เจ้าของอู่ซ่อมรถร้องคู่กรณีรับผิดชอบค่าเสียหายกว่า 5 ล้านบาท หลังล้งทุเรียนกำลังก่อสร้างหักโค่นทับพังยับ 7 ชีวิตหวิดดับ
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
เจ้าของอู่ซ่อมรถร้องคู่กรณีรับผิดชอบค่าเสียหายกว่า
5 ล้านบาท หลังล้งทุเรียนกำลังก่อสร้างหักโค่นทับพังยับ
7 ชีวิตหวิดดับ ต้องอาศัยหลับนอนในรถตู้ คาดโครงสร้างไม่ได้มาตรฐาน
จี้หน่วยงานรัฐเร่งตรวจสอบ
วันที่ 19 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายไพโรจน์ อ้นทอง อายุ 50 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์รุ่งโรจน์การช่าง ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย 41 เลขที่ 256 หมู่ 7 ตำบลนาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ว่าเกิดเหตุโครงสร้างของล้งทุเรียนขณะอยู่ใน
ระหว่างการก่อสร้างล้มทับอู่ซ่อมรถยนต์และบ้านพักพังเสียหายไม่สามารถประกอบกิจการและพักอาศัยอยู่ได้
ครอบครัวต้องอาศัยอยู่ในเต้นท์ชั่วคราวและหลับในรถยนต์
หลังเกิดเหตุยังไม่มีการเจรจาตกลงค่าเสียหายกับคู่กรณีโดยอ้างว่ายังไม่ว่าง เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ต่อมาวันเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไปยังอู่ดังกล่าว
เพื่อตรวจสอบความเสียหาย โดยพบนายไพโรจน์ เจ้าของอู่ พร้อมด้วยนางมยุรา อ้นทอง อายุ 53 ปี ภรรยา และร.ต.อ.ธนรง
ชื่นรติกาล อายุ 69 ปี อดีตข้าราชการตำรวจซึ่งเป็นพี่ชายของเจ้าของอู่
จากการตรวจสอบพบว่าสภาพของอู่ดังกล่าวถูกเสาเหล็กรางตัวยูขนาดใหญ่ของล้งทุเรียนที่อยู่ในระหว่างกำลังก่อสร้างน้ำหนักต้นละเกือบ 2 ตัน จำนวน 5 ต้น เอียงล้มทับพังเสียหายทั้งหลัง กระเบื้องและโครงสร้างหลังคาเหล็กหัก
แตกกระจัดกระจายเกลื่อน
อุปกรณ์ช่างได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด
อีกทั้งยังมีสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านเสียหายเช่นกัน
ส่วนด้านหลังของอู่เป็นเรือนไม้ทรงไทยถูกเสาเหล็กลงฟาดพังยับเสียหายทั้งหลัง
นายไพโรจน์ เจ้าของอู่และเจ้าของบ้าน เล่าว่า “เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมาขณะที่ตนและช่างซ่อมรถรวม 7 คน กำลังหยุดพักเที่ยง พอดีมีลูกค้าเข้ามาเรียกใช้บริการจึงพร้อมทีมช่างเดินออกไปบริเวณด้านหน้าอู่ ขณะนั้นมี
ลมกรรโชก
2 ครั้ง มีเสียงดังสนั่นตอนแรกคิดว่าถังแก็สระเบิด
แต่พบว่าเสาเหล็กจำนวน 18 ต้นและโครงหลังคาเหล็กของล้งทุเรียนขณะอยู่ในระหว่างการก่อสร้างอยู่ติดกับอู่เกิดล้มพังเครือลงมาทับทำให้อู่และบ้านพักอยู่ในที่เดียวกันพังยับเยิน
หลังเกิดเหตุพอตนตั้งสติได้ก็โทรหาตำรวจและกู้ภัย โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
หลังจากนั้นได้โทรศัพท์ติดต่อเจ้าของสถานที่ก่อสร้าง
แต่ได้รับคำตอบว่ายังไม่สะดวกคุยติดงานศพอยู่ที่จังหวัดน่าน
โดยปัดความรับผิดชอบให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างคุยแทนแต่สรุปว่านัดเจรจาค่าเสียหายในช่วงเย็นของวันนี้(
19 ก.ย.) ที่สภ.บ้านในหูต
สำหรับค่าเสียหายนั้นประเมินเบื้องต้นโดยวิศวกรว่าบ้านเสียหายทั้งหลัง ต้องสร้างใหม่ทั้งหมด มีอะไหล่และสิ่งของต่างๆถูกน้ำเสียหาย เนื่องจากหลังเกิดเหตุหลังคาพังฝนตกหนัก ยังมีรถลูกค้า 2 คัน ได้รับความเสียหายแต่เพียง
เล็กน้อยเท่านั้น ค่าเสียหายเฉพาะตัวบ้านประมาณ 4 ล้านบาท รวมอุปกรณ์ช่าง สิ่งของเครื่องใช้ และค่าขาดโอกาสประกอบกิจการประมาณ 5-6 เดือนรวมค่าเสียหายทั้งสินประมาณ 5-6 ล้านบาท เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คาดว่าเป็นเพราะโครงสร้างของล้งทุเรียนไม่แข็งแรงพอที่จะรับลมได้”
ขณะที่ร.ต.อ.ธนรง พี่ชาย นายไพโรจน์ กล่าวว่า
วอนให้หน่วยงานราชการเข้มงวดในการควบคุมการก่อสร้างอาคาร
เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนในภายหลังอีก
ต่อมาได้พาทีมข่าวไปตรวจดูเสาเหล็กที่เกิดเหตุพบว่าโคนเสาก่อฐานด้วยปูนซิเมนส์เท่าขนาดของเสาเหล็กโดยมีน๊อตยึดเพียง
6 ตัว ซึ่งไม่ใช่ขนาดของน๊อตที่มารับกับน้ำหนักของเสาเหล็กขนาดใหญ่
ผู้รับเหมาไม่รอบคอบ ไม่ละเอียดในการทำงาน ตนไม่ใช่วิศวกรแต่ก็มองออก” ตำรวจวัยเกษียณกล่าว
........................................................................................
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น