ์ดี เรียกว่าพันธุ์ก้านแดงชุมพร และพันธุ์
หางกั้งก้านแดง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค กลุ่มแรงงานมาก ดังนั้น
ทางจังหวัดได้ให้ความสำคัญกับพืชตัวนี้ไม่น้อยกว่าพืชเกษตรตัวอื่น
วันนี้ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือเร่งด่วน
โดยจะเปิดวอร์รูมให้คณะกรรมการทุกฝ่ายระดมแนวคิดในการแก้ไข
เพื่อหาทางออกและเร่งระบายต้นกระท่อมจากเกษตรกร ที่ยังตกค้างอยู่ประมาณ 4 ล้านต้น
นายโชตินรินทร์
กล่าวว่า ในเบื้องต้น ทางจังหวัดชุมพร จะติดต่อกับผู้ว่าฯของ 75 จังหวัด พร้อมทั้งทางนายนพพร
อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร
ก็จะประสานไปยังสมาพันธ์องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ผู้สนใจที่ต้องการสั่งซื้อต้นกระท่อมเพื่อนำไปปลูก
ไม่ว่าจะปลูกเพื่อสวยงามเพิ่มพื้นที่สีเขียว หรือจะปลูกพื้นใช้ประโยชน์ก็ตาม สามารถปลูกเป็นพืชแซม ปลูกตามหัวไร่ปลายนาได้ ปลูกในบ้านเรือนได้ สามารถที่จะสร้างรายได้ในพื้นที่ได้ โดยชุดแรก จำนวน 2 ล้านต้น ต้นกล้ามีตั้งแต่ ขนาด 1 เมตร
ไปจนถึง 2 เมตรครึ่ง อยู่ที่ราคา 20-50 บาท
หรือหากผู้สนใจมีความต้องการสั่งซื้อ ก็สามารถโทรมาที่หมายเลข 1567
ของจังหวัดชุมพร ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านนางเสาวนีย์ ช่วยชูหนู แกนนำเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกพืชกระท่อม กล่าวว่า หลังจากที่ได้ร่วมประชุมร่วมกับทางจังหวัด ในฐานะตนเองเป็นคนหนึ่งที่ปลูกต้นกระท่อมและได้รับความเดือดร้อน รู้สึกพึงพอใจในระดับหนึ่ง แต่หากจะให้ดีทางจังหวัดน่าจะรับซื้อพืชกระท่อมจากชาวบ้านไว้ก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้านและบรรเทาความเดือดร้อน เนื่องจากที่ผ่านมานั้น ชาวบ้านได้ทำการลงทุนในการปลูกต้นกล้าเป็นจำนวนมาก แต่ละต้นต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 10 บาทและยังต้องเลี้ยงมาอีกหลายเดือน หากทางจังหวัดสามารถรับซื้อพืชกระท่อมของชาวบ้านไว้ก่อน ชาวบ้านก็จะมีเงินหมุนเวียน
นางเสาวนีย์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเมื่อพืชกระท่อมได้ปลดล็อก ชาวบ้านก็เห็นว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้อีกทาง เพราะเป็นพืชที่สามารถเก็บเกี่ยวได้รวดเร็ว และใช้พื้นที่ในการเพาะปลูกไม่เยอะ
เมื่อนายทุนซึ่งเป็นถึงอดีตนักการเมืองดัง
เข้ามาชักชวนชาวบ้านและมีสิ่งจูงใจคือราคาที่จะได้รับจากการร่วมโครงการปลูกต้นกระท่อม
จึงหลงเชื่อเข้าร่วมจองโควตากัน จนเกิดความเสียหายกันเป็นจำนวนมาก
เพราะนายทุนคนดังกล่าว บิดพลิ้ว อ้างสารพัด แม้กระทั้งชาวบ้านที่ปลูกเข้าแจ้งความเพราะผิดสัญญา
นายทุนคนนี้ก็ยังไม่ทำตามสัญญาที่ตกลงจะชดใช้กับผู้สมัครรับค่าชดเชยที่ตกลงจาก 30
บาทเหลือ เพียง 6 บาท ก็ตาม จนขณะนี้ก็ยังไม่ได้
ชาวบ้านจึงได้รวมกลุ่มสร้างเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกพืชกระท่อมขึ้น
เพื่อสร้างพลังแต่ก็ไร้ผล จนต้องมาขอพึ่งจังหวัดเพื่อให้ช่วยเหลือระบายต้นกระท่อมดังกล่าว
.....................................................................................................
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น