โวยศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว จุดพักรถถนนริเวียร่าเมืองไทย เลียบชายฝั่งทะเลชุมพร งบกว่า 20 ล้าน
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
โวยศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว
จุดพักรถถนนริเวียร่าเมืองไทย เลียบชายฝั่งทะเลชุมพร งบกว่า 20 ล้าน ปล่อยร้างกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์รังแตนจำนวนมาก
โดนต่อยกันแล้วหลายราย แถมห้องสุขามีแต่อุจจาระเกรอะกรังเหม็นคลุ้ง
วันที่ 14 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว จุดพักรถถนนริเวียร่าเมืองไทย เลียบชายฝั่งทะเล ช่วงระหว่างบ้านน้ำพุ-บางเบิด หมู่ที่ 5 ตำบลปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านและนัก
ท่องเที่ยวว่า ถูกปล่อยทิ้งร้าง
แทบไม่ได้ใช้ประโยชน์ ใดๆเลย ซึ่งนักท่องเที่ยวที่แวะเข้าไปใช้บริการนั่งพักผ่อนและหลบแดดฝน
ได้ถูกแตนที่ทำรังอยู่จำนวนมากต่อยจนได้รับความเจ็บปวดกันหลายราย
แถมห้องน้ำก็สกปรกมีอุจราะเกอระกรังเหม็นคลุ้งจนน่าขยะแขยง
จากการตรวจสอบศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว จุดพักรถถนนเลียบชายฝั่งทะเลชุมพร ใช้งบประมาณสร้างกว่า 20 ล้านบาท อยู่บนเนื้องที่ราว 6 ไร่ ซึ่งเป็นถนนโครงข่ายเลียบชายฝั่งทะเลพื้นที่ภาคใต้ตอนบน หรือที่เรียกกันว่า “ถนนริเวียร่าเมืองไทย” เชื่อมโยงตั้งแต่ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ลงสู่จังหวัดทางภาคใต้ ทิศเหนือ และทิศตะวันออกติดกับ
โครงการพัฒนาส่วนพระองค์
ในหลวงรัชกาลที่ 9 จำนวน 400 ไร่
ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวศึกษาดูงานที่สำคัญของจังหวัดชุมพร
ส่วนด้านทิศใต้ติดกับแหล่องท่องเที่ยวสันทราย หรือ
“แซนดูนหนึ่งในสยามสันทรายงามที่ชุมพร” และแหล่งท่องเที่ยวสวยงามอีกหลายแห่งในพื้นที่ดังกล่าว
ภายในบริเวณศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว จุดพักรถถนนเลียบชายฝั่งทะเลชุมพร มีอาคารที่พักผ่อน นั่งเล่น จำนว 4 หลัง และอาคารแสดงแผนที่เส้นทางแหล่งท่องเที่ยว 1 หลัง ปรากฏว่าทุกอาคารตั้งแต่ต้นเสา คานบน ผนังฝ้าหลังคา เกือบทุก
ตารางนิ้ว
มีแต่ตัวแตนมาทำรังอยู่อย่างหนาแน่นจำนวนหลายร้อยรัง นอกจากนั้นตามกิ่งต้นไม้ที่ปลูกอยู่จุดลานจอดรถจำนวนหลายต้นเกือบทุกต้นมีแต่รังแตนเกาะอยู่จำนวนมาก
ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่แวะเข้าไปใช้บริการถูกตัวแตนต่อยไชจนเจ็บปวดและได้รับเจ็บกันมาแล้วหลายราย
ใกล้กับศาลาที่พักมีอาคารห้องสุขา
1 หลัง ภายในแยกเป็นห้องสุขาชาย ห้องสุขาหญิง และผู้พิการ
โดยห้องสุขาชายและผู้พิการถูกปิดล็อค เปิดให้ใช้เฉพาะห้องสุขาหญิง ซึ่งมีอยู่จำนวน
4 ห้อง ปรากฎว่ามีอุจจาระที่มีคนถ่ายอุจจาระไว้มีทั้งของเก่าและใหม่จนล้นคอห่านจนสกปรกเห็นแล้วขยะแขยงมีกลิ่นเหม็นโชยไปทั่ว และมีน้ำรั่วไหลเจิ่งนองพื้น
ส่วนบริเวณด้านข้างอาคารห้องสุขามีถังน้ำแสตนเลสขนาดใหญ่ 2 ถัง สำหรับกักเก็บน้ำ โดยติดตั้งปั้มน้ำอัตโนมัติไว้ข้างๆ 1 ตัว
และปั้มน้ำอัตโนมัติดังกล่าวมีเสียงเครื่องติดทำงานต่อเนื่องตลอดเวลาลักษณะเหมือนมีน้ำรั่วไหล
ทางด้านทิศตะวันออกติดกับลานจอดรถมีอาคารหลังใหญ่
2 หลัง ทั้ง 2 หลัง เป็นอาคารจำหน่ายสินค้าโอทอป
และบริเวณด้านหลังเป็นอาคารสำนักงาน 1 หลัง
ทั้งหมดถูกปิดตายไม่ได้ใช้งาน
ส่วนทางด้านทิศตะวันตกเป็นอาคารสำนักงานศูนย์บำรุงทางถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทย
สังกัดกรมทางหลวงชนบน กระทรวงคมนาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะกำลังสำรวจตรวจสอบตามที่ได้รับการร้องเรียนอยูนั้น ได้มีชายหญิงต่างชาติชาวยุโรปขับบิ๊กไบก์ 2 คัน แวะเข้าไปจอดเพื่อหลบฝนที่กำลังตกปรอย ๆ ขณะจอดรถบิ๊กไบก์และกำลังเดินเข้าที่หลบฝนที่ศาลา แต่เมื่อทีมงานผู้สื่อข่าวเห็นได้ตะโกนและวิ่งไปบอกให้ชาวต่างชาติระวังแตนจำนวนมากที่ทำรังอยู่ทั่วบริเวณของ
ศาลาที่พักดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่าช่วงที่ทีมงานผู้สื่อข่าวเดินไปชี้รังแตนให้ชาวต่างชาติทั้ง
2 คนดู ได้ถูกแตนบินเข้ามาต่อยที่คอและตามร่างกายอีกหลายจุด
ทำเอาทีมงานผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดและรีบวิ่งหนีออกมาอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่ชาวต่างชาติจะรีบขับรถบิ๊กไบก์ออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว
ต่อมาจากนั้นไม่นานได้มีสองสามีภรรยาขับรถยนต์แวะเข้ามาเพื่อใช้ห้องสุขา หลังจากจอดรถแล้วเดินเข้าไปในห้องสุขาได้ไม่กี่วินาทีจึงรีบเดินออกมาที่รถยนต์ด้วยสีหน้าตาที่ดูสะอิดสะเอียนขยะแขยงเต็มทน โดยนายวินัย มิ่งชื่น และภรรยากล่าวว่าขณะที่ตนขับรถผ่านถนนเส้นทางดังกล่าวรู้สึกปวดท้องหนัก จึงแวะเข้ามาเพื่อปลดทุกข์ ปรากฎว่า
เมื่อเดินเข้าไปในห้องสุขาถึงกับผงะโดยห้องสุขาที่เปิดให้บริการอยู่จำนวน 4 ห้อง ทุกห้องเต็มไปด้วยอุจจาระ มีกลิ่นเหม็นโชยอย่างรุนแรง
และพื้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำ จึงอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยดูแลจุดพักรถและศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวแห่งนี้ด้วย
เพราะเสียดายงบประมาณจำนวนมากที่ใช้ก่อสร้าง ซึ่งเป็นภาษีของประชาชน
ผู้สื่อข่าวรานงานว่าสำหรับสถานที่ดังกล่าวเมื่อปลายเดือนกันยายน พ.ศ.2560 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว ซึ่งขณะนั้นถูกปล่อยทิ้งร้าง เป็นที่มั่วสุมเสพยาเสพติด และก๊อกน้ำสแตนเลส บานเกล็ด ประตู หน้าต่าง และทรัพย์สินอื่น ถูกคนร้ายขโมยไปจนเกลี้ยง และเมื่อได้นำเสนอข่าวออกไปจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์
อย่างหนัก
จนทำให้ นายสมัย โชติสกุล รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ในขณะนั้น
รีบลงมาตรวจสอบในพื้นที่ และสั่งตั้งงบประมาณนันล้านบาท ลงซ่อมบำรุง
พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้มีความสวยงาม จากนั้นก็ปล่อยทิ้งร้างมาถึงทุกวันนี้
จนมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวร้องเรียนผู้สื่อข่าวดังกล่าว.
...........................................................................
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น