สาธารณสุขอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก

รูปภาพ
  สาธารณสุขอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก วันที่ 19 ก.ย.67.ที่ บริเวณหน้าศาลพ่อตาหินช้าง หมู่ที่  2 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร   นายสิทธิชัย ชูจีน สาธารณสุขอำเภอท่าแซะเป็นประธานจัดกิจกรรมจิตอาสารณรงค์                 สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก โดยมีนายชัยยุทธ ไชโย ผู้อำนวยการ รพ.สต.สลุย เป็นผู้ดำเนินงานร่วมกับ ฝ่ายปกครองท้องถิ่น ปกครองท้องที่ ทหารตำรวจ  กองอาสารักษาดินแดน(อส.) สังกัด กองร้อยอาสารักษาดินแดน จังหวัดชุมพรที่ 1 อาสาสมัครสาธารณสุข สนับสนุนโดย ร้านเค.เอส.รุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์  จิตอาสา บริษัท cpi และเด็กนักเรียน โรงเรียนต่างๆ เข้าร่วม กิจกรรมจำนวนประมาณ 400 คน สาธารณสุขอำเภอท่าแซะ  กล่าวว่า เพื่อดำเนินการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก การเตรียมรับสถานการณ์ การแพร่ระบาดของไข้เลือดออก ในช่วงฤดูฝน และให้มีการทำงางานอย่างต่อเนื่องมีประสิทธิภาพ ตลอดจนกระตุ้นเตือนให้           สนับสนุนโดย เพิ่มพููลคาร์เซ็นเตอร์ ประชาชนในช

ลอบขนแรงงานเถื่อนได้ผู้ต้องหา 3 คนและต่างด้าว 55 คน เตรียมส่งมาเลเซีย

 

      วันที่ 6 มกราคม 66 พ.ต.ท.ไชยวัฒน์ อุบล สว.สืบสวน สภ.บ้านวิสัยเหนือ อ.เมือง  จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร ว่าพบรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 2 คัน จอดอยู่ภายในโรงเรียนบ้านเขาบ่อ ม.6 ต.วิสัยเหนือ จึงนำกำลังรุดตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ตอนเดียว สีบอรน ทะเบียน บพ 2598

ประจวบคีรีขันธ์   ด้านกระบะหลังมีคอกรั้วเหล็กสูง ปิดคลุมด้วยผ้าใบพลาสติกสีขาวฟ้ามิดชิด ส่วนอีกคันเป็นรถตู้ยี่ห้อฮุนได  สีเทา ทะเบียน นข 3247 ประจวบคีรีขันธ์ จอดติดเครื่องอยู่ทางเข้าโรงเรียนบ้านเขาบ่อ  จึงได้เคาะประตูเรียกคน

สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี

 ขับทั้งสอง เพื่อขอตรวจสอบ ทราบชื่อนายคีเลียน จรณินท์ มอทซ์ ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/3 ม.3 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ คนขับรถกระบะ และมีนายเกษมสิทธิ์ ศรีสกุล อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 809/ 3 อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั่งมาเบาะด้านซ้าย


              ส่วนรถตู้ฮุนได ทราบชื่อมีนายอนุทิน เข็มไทย อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 ม.7 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง  จ.นครราชสีมา เป็นคนขับ ซึ่งจากการขอตรวจค้นภายในพบแรงงานต่างด้าวนั่งอัดแน่นกันมากับรถทั้งสอง  จึงได้ควบคุมทั้งสามพร้อมแรงงานต่างด้าวไว้ ก่อนรายงานต่อ พ.ต.อ.ประสาร หาญโกธา ผกก.สภ.บ้านวิสัยเหนือ  ให้ได้ทราบ

ก่อนจะรุดมา พร้อมพ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สืบสวน ภ.จว.ชุมพร และ พ.ต.ท.สันติ มณีรัตน์  สว.ตม.ชุมพร และกำลังตำรวจมาในที่เกิดเหตุจากการตรวจค้นภายในกระบะด้านหลัง โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้ทั้งสองช่วยเปิดเพื่อตรวจสอบ


          พบมีการนำไม้มาปูขั้นแยกเป็น 2 ชั้น มีแรงงานชาวเมียนมาร์ นั่งอัดแน่นกันมา จึงได้ให้ทั้งหมดลงมาเพื่อคัดแยก และทำการตรวจนับได้ จำนวน 30 คน โดยแยกเป็นชาย 25 คน หญิง 5 คน  ส่วนรถตู้ฮุนได ทราบภายหลังแรงงาน

สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์

ต่างด้าว เป็นชาวโรฮิงญา เจ้าหน้าที่ได้นำลงมาคัดแยก และตรวจนับ ได้จำนวน 25 คน แยกเป็นชาย 21 คนและ หญิง 4 คน ซึ่ง 1 ใน 4 เป็นเด็ก อายุเพียง 10 ขวบ  จากการสอบปากคำนายอนุทิน และนายคีเลียน คนขับ ได้ให้การว่า  ตนเองได้


รับจ้างลักลอบขนแรงงานต่างด้าวจากนายต้อม (นามสมมติ) ซึ่งเป็นนายหน้าคนไทย  ให้มารับแรงงานต่างด้าว ทั้งหมดจากรอยต่อบริเวณด้านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์เพื่อนำไปส่งให้กับนายหน้าอีกรายที่รอรับเพื่อจะส่งต่อไปยังประเทศ

มาเลเซีย ซึ่งตนจะได้ค่าจ้างตกหัวละ2,000 บาท และตนลักลอบขนมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ครั้งนี้ ขับรถต่อไปไหว จึงได้เลี้ยวเข้ามาถนนในหมู่บ้าน และพบโรงเรียนดังกล่าว จึงได้ขับเข้ามาจอดเพื่อพักเอาแรง แล้วจะได้ขับรถต่อไปยังปลายทางแต่ระหว่างที่นอนหลับ ก็ได้ยินมีคนมาเคาะประตู พอเปิดก็พบว่าเป็นตำรวจและก็ถูกจับกุมดังกล่าว  

สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์.

ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้สอบถาม นายเมาเท่เมียน อายุ 34 ปี ชาวโรฮิงญา ทราบว่า มีนายหน้าชาวเมียนมา ในประเทศเมียนมา เป็นผู้รวบรวมคน และให้มาอยู่ในจุดเดียวกันที่ ย่างกุ้ง เมื่อครบตามจำนวนก็จะให้เดินทางทั้งนั่งรถและเดินเท้า จากย่างกุ้ง มาเมาะลำไย มาทวาย และมาอยู่ที่มูดอง ก่อนจะเดินเท้าลัดเลาะตามเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งใช้เวลา

ทั้งหมด 6 วัน จนมาพักรอขึ้นรถที่บริเวณด่านสิงขรและขึ้นรถมาเมื่อคืน ทุกคนอ่อนล้าอย่างมาก แต่ก็ต้องสู้เพื่อไปหางานทำ หวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่าๆอยู่ในประเทศเมียนมา ซึ่งพวกตนได้ต้องเสียค่านายหน้า หัวละ 3 ล้าน 5 จัตหรือประมาณเกือบ 3 หมื่นบาท


            เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมดขึ้นรถเพื่อนำไปสอบปากคำแต่ละคนอย่างละเอียดที่ สภ.บ้านวิสัยเหนือ ส่วนคนไทยทั้งสาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจปัสสาวะ ซึ่งก็พบเป็นสีม่วงและยังตรวจค้นภายในรถ ยังพบยาบ้า อีก กว่า 30 เม็ดอีกด้วย จึงได้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายในฐานความผิด ร่วมกัน ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆแก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดและมียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

.........................................................................


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชาวบ้านสุดทนสามผัวเมียมั่วสุมเสพยาแจ้งตำรวจช่วยเด็ก 2 คน

เหิมไม่เกรงกลัวกม.ผญบ.เตือนไม่ฟังรุกป่าต้นน้ำปลูกปาล์ม ป่าไม้หญิงสนธิกำลังซุ่มจับคาหนังคาเขา

จ่าทหารขับเก๋งออกจากค่ายจะไปธุระเสียหลักรถตกร่องกลางถนน เหินชนฝั่งตรงข้ามเสียชีวิต