รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ชุมพรติดตามกรณีลูกเรือประมงถูกทำร้าย
จากกรณีเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 20.00 น.พนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำชุมพร ได้รับแจ้ง จากศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก (Port In and Port Out Control Center : PIPO) ว่ามีลูกเรือประมง ชื่อ นายอาว วิน นายสัญชาติเมียนมา เป็นลูกเรือประมง "เรือ ม.โชควาสนานาวี 9" ถูกทำร้ายร่างกายบนเรือและได้ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเขตรอุดมศักดิ์
สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 12.00 น.ที่ห้องประชุม ภ.จว.ชุมพร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางเข้าประชุมร่วมกับ นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พล.ต.ท.วันไชย เอกพรพิชญ์ จเรตำรวจ พล.ต.ต.จารุต ศรุตยาพร ผบก.ภ.จว.ชุมพร พร้อมด้วย พมจ.ชุมพร แรงงานจังหวัดชุมพร และ NGOs เพื่อสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งติดตามความคืบหน้าของการดำเนินคดี
สนับสนุนโดย ร้านเค.เอส.รุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์
การสืบสวนทราบว่า เรือประมง ม.โชควาสนานาวี 9 มีลูกเรือจำนวน 7 คน เป็นสัญชาติเมียนมาทั้งหมดรวมถึงตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีคนไทย 2 คนเป็นเจ้าของเรือและไต้ก๋ง ในวันเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 13.30 น.ขณะที่เรือจอดอยู่ที่แพโชคทอง นายอาว วิน นาย รู้สึกไม่อยากทำงานต่อ จึงปฏิเสธที่จะลงเรือ ทำให้คนไทยทั้งสองไม่พอใจ และรุมทำร้ายนายอาว วิน นาย จนได้รับบาดเจ็บ และออกเรือไปทำประมงโดยทิ้งผู้เสียหายไว้ ผู้เสียหายจึงขอความช่วยเหลือและรักษาตัวที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้นำตัวลูกเรือประมงที่เหลืออีก 6 คน เข้ากระบวนการคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ผลการคัดแยกเหยื่อพบว่า ลูกเรืออีก 6 รายที่เหลือนั้น ไม่เป็นผู้เสียหายในความผิดเรื่องค้ามนุษย์และบังคับใช้แรงงาน แต่พบว่า ลูกเรือทั้ง 6 คน ทำงานในเรือประมงโดยรับค่าจ้างไม่ผ่านบัญชีธนาคาร, จ่ายค่าจ้างไม่ถูกต้อง และไม่จัดทำเอกสารเกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างตามที่ กฎหมายกำหนดไว้ จึงมีการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของเรือตาม พ.ร.บ.แรงงานฯ แล้ว ในส่วนของกรณี นายอาว วิน นาย นั้น อยู่ในระหว่างการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม รวมทั้งนำตัวเจ้าของเรือ และไต้ก๋งมาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ทางตำรวจได้สั่งการให้ดำเนินการสืบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว เบื้องต้นยังไม่สามารถสอบผู้เสียหายโดยละเอียดได้ เนื่องจากยังรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ หากพบว่ากระทำผิดจริงจะดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องจนถึงที่สุด
..................................
ข้อมูล:ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น