ตำรวจท่องเที่ยวระนอง จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ "ยักยอกทรัพย์"

รูปภาพ
ตำรวจท่องเที่ยวระนอง จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ  "ยักยอกทรัพย์" วันที่ 17 มิ.ย.2568 เวลา 20.00 น.ภายใต้การบังคับบัญชาของ พ.ต.ท.วชิรพิศักดิ์ ณ สงขลา สว.ส.ทท.2 กก.2 บก.ทท.3 สั่งการให้ ร.ต.อ.คณิศร บุญสิน  รอง สว.ส.ทท.2 กก.2 บก.ทท.3 พร้อมด้วยชุดสืบสวนระดมกวาดล้างอาชญากรรม ห้วง 14-20 มิถุนายน 2568  โดยบูรณาการร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองระนอง  ร่วมกันจับกุม นาย ทวีศักดิ์  อายุ 51 ปี ชาวต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดระนอง ที่ จ.110/2568 ลงวันที่ 30 พ.ค. 2568  ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ยักยอกทรัพย์“ ได้ที่สถานที่เกิดเหตุ (ตามหมายจับ) ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งพื้นที่ ม.3 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง ภายหลังจับกุม : ได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองระนอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 🔵กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ยึดมั่นในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว #สถานีตำรวจท่องเที่ยวระนองชุมพร

จนท.นำเรือฝ่ากระแสคลื่นออกไปรับลูกเรือและศพจากเรือน้ำมันที่ช่วยเหลือ ลำเลียงกลับคืนฝั่งได้สำเร็จ

 

          เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 20 ธ.ค. 65 น.อ.ชำนาญ สอนแพง ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จ.ชุมพร ภาค 1พร้อมด้วย นายคงศักดิ์ คงปาน หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ชุมพร และเจ้าหน้าที่ประจำเรือ

ตรวจการ ได้นำเรือตรวจการประมงทะเล 619 ฝ่ากระแสคลื่นลมเพื่อออกไปรับลูกเรืออนุภูมิ ซึ่งประสบเหตุเรืออับปาง

สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี

 จำนวน 10 คน ซึ่งได้รับบาดเจ็บหนัก 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย จากเรือน้ำมัน pattaravarin 88 ซึ่งได้ช่วยเหลือทั้งหมดได้ ก่อนล่องเรือมาจอดลอยลำอยู่หน้าเกาะเสม็ด ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อรอให้ทาง จนท.ได้มาลำเลียงทั้งหมดขึ้นฝั่ง

            ขณะที่นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผู้ว่าฯจ.ชุมพร ซึ่งเดินทางมากำกับดูแลการลำเลียงลูกเรือของเรือสินค้าอนุภูมิ ด้วยตนเอง ได้สั่งการให้ทางผู้กำกับการตำรวจภูธร ต.ปากน้ำชุมพร นำพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำ มาสอบปากคำ


เบื้องต้นควบคู่ไปกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปด้วย และได้สั่งการให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย พร้อมรถพยาบาล จากมูลนิธิรักศีลธรรม จากมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์และจาก รพ.ปากน้ำชุมพร รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จำนวน 10 คัน มาจอดรอเพื่อพร้อมที่ลำเลียงลูกเรือทั้งหมด ส่ง รพ.ปากน้ำชุมพรและ รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์

สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เรือตรวจการประมงทะเล 619 ได้ออกไป โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนกลับเข้ามาพร้อมลูกเรืออนุภูมิ ทั้งหมด เข้ามาเทียมท่าหน้าสำนักงานศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเล จ.ชุมพร โดยชุดแรก

 ได้ลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่มีอาการสาหัส ที่คาดว่าถูกกระแทกระหว่างกระโดดน้ำ 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.แอ๊ด สุพรม เร่งนำตัวส่ง รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์อย่างเร่งด่วน ก่อนจะลำเลียง อีก 8 คน ทราบชื่อคือ 1.นายสมาน ลัดดาแย้ม 2.สะระ มณีโชติ 3.นายธนพัน แกดีพันธ์ 4.นายฤทธิพร งามขำ 5.นายวรวุฒิ ช่วยชาติ 6.นายพงษ์ภานุ สวัสดิผล 7.นายสุรัช คำชื่น

สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์.

 และ 8.นายไพรัช จินดาพล ซึ่งทั้ง 8 ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงนำทั้งหมดส่ง รพ.ปากน้ำชุมพร เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ คือ นายพิทยา จิตรการณทีกิจ เจ้าหน้าที่ได้นำร่าง ส่ง รพ.ปากน้ำชุมพร เพื่อชันสูตรศพอย่างละเอียดถึงสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ แล้วจะนำศพส่งไปยัง จ.สมุทรปราการ เพื่อให้กับทางญาติทำพิธีทางศาสนาต่อไป

            นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผู้ว่าฯจ.ชุมพร เปิดว่า การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ เป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากคลื่นลมในทะเล มีความรุนแรงอย่างมาก โดยความเร็วลมเกินกว่า 10 น๊อต จึงไม่สามารถใช้ ฮ.ของตำรวจตระเวนชายแดน 41 จึงต้องรอห้วงเวลาที่คลื่นลมลดกำลังลง ที่พอจะนำเรือตรวจการประมงออกไปลำเลียงกลับขึ้นฝั่งได้ ซึ่ง

ยอมรับว่าตลอดทั้งวันของเมื่อวาน หลังจากที่เกิดเหตุ ทางจังหวัด ได้ตั้งกองอำนวยการขึ้นเป็นการเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจากภัยทางทะเล จนกระทั่งวันนี้ คลื่นลมได้ลดกำลังลง จึงสั่งการให้จัดกำลังพร้อมนำเรือออกไปปฏิบัติการลำเลียงผู้ประสบเหตุกลับมายังฝั่งอย่างเร่งด่วน ซึ่งผลก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

            นายสมพร กล่าวว่า ต่อจากนี้ หลังจากที่ส่งผู้ประสบเหตุ ทั้งหมดตรวจร่างกายแล้ว ก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้สอบปากคำสาเหตุการอับปางของเรือ ในส่วนการฝ่าฝืนประกาศนั้น น่าจะไม่เข้าข่าย เพราะประกาศนั้นออกมาว่าเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ส่วนเรือขนาดใหญ่ เดินเรือด้วยความระมัดระวัง แต่ทั้งนี้ ก็ต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงรอบด้านต่อไป เบื้องต้น ได้ประกาศพื้นที่ที่เรือสินค้าอับปาง เป็นเขตอันตรายไว้ก่อน เพื่อป้องกันการเดินเรือของลำอื่น และได้สั่งการให้ทางเจ้าท่า ได้ตรวจสอบตู้สินค้า ว่ามีจมและลอย อยู่ตรงไหนอย่างไร ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าเรือสินค้าที่อับปางบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ภายในบรรจุไม้ยางพาราแปรรูป จำนวน 75 ตู้

 


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หนุ่มก่อสร้างซดเหล้าขาววันละ 4 ขวดหายตัว 7 วันพบนอนจมโคลนป่าโกงกาง

สลดใจ แม่พาลูกชายส่งรักษาบำบัด รพ.รัฐแต่ถูกปฏิเสธ สุดท้ายหลอนผูกคอดับ

ชาวบ้านไม่ทนโพสแฉ ผญบ.ร่วมแทงพนันไฮโลกันโจ๋งครึ้มในงานศพ เข้าข่ายผิดทั้งวินัยและอาญา