สุดทน 5ปี ชาวบ้านกว่า100 คนโห่ขับไล่-ยอมยกมือไหว้แม่ชีวัดดังชุมพร
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
สุดทน 5ปี ชาวบ้านกว่า100 คนโห่ขับไล่-ยอมยกมือไหว้แม่ชีวัดดังชุมพร
ให้ออกใน 24 ชม.เหตุประพฤติตนไม่เหมาะสม แม่ชีร้องขอพระผู้ใหญ่รับฟังพร้อมชี้แจง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 มี.ค.66 นางเยาวดี แดงสนิท ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยนายธีรวุฒิ ครุธนรสิงห์ อายุ 66 ปี คณะกรรมการวัดฯและชาวบ้าน กว่า 100 คน รวมตัวอยู่บริเวณหน้าศาลาการเปรียญวัดแห่งหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 2 ต.ตากแดด
อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ใช้เครื่องขยายเสียงเพื่อขับไล่แม่ชีโย่งให้พ้นจากวัดภายใน 24 ชั่วโมง เพราะมีความผิดหลาย
อย่างเช่น ใช้คำพูดหยาบคาย
เรื่องแสดงตนเป็นเจ้ากี้เจ้าการของใช้ในวัด ทำตัวเป็นผู้วิเศษแอบอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์
และการจัดทอดผ้าป่าสามัคคีโดยจัดการเองทั้งหมดไม่บอกกล่าวชาวบ้านและคณะกรรมการวัด โดยมีนายราเมศร์ ภักดีศรี ปลัดอำเภอเมืองชุมพร อส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองชุมพร ร่วมกันดูแลความปลอดภัย
ขณะที่ทางผู้ใหญ่บ้าน
คณะกรรมการวัดและชาวบ้านกำลังรวมตัวตะโกนขับไล่แม่โย่งอยู่นั้น
แม่ชีโย่งได้เดินปรี่เข้ามาแย่งไมค์เพื่อขอพูด
แต่ทางชาวบ้านไม่ยอมเพราะไม่ต้องการให้แก้ตัวพร้อมขับไล่ยันให้ออกจากวัดโดยเร็วเพราะสุดทนกับพฤติกรรมมานาน
5 ปี
ด้านนายธีรวุฒิ ครุธนรสิงห์ อายุ 66 ปี
คณะกรรมการวัด เปิดเผยว่า มี 4
ประเด็นหลักๆเหตุผลในการขับไล่แม่ชีโย่งคือ
1.เรื่องการประพฤติตนไม่เหมาะสมในการเป็นแม่ชี ใช้คำพูดหยาบคายกับอุบาสก อุบาสิกา ที่มาทำบุญในวันพระทำให้เกิดความไม่พอใจ ระยะหลังจึงเดินทางมาทำบุญที่วัดน้อยลง
2.เรื่องของใช้ภายในวัดโดยเฉพาะครัวฉัน
แม่ชีโย่งไม่ยอมให้คนที่มาทำบุญได้ใช้และยังใช้อำนาจล๊อคกุญแจ
แม่ชีโย่งยังไม่ยอมอยู่ที่โรงฉัน โดยไปหลับนอนในศาลาการเปรียญซึ่งไม่เหมาะสมอย่างมาก เนื่องจากในศาลาเป็นสถานที่ประชุมของคณะกรรมการวัด
และใช้ใต้กุฏิพ่อปู่เวชฯเป็นที่หลับนอนด้วย
3.เรื่องทำตัวเป็นผู้วิเศษ แอบอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆว่า
ตนเองพูดกับผีสางนางไม้ได้และจำทำอะไรตามอำเภอใจของตนเองทั้งสิ้น
ซึ่งต่างจากประเพณีดั้งเดิมของวัดที่ได้สืบทอดกันมานานชั่วอายุคน เช่น
การจัดงานตรุษไทยของชาวบ้านวัดประเดิมแม่ชีโย่งไม่ยอมให้ทำตามประเพณี
แต่จำทำตามความคิดตนเองเป็นต้น
และ4.เรื่องการทอดผ้าป่าสามัคคีในวันที่ 2เม.ย.นี้แม่ชีโย่งได้ทำเองโดยพลการไม่ยอมบอกใครทั้งสิ้นคณะ
กรรมการวัดและชาวบ้านไม่รู้เรื่องเลย
โดยแม่ชีได้จัดรถแห่จำนวน 3 คัน
พร้อมกับทำซองโดยไม่มีฎีกา ไม่มีประธาน
และคณะกรรมการ พร้อมทั้งออกเรี่ยไรทำพุ่มกับชาวบ้านบางรายผิดกฎหมาย”
ซึ่งก่อนหน้านี้นางเยาวดี แดงสนิท ผู้ใหญ่บ้าน ได้รับการร้องเรียน และได้เข้าพบพูดคุณกับเจ้าอาวาสและรักษาการแล้วแต่ไม่ได้รับการตอบสนอง วันดังกล่าวจึงรวมตัวกันกดดันเรียกร้องขับไล่ให้แม่ชีคนดังกล่าวออกจากวัดประเดิมภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าไม่ยอมจะแต่งตั้งไวยาวัจกรและชาวบ้าน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ในการ
กดดันขับไล่ครั้งนี้ไม่เป็นผล
ชาวบ้านจึงแห่กันไปบนศาลาการเปรียญซึ่งเป็นที่พักของแม่ชีโย่งและเป็นสถานที่จัดทำพุ่มผ้าป่าฯ
โดยมีคนสนิทแม่ชีนั่งอยู่ด้วย 3-4 คน
จนมีปากเสียงกันปะทะคารมไปมาระหว่างกลุ่มชาวบ้านกับแม่ชีและคนสนิท
ซึ่งแม่ชีบอกว่าจะไม่ชี้แจงอะไรทั้งสิ้นขอพบพระผู้ใหญ่เท่านั้นอ้างว่าเป็นเรื่องภายในวัด
ต่อมาเวลาประมาณ 12.30 น.พระครูบัณฑิตธรรมธาดา
รองเจ้าคณะจังหวัดชุมพร พระครูศรีธรรมวิเทศ เจ้าคณะอำเภอเมืองชุมพร พระครูปลัดศิริโชค สิริธมฺโม
รองเจ้าคณะอำเภอเมืองชุมพร
และพระครูมหาสมศักดิ์
กิจฺจสาโร เจ้าคณะตำบลตากแดด
เดินทางมาเพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมหาแนวทางแก้ไข
โดยนายธีรวุฒิ ครุธนรสิงห์
อายุ 66 ปี คณะกรรมการวัดฯได้กล่าวถึงปัญหาที่แม่ชีประพฤติตนไม่เหมาะสมให้คณะพระผู้ใหญ่ได้รับฟัง
พร้อมทั้งได้รับคำชี้แจงจากแม่ชีโย่งที่ถูกกล่าวหา
ซึ่งคำชี้แจงของแม่ชียังไม่ชัดเจนโดยเฉพาะกล่าวอ้างชื่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรมาร่วมในพิธี ทำให้ชาวบ้านยังคงยืนยันให้แม่ชีพ้นจากวัด
โดยคณะสงฆ์จึงลงมติให้แม่ชีย้ายออกตามคำเรียกร้อง ทำให้ชาวบ้านพึงพอใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พระครูปลัดศิริโชค สิริธมฺโม
รองเจ้าคณะอำเภอเมืองชุมพร กล่าวหลังหลังจากมีมติให้แม่ชีพ้นวัดว่า
มีมติเป็นเอกฉันให้โยมแม่ชีโย่งออกจากวัดภายในวันนี้
โดยแม่ชีโย่งเรียกร้องค่าเสียหายในการดำเนินการจัดทำพุ่มผ้าป่าฯกว่า 200 พุ่ม เป็นเงิน 50,000 บาท
ทางคณะกรรมการและชาวบ้านก็ยินดีคืนให้ตามข้อเท็จจริง พอสรุปว่าพอเข้าใจแต่ละอย่างคนอยู่ภายในวัดกับนอกวัด
มีอุปนิสัยต่างกัน ซึ่งอุปนิสัยส่วนตัวของแม่ชีพูดตรงเสียงดังไม่อ่อนหวาน
ไม่ถูกใจพอใจญาติโยมที่เข้าวัดเป็นประจำ คณะสงฆ์แก้ปัญหาจบลงด้วยดี
โยมชีไม่มีข้อโต้แย้งหรือขัดขืนใดๆ ส่วนวันที่ 2
เม.ย.นี้ทางวัดยังจัดทอดผ้าป่าฯตามวัตถุประสงค์เดิม
.......................................................................
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น