รวบแก๊งโจ๋ตระเวนลักรถ จยย.ชาวบ้าน มาชำแหละชิ้นส่วนตกแต่งรถตัวเอง ที่เหลือส่งขาย
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
รวบแก๊งโจ๋ตระเวนลักรถ จยย.ชาวบ้าน มาชำแหละชิ้นส่วนตกแต่งรถตัวเอง
ที่เหลือส่งขาย พบหัวโจก พัวพันยาเสพติดเคยต้องคดี
ซึ่งหลบหนีไปได้ทิ้งไอซ์ไว้ให้ลูกน้องได้เสพ
พ.ต.ท.สกฤชญ สุขนิตย์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองชุมพร พร้อมด้วย ร.ต.อ.ปิยพล ฉัตรภูมิ รอง สว.สืบสวน สภ.เมืองชุมพร และกำลังเจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้ควบคุมตัว นายกรกฎ หรือฟลุ๊ค อายุ 21 ปี ชาว
ตำบลศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว และ นายหนึ่ง (เยาวชน) อายุ 17 ปี ชาวตำบลดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร มาสอบสวนปากคำ ที่ห้องฝ่ายปฏิบัติการสืบสวน สภ.เมืองชุมพร หลังถูกจับกุมตัวได้พร้อมของกลางเป็นรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า
รุ่น PCX สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 กด 5759 ชุมพร รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า
รุ่นเวฟ 125 สีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน ขลค 624 สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นรถ
จยย.ที่ใช้ในการก่อเหตุลักรถ จยย.ของชาวบ้าน จำนวน 2 คัน
ประกอบด้วย รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีดำ หมายเลขทะเบียน ขกส 546 ชุมพร และ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีขาว หมายเลขทะเบียน ขคธ 441 ชุมพร ไปแล้วได้ร่วมกันกับนายธีรภัทร หรือเต๋า สุดวิสัย อายุ 27 ปี ชาว
ตำบลประสงค์
อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี และนายภาคภูมิ หรือโท วรสุทธิ์ อายุ 27 ปี ชาวตำบลไชยราช
อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม
ชำแหละชิ้นส่วนไปสับเปลี่ยนแตกแต่งรถและบางชื้นส่วนขายในกลุ่มเพื่อนๆคนแต่งรถ
โดย พ.ต.ท.สกฤชญ สุขนิตย์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองชุมพร เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 เวลา 01.30 น. ได้มีนายศุภณัฐ บุญเลิศ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 หมู่ที่ 5 ตำบลท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบ สภ.เมืองชุมพร ว่า รถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีดำ หมายเลขทะเบียน
ขกส 546
ชุมพร ซึ่งได้จอดอยู่บริเวณริมถนนหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ได้ถูกคนร้ายโจรกรรมไป
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้ออกเก็บหลักฐานเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้
ซึ่งทราบเพียงคนร้ายใช้ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า
รุ่น PCX สีน้ำเงิน ไม่ทราบป้ายทะเบียน ในการก่อเหตุ
พ.ต.ท.สกฤชญ กล่าวว่า จนกระทั่งเมื่อเช้าวันที่ 23 เมษายน 2566 มีผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ว่า รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีขาว หมายเลขทะเบียน ขคธ 441 ชุมพร ซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน ได้ถูกคนร้ายมาโจรกรรมเอาไป เมื่อเวลา 00.30 น.โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้าย ซึ่งมากัน 2 คน จึงได้แกะรอยเส้นทางที่คนร้ายทั้งสองใช้ในการหลบหนี จน กระทั่งมาได้ภาพอย่างชัดเจน จากกล้องวงจรปิด
ที่บันทึกภาพคนร้ายสองคนทราบชื่อภายหลังคือนายธีรภัทร หรือเต๋า
สุดวิสัย กับ นายหนึ่ง (เยาวชน17ปี) ขณะแวะที่ตู้เติมเงินระหว่างทาง
เจ้าหน้าที่จึงได้ขอหมายจับต่อศาล ก่อนนำกำลังเดินทางไปเพื่อทำการจับกุมตัวคนร้าย
พ.ต.ท.สกฤชญ กล่าวต่อว่า จากการเข้าจับกุมในครั้งนี้ สามารถจับกุมตัวนายหนึ่ง (เยาวชน17ปี) ซึ่งทราบว่าทำงานอยู่ที่ร้านซ่อมรถ จยย.แห่งหนึ่งริมถนนสายปฐมพร-เมืองชุมพร และขณะจับกุมได้เจอ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 กด 5759 ชุมพร ซึ่งมีลักษณะตรงกับรถที่ใช้ก่อเหตุ จึงได้สอบถามจนทราบว่าเป็นรถของนายกรกฎ หรือฟลุ๊ค ลักพล้า ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวทั้งสองไปยังที่บ้านพัก บริเวณสี่แยกปฐม
พร ไม่มีเลขที่
เป็นบ้านปูนชั้นเดียวปลูกอยู่ในซอยห่างจากถนนสายเพชรเกษม เพียง 100 เมตร
เป็นบ้านย่าของ น.ส.มาย นามสมมุติ ที่ให้ น.ส.มาย อาศัยอยู่กับนายภาคภูมิ หรือโท
วรสุทธิ์ สามี ซึ่งขณะไปทั้งสองไม่อยู่ พบ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีดำ
หมายเลขทะเบียน ขกส 546 ชุมพร และ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีขาว
หมายเลขทะเบียน ขคธ 441 ชุมพร ภายในบ้าน สภาพถูกถอดรื้ออุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆออกเกือบหมด
นำมากองกระจัดกระจายอยู่บนพื้น และรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีดำ-แดง
หมายเลขทะเบียน ขลค 624 สุราษฎร์ธานี สภาพตบแต่งอย่างดีจอดอยู่ด้วย
จึงได้นำตัวทั้งสองพร้อมของกลางทั้งหมดมาที่ ห้องฝ่ายปฏิบัติการสืบสวน สภ.เมืองชุมพรเพื่อสอบสวนปากคำ
จากการสอบสวนนายกรกฎ
หรือฟลุ๊ค ลักพล้า ให้การว่า ตนเองเพิ่งกลับมาจากไปคัดเลือกทหารทีบ้านเกิด
จ.สระแก้ว โดยทิ้งรถ จยย.ฮอนด้า รุ่น PCX ไว้ที่บ้าน
ซึ่งอยู่รวมกันทั้งหมด 5 คน หลังจากที่กลับมาถึง จ.ชุมพร ก็ไม่สนใจอะไร เพราะเหนื่อยจาการเดินทาง
จึงได้เข้านอน จนกระทั่งตื่นมาตอนเช้าก็พบว่า นายหนึ่ง นายเต๋าและนายโท
กำลังช่วยกันถอดชิ้นส่วนรถ จยย.กันอยู่ และมารู้อีกทีก็คือรถที่ไปลักมา
ส่วนคันที่สองที่นายหนึ่งกับนายเต๋า ไปลักมานั้น
ตนยอมรับว่ารู้ก่อนและทั้งสองได้ชวนตนเองไปด้วย แต่ตนไม่ไป เพราะติดเกมส์
และไม่อยากไป เล่นเกมส์และเสพไอซ์ ที่นายเต๋า ซึ่งทุกคนยกให้เป็นพี่ใหญ่
จะมีให้พวกตนได้เสพกันทุกคน ยกเว้น น.ส.มาย ภรรยาของนายโท
ในขณะที่ หนึ่ง (เยาวชน อายุ 17 ปี)ให้การรับสภาพว่า เมื่อวันที่ 1มีนาคม 2566 เวลาเที่ยงคืนเศษ
นายเต๋า ได้ชวนตนมาขับรถเล่น โดยใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น PCX ของนายฟลุ๊ค ซึ่งจอดเสียบกุญแจไว้ ส่วนตัวนายฟลุ๊ค ไปคัดเลือกมหารที่
จ.สะแก้ว และเมื่อมาถึงที่บริเวณสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง นายเต๋า ได้บอกว่าจะลงไปฉี่
ส่วนตนนั่งรออยู่ที่รถ อีกสักครู่หนึ่งนายเต๋าได้ขับขี่รถ จยย.ฮอนด้า รุ่น เวฟ 125
ไอ สีดำ แล้วเรียกให้ตนขับตามมา พอถึงบ้านของนายเต๋า นายโท และตน
ได้ร่วมกันถอดชิ้นส่วนอะไหล่รถที่ลักมา แล้วสับเปลี่ยนอะไหล่กับรถของพวกตน
นายหนึ่ง (เยาวชน อายุ 17 ปี)ให้การรับสารภาพต่อว่า ต่อมาเมื่อวันที่
17เมษายน 2566 เวลา 21.00 น. นายเต๋า ได้พยายามชวนนายฟลุ๊ค
ไปตระเวนหารถในเมืองชุมพร แต่นายฟลุ๊คไม่ยอมไป นายเต๋าจึงมาชวนตน โดยครั้งนี้ใช้รถ
จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นซุปเปอร์คัพสีฟ้า ของนายโท มาตะเวนหารถที่ต้องการ ซึ่งนายโท
และนายฟลุ๊ค ทราบดีว่า ในวันดังกล่าวนั้น ตนและนายเต๋า มาตระเวนหารถที่ต้องการ
แต่ในวันดังกล่าวนั้น ไม่ได้รถจักรยานยนต์กลับไปแต่อย่างใด
นายหนึ่ง (เยาวชน
อายุ 17 ปี) กล่าวต่อว่า ต่อมาในวันที่ 23 เมษายน 2566เวลา ประมาณ 00.30 น.
นายเต๋ากับตน ไปขับขี่รถ จยย.คันที่ลักมาจากสถานบันเทิง โดยนายโท และนายฟลุ๊ค
ก็ทราบดีว่า นายเต๋ากับตน
ออกตระเวนลักรถในเมืองชุมพร ซึ่งเมื่อมาถึงบริเวณหน้าร้านขายอาหารสัตว์
ตรงข้ามร้านศิลป์ฟ้า นายเต๋า ได้ลงไปลักรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ125 ไอ สีขาว ทะเบียน ขคธ 441 ชุมพร กลับมาบ้าน และเวลาประมาณ 10.00 น. นายโท
ได้มาช่วยถอดอะไหล่ ส่วนนายฟลุ๊คนั้น นอนอยู่ภายในบ้าน ไม่ใด้มาช่วย แต่อย่างใด
“จนกระทั่งเมื่อเวลา 15.00 น.ตนได้เข้าไปในเฟซบุ๊ค ก็ไปเห็นว่า
มีผู้โพสต์ภาพวงจรปิด ขณะที่ตนกับนายเต๋า กำลังก่อเหตุลักรถ จยย.คันที่ลักมา
จึงได้ส่งให้นายเต๋า นายฟลุ๊ค และนายโท ได้ดู และเมื่อตื่นมาตอนเช้าของวันที่ 24
เมษายน 66 วันนี้ ก็ไม่พบนายเต๋า และนายโท อยู่ที่บ้านแล้ว
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าทั้งสองจะหลบหนีไปแล้ว ตนกับนายฟลุ๊ค ก็ออกมาทำงานปกติ
และมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายหนึ่ง (เยาวชน อายุ
17 ปี) มาชี้และคัดแยกชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆที่ลักมาไปกองไว้แต่ละคัน แม่ของนายหนึ่ง
(เยาวชน อายุ 17
ปี)ได้เดินทางมาถึงหลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อแจ้งเหตุให้ได้ทราบ นายหนึ่ง
ได้เข้ากอดแนบอกก่อนจะก้มลงกราบเท้าพร้อมสารภาพทั้งน้ำตากับพฤติกรรมที่กระทำในครั้งนี้ที่ทำให้แม่ต้องเสียใจ
ซึ่งก็ทำให้ผู้เป็นแม่ถึงกับปล่อยโฮออกมาพร้อมปลอบลูกอย่างมีสติ
ทำให้ตำรวจหลายคนที่เห็นภาพและคำพูดที่ดีของความเป็นแม่ที่มีต่อลูกถึงกับน้ำตกคลอไปด้วย
ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า ต่อมาทางญาติของ น.ส.มาย
เจ้าของบ้านและเป็นภรรยานายโท ผู้ร่วมก่อเหตุลักทรัพย์
ได้เดินทางมากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยให้ความร่วมมือโดยโทรศัพท์ติดต่อนายโท สามีให้มามอบตัว แต่ไม่สามารถติดต่อได้
จึงได้โทรศัพท์ไปที่นายเต๋า เพื่อสอบถามถึงตัวนายโท สามีว่าอยู่ที่ไหน
ซึ่งติดต่อได้แต่อนายเต๋า ไม่รู้ว่า น.ส.มาย อยู่กับตำรวจ โดยนายเต๋า
ได้บอกว่านายโท หลบหนีไป จ.ประจวบคีรีขันธ์แล้ว และให้ น.ส.มาย ไปเอา
ไอซ์ที่อยู่ในกางเกงขายาวสีดำ ไปแบ่งกันเสพ ส่วนตนเอง นายเต๋า
ตอนนี้กำลังเดินทางโดยจะหนีไปประเทศเพื่อนบ้านก่อน แล้วนายเต๋า
ก็วางโทรศัพท์เจ้าหน้าที่จึงเช็คสัญญาณพบว่ามุ่งหน้าไปทางตะวันออก
คาดจะหลบหนีเข้าประเทศกัมพูชา ซึ่งนายเต๋า เคยไปอยู่มาแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว
น.ส.มาย ไปที่บ้านพัก และพบไอซ์ บรรจุในถุงพลาสติกใส นน.ประมาณ 10 กรัม
จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนแจ้งข้อหา
นายหนึ่ง นายฟลุ๊คพร้อมพวก
ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและร่วมกันมายาเสพติดให้โทษประเภท
1(ไอซ์)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น