ชุมพรมีหนาว "รังสิมันต์ โรม" ประธานความมั่นคงแห่งรัฐฯ นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบชายแดนไทย-เมียนมา

รูปภาพ
  ชุมพรมีหนาว "รังสิมันต์ โรม" ประธานความมั่นคงแห่งรัฐฯ นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบชายแดนไทย-เมียนมา ปัญหาการค้ามนุษย์ แรงงานต่างด้าว โรฮิงญา ลักลอบขนปาล์ม ยางพารา โค กระบือ ผลประโยชน์ปีละกว่าหมื่นล้าน          วันที่ 22 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณีที่ สำนักสอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)ภาค 4 ได้รับเรื่องร้องเรียนและลงพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร สอบสวนในทางลับ พบมีกลุ่มอิทธิพล ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปบุกรุกแผ้วถางทำลาย ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ค้ามนุษย์ ซ่องสุมกำลังพล อาวุธ และสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ บริเวณพื้นที่ชายแดนไทยและเมียนมา และพบแคมป์พักชาวโรฮิงญาประมาณ 300-400 คน อยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านห่างจากชายแดน ประมาณ 5 กม. เพื่อรอการขนย้ายโดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังชายแดนใต้ เพื่อไปประเทศที่ 3            โดยแก๊งอิทธิพลดังกล่าวมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับแก๊งอิทธิพลไทยเทา พม่าเทา และชนกลุ่มน้อย ...

สุดโหดคนร้ายจ่อยิงหัว-เผาร่างคาซากรถชาวเมียนมา 3 ศพ คนไทย 1 ศพ ตร.ระดมกำลังเร่งตามล่ามือยิง

 

สุดโหดคนร้ายจ่อยิงหัว-เผาร่างคาซากรถชาวเมียนมา 3 ศพ คนไทย 1 ศพ ตร.เร่งตามล่ามือยิง

          เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 16 ก.ค.66 พ.ต.ท.พนัส  หมุนวงศ์ สว.(สอบสวน)สภ.นาสัก จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันในพื้นที่หมู่ 19 (บ้านตาหลัด)ตำบลนาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

นายประยงค์ ผู้เสียชีวิตรายแรก(คนไทย)

พร้อมด้วยพ.ต.อ.จักรา  เสาวคนธ์  ผกก.สภ.นาสัก ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจชุมพร หน่วยอาสากู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะเขตเขาทะลุ เขตสวี เร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุ

สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี

            จุดเกิดเหตุห่างจากจากถนนสายเอเซีย 41 ประมาณ 10 กม.ของข้างทางเป็นริมป่าเขาการเดินทางเข้าจุดเกิดเหตุค่อนข้างลำบากต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น บริเวณริมถนนเล็กๆในหมู่บ้านติดสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน พบร่างผู้เสียชีวิตรายแรกทราบชื่อต่อมาคือนายประยงค์  สมนึก  อายุ 60 ปี ชาวบ้านหมู่ 19 ต.นาสัก 

ศพที่สองชายชาวเมียนมาไม่ทราบชื่ออายุ

อ.สวี จ.ชุมพร สภาพนอนคว่ำหน้าใกล้เสาไฟฟ้าถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าบริเวณลำตัวและศีรษะกว่า 10 รู โดยศพถูกปิดคลุมด้วยทางมะพร้าวแห้ง ห่างจากศพผู้เสียชีวิตประมาณ 20 เมตร เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนลูกซองสีขาวตกอยู่จำนวน 2 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

         ศพที่สองห่างจากศพแรกประมาณ 200-300 เมตร เป็นชายยังไม่ทราบชื่อและอายุแต่คาดเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าเบ้าตาขวาเป็นรูโบ๋ขนาดใหญ่ สภาพนอนตะแคงขาคล่อมอยู่กับรถจักยานยนต์ฮอนด้า

สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์

เวฟ ทะเบียน 1กก 5811 ชุมพร ไม่ทราบสีเนื่องจากถูกไฟเผาไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโกทั้งคนทั้งรถ โดยห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบบ้านไม่มีเลขที่ซึ่งทราบว่าเป็นที่พักของแรงงานชาวเมียนมาไม่พบผู้อยู่อาศัยบริเวณหน้าพบลูกสุนัขนอนตายอยู่ 1 ตัว เริ่มมีแมลงวันตอมส่งกลิ่นเหม็นเน่าหึ่ง

สุนัขถูกยิงตายแทนพ่อแม่ลูกที่ย้ายหนีตามไปก่อนหน้านี้

        หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่พบศพที่ 3 ทราบชื่อต่อมาคือนาย น้อง อายุ 34 ปี เป็นคนงานตัดยางชาวเมียนมา นอนตะแคงสวมเสื้อยืดสีดำ ใส่กางเกงวอร์มขายาวสีดำ สภาพนอนตะแคงจมกองเลือดแห้งกรังอยู่บนแครไม้บริเวณหน้าบ้านปลูก

สร้างเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ท่ามกลางสวนสวนยางพาราเชิงเขาห่างไกลบ้านคน ถูกยิงด้วยอาวุปืนลูกซองเข้าศีรษะและลำตัวมีบาดแผลหลายรู  โดยใกล้ศพพบหมอนรองปลอกกระสุนจำนวน 1 ชิ้นเจ้าหน้าเก็บไว้เป็นหลักฐานและตรวจสอบ

สามพ่อแม่ลูกรอดตายหวุดหวิดย้ายหนีออกมาทันก่อนถูกหสังหาร

          และศพที่ 4 ทราบชื่อต่อมาคือนาย นาย อายุ 51 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ ใส่กางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ ถูกยิงด้วยอาวุปืนชนิดเดียวกัน เข้าที่ศีรษะจนกะโหลกเปิดเห็นมันสมองไหลเยิ้ม นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนที่นอนศีรษะยังหนุนหมอนเสีย

สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์

ชีวิตภายในบ้านใกล้ศพพบกระสุนลูกปรายตกอยู่บนที่นอนจำนวน 1 เม็ด ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุภายในบ้านและนอกบ้านไม่พบร่องรอยการต่อสู้ พบเพียงรถจักยานยนต์เก่า และรองเท้าของใช้อื่นยังอยู่ตามปกติ หลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้วได้ให้กู้ชีพกู้ภัยนำร่างทั้ง 4 รายส่งโรงพยาบาลสวีเพื่อชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง

        จากการสอบสวนจากพยานแวดล้อมและพยานบุคคลที่เป็นญาติของนายประยงค์ฯผู้เสียชีวิต ทราบเบื้องต้นสันนิฐานว่า ผู้ก่อเหตุคือชายรายหนึ่งซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านรู้กันดีว่ามีพฤติกรรมที่กร่างติดยาเสพติดน่าจะมีอาการหลอนยาเคย

ทุบตีพี่สาวของตัวเองด้วย และชอบพกอาวุธปืนข่มขู่แรงงานต่างด้าวที่มาทำงานในพื้นที่มาเป็นเวลานาน อดีตเคยทะเลาะกับนายประยงค์ผู้ตายมาก่อนเรื่องปัญหาที่ดินทำกินแต่ปัจจุบันก็ดีกันแต่ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมกลับมายิงกันตาย

         ญาตินายประยงค์คนตาย เล่าอีกว่าก่อนเกิดเหตุพี่ชายตนซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง ได้ขับรถยนต์กระบะออกจากบ้านมาต่อน้ำเข้าใช้ในบ้านหลังจากนั้นก็หายไปตั้งแต่เมื่อคืนว่าที่ผ่านมา จนกระทั่งได้ออกตามหามาพบเจอเมื่อเวลาประมาณ 07.40 น.วันนี้(16 ก.ค.) ส่วนรถยนต์กระบะของนายประยงค์ได้หายไปหลักเกิดเหตุคาดว่าคนร้ายรายนี้ใช้ขับหลบหนีออกนอกพื้นที่

         ด้านนายบุญเลิศ  สายไตร อายุ 59 ปี เจ้าของสวนยางพาราที่เกิดเหตุถูงคนร้ายยิงตายคาบ้านคนงาน 2 ศพ เล่าว่า นายน้องคนที่นอนตายอยู่หน้าบ้านเป็นลูกน้องของตนตัดยางรายได้แบ่งครึ่งกัน  เป็นคนขยันทำงาน ทำงานดี ไม่เที่ยว ปกติอยู่ทำงานคนเดียวถ้าวันไหนทำไม่ไหวงานเยอะพี่ชายคนที่ถูกยิงตายในบ้านจะมาช่วยเสร็จงานก็กลับ  

ขณะเกิดเหตุตนไม่อยู่เมื่อทราบว่าว่ามีเหตุก็มาดู รู้สึกเสียใจไม่น่าเกิดเรื่องขึ้น เมื่อ 2 ปีก่อนแรงงานของตนชุดก่อน ยังเคยถูกคนในหมู่บ้านซึ่งทราบกันดีว่าเป็นใครมาข่มขู่จะตบด้วยปืน  และเมื่ออาทิตย์ที่แล้วพี่สาวคนตายโทรศัพท์ไปบอกตนว่าถูกคนไทย ตนจึงโทรหาผู้ใหญ่บ้านมาช่วยพูดคุยจนไม่มีอะไรกันแล้วแต่ถูกยิงจนได้


      ส่วนน.ส.มะลิวรรณ  หีตนาคราม อายุ 44 ปี อสม.ในพื้นที่ได้รับสายโทรศัพท์ของนาย แหง่  คนงานตัดยางชาวเมียนมา ขณะอยู่ในที่เกิดเหตุว่า  นายแหง่ ภรรยาและลูกสาววัย 3 ขวบ บอกว่าตนและครอบครัว ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันถูกคน

ศพที่สาม นายน้อง อายุ 34 ปีชาวเมียนมา

ไทยมาขู่ให้ย้ายออกไปไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย  โชคดีพาครอบครัวย้ายหนีออกไปทันไม่งั้นถูกฆ่าตายเหมือนกัน ตอนนี้ปลอดภัยดีโดยมาอาศัยอยู่กับพี่สาวใกล้วัดนาสัก    

ศพที่สี่นาย นาย อายุ 51 ชาวเมียนมา เสียชีวิตภายในบ้าน

       ทางด้านพ.ต.อ.จักรา  เสาวคนธ์  ผกก.สภ.นาสัก กล่าวว่า เบื้องต้นสอบถามญาติของผู้เสียชีวิตที่เป็นคนไทยทราบว่ามูลเหตุน่าจะเป็นเรื่องของสวนยางพารา แต่ยังหาข้อสรุปถึงมูลเหตุไม่ได้ต้องรอเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้ง”ผกก.นาสัก กล่าว

ผกก.สภ.นาสัก

        เบื้องต้นสันนิษฐานการก่อเหตุ ของคนร้ายรายนี้น่าจะมีอาการหลอนยา ประกอบกับเคยตบตีพี่สาวตนเองมีปัญหาเรื่องสวนยางพารากันมาก่อนกับนายประยงค์ และมีพฤติกรรมชอบพกปืนข่มขู่ แรงงานชาวเมียนมาที่มาเป็นลูกจ้างตัดยางพาราในพื้นที่ ก่อนเกิดเหตุคาดว่าหลังจากยิงนายประยงค์เสียชีวิตแล้วขึ้นไปบนสวนยางเพื่อจะยิงสามพ่อแม่ลูกแต่

ไม่พบตัวเพราะย้ายหนีไปก่อนจึงยิงลูกสุนัขตายแทน หลังจากนั้นไปก่อเหตุยิงคนงานตัดยางของนายบุญเลิศดับ 2 รายคาบ้านขณะนอนหลับ จึงกลับลามาเพื่อหลบหนีแต่ระหว่างทางมาเจอชาวเมียนมาอีกคนขณะขับรถจักยานยนต์คาดมาหาเพื่อนที่ถูกยิงตาย กลับถูกจ่อยิงหัวตามไปด้วยพร้อมจุดไฟเผาทั้งคนทั้งรถ หลังก่อเหตุยิงดับทั้งหมด 4 ศพก่อนขับรถของนายประยงค์ผู้เสียชีวิตคนไทยหลบหนี

       หลังเกิดเหตุเจาหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.นาสักและชุดสืบสวนสอบสวนของหน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดชุมพรเร่งวางแผนระดมกำลังออกตามล่าตัวผู้ก่อเหตุรายนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว

......................................................................................................... 


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หนุ่มก่อสร้างซดเหล้าขาววันละ 4 ขวดหายตัว 7 วันพบนอนจมโคลนป่าโกงกาง

ร.ท.ทหารเรือวัยเกษียณ เลือดร้อน ฉุนเพื่อนบ้านยิงผัวเจ็บเมียดับ

สลดใจ แม่พาลูกชายส่งรักษาบำบัด รพ.รัฐแต่ถูกปฏิเสธ สุดท้ายหลอนผูกคอดับ