รวบแล้ว3คนงานไทย พนักงานร้านขายของ 20 บาท ใช้อาวุธปืนขู่คนงานในร้านเดียวกัน ให้เพื่อนรุมต่อยคนงานพม่า
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
รวบแล้ว3คนงานไทย พนักงานร้านขายของ 20 บาท ใช้อาวุธปืนขู่คนงานในร้านเดียวกัน ให้เพื่อนรุมต่อยคนงานพม่า
จากเหตุการณ์พนักงานลูกจ้างร้าน 20 บาทจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด ร่วมทำร้ายร่างกายพนักงานด้วยกันโดยชกต่อยบริเวณหน้าร้านริมถนนสายชุมพร-ระนอง ใกล้สี่แยกปฐมพรหมู่ 4 ตำบลวังไผ่ อ.เมืองชุมพร ขณะเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนสั้น
แบบลูกโม่สีดำออกมาจากกระเป๋าสะพายเพื่อข่มขู่พนักงานด้วยกันที่จะเข้ามาห้ามปราม
ทำให้เกิดความหวาดกลัวและสร้างความแตกตื่นกับลูกค้าที่มาใช้บริการ
ก่อนที่จะทิ้งรถและหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ
ล่าสุดวันนี้(19มิถุนายน66)ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ
พ.ต.อ.เทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์
ผกก.สภ.เมืองชุมพร , นำโดย
พ.ต.ท.สกฤชญ สุขนิตย์ รอง
ผกก.สส.สภ.วิสัยเหนือ ปฏิบัติหน้าที่ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชุมพร พร้อมด้วย
ร.ต.อ.ปิยพล ฉัตรภูมิ รอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพร ,ร.ต.อ.ธีรศักดิ์
สุนสาระพัง รอง สวป.สภ.เมืองชุมพร (ร้อยเวร 20) และชุดกำลังตำรวจชุดสืบสวน
สภ.เมืองชุมพร ได้ลงไปที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อสอบพยานที่เกิดเหตุและรวบรวมหลักฐาน
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาถึงร้านดังกล่าว ขณะที่กำลังสอบพยานแวดล้อมซึ่งเป็นคนภายในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งทราบว่าผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นพนักงานคนไทยทั้งหมด ประกอบด้วย นายเอกรักษ์ หรือบอยอายุ 37 ปี นายทะนงศักดิ์ หรือเล็ก อายุ 26 ปี และนายศักดิ์ชัย หรือพีม อายุ 21 ปี ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนพยานอยู่ ได้มีนายศักดิ์ชัย ซึ่ง
เป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุ เดินเข้ามาในร้านเพื่อเข้ามาทำงานโดยทำตัวปกติ
เหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว พร้อมสอบปากคำทราบว่า
นายเอกรักษ์และนายทนงศักดิ์ ขณะนี้ได้กบดานอยู่ในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณ
ม.2 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายศักดิ์ชัย
เดินทางมายังที่ทั้งสองคนไทยที่ก่อเหตุ
โดยภายในสวนปาล์มน้ำมันเป้าหมาย พบมีบ้านปูนชั้นเดียวในพื้นที่ม.2 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่พบ นายเอกรักษ์ หรือบอย อายุ 37 ปี คนก่อเหตุชกต่อยกับนายดำ พนักงานชาวเมียนม่า กำลังนั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวได้อย่างละม่อม ก่อนซักถามทราบว่า ตนเองเป็นผู้ก่อเหตุชกนายดำ จริง ส่วนนายทะนงศักดิ์ หรือเล็กอายุ 26 ปี ซึ่งเป็นคนถืออาวุธปืนยืนคุมเชิงตอนเกิดเหตุนั้น ได้หนีไปพร้อมแฟนกบดานที่บ้านเช่า
ในพื้นที่ม.9 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร
เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นภายในบ้าน พบอุปกรณ์เสพยาตกเกลื่อนอยู่ภายในห้อง
แต่ไม่พบยาเสพติดแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายศักดิ์ชัยและนายเอกรักษ์
มายังบ้านที่นายทนงศักดิ์ ที่หนีมากบดาน
ของดี ราคาโดน ลองเข้าไปดูเลย!
ชื่อสินค้า: Fuguiniao อุปกรณ์สำหรับผู้ชาย,เสื้อกล้ามแห้งเร็วหลวมเสื้อกล้ามเสื้อกล้ามคอกระเป๋ากีฬากลางแจ้ง
ราคาสินค้า: ฿903
ส่วนลดสินค้า: ฿422
สั่งซื้อสินค้า>> https://s.lazada.co.th/s.Qi0dm?cc
พบว่าเป็นบ้านเช่า ปลูกอยู่ริมถนนซอยสำนักสงฆ์เขางิ้ว ห่างจากถนนสายสายเพชรเกษม 20 เมตร เจ้าหน้าที่พบบ้านเช้าหลังดังกล่าวเปิดประตูอยู่ จึงได้เดินเข้าพบนายทนงศักดิ์ กำลังนอนเล่นอยู่ภายในห้อง ก่อนจะควบคุมตัวได้ พร้อมสอบปากคำทราบว่า อาวุธปืนที่ใช้ในวันก่อเหตุนั้น ได้นำไปโยนทิ้งบริเวณคลองชุมพร เจ้าหน้าที่จึงนำมายังจุดที่
นายทะนงศักดิ์อ้างว่าทิ้งลงน้ำไปแล้ว
พบกระเป๋าสะพายจมอยู่ในน้ำใกล้ริมตลิ่ง จึงได้นำขึ้นมาพบอาวุธปืนแบบ “บีบีกัน”
ซึ่งนายทะนงศักดิ์ ยืนยันเป็นกระบอกเดียวกันกับใช้ขู่พนักงานในร้าน
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งสามจนครบ
ก่อนนำมาสอบสวนต่อที่สถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพรเช่นกัน
ในเบื้องต้น จากการสอบสวนนายเอกรักษ์ ทราบว่า นายดำ คนงานพม่า
เคยมีปัญหาชกต่อยกับน้าของตน หลังจากนั้นก็มีปากเสียงกันมาตลอด จนมาวันเกิดเหตุ
ขณะที่น้าตนและนายดำ กำลังจะตอกบัตรเข้างาน ทั้งคู่ก็ได้มีปากเสียงกันอีก ตนเอง อยู่ในเหตุการณ์เกิดความไม่พอใจ อึดอัดใจมานาน
จนบันดาลโทสะ พุ่งเข้าไปชกต่อยกับนายดำ ตามในคลิปกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ ในขณะที่นายทะนงศักดิ์ หรือเล็ก ยอมรับว่า อาวุธปืน บีบีกัน นั้น
ตนเองซื้อมาพกเล่นเท่านั้น ส่วนนายศักดิ์ชัยหรือพีมขอปฏิเสธ ว่าไม่ได้รุมนายดำ
แต่เป็นเพียงการห้ามไม่ให้เหตุการณ์ปานปลายเท่านั้น
อย่างไรก็ตามด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวตามพยานหลักฐานทั้ง 3 รายดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
...............................................................................
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น