ชาวบ้านนับ 100 ช่วยลากเก๋งป้าหลานหลังน้ำป่าไหลเชี่ยวพัดรถหลานวัย 10 ขวบถูกกระแสน้ำซัดหาย
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ชาวบ้านนับ 100 ช่วยลากเก๋งป้าหลานหลังน้ำป่าไหลเชี่ยวพัดรถหลานวัย
10 ขวบถูกกระแสน้ำซัดหายกู้ภัย-ชาวบ้านระดมค้นหายยังไม่พบ
วันที่ 2 ธ.ค.66 เวลา 21.00 น.นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอสวี จ.ชุมพรได้รับแจ้งจาก ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร ว่าได้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ และได้เกิดเหตุรถยนต์ถูกกระแสน้ำพัดพาคน
จมสูญหาย 1ราย จึงพร้อมด้วย นายบุญก้อง ศรีสงคราม ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายนพดล ชอบตรง กำนัน
ชาวบ้านช่วยนำรถขึ้นจากน้ำตำบลครน
พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.สวี
กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์(กู้ภัยสายชล)เร่งตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ
ที่เหตุเกิดพบรถยนต์ เก๋งยี่ห้อ นิสสัน มาร์ช หมายเลขทะเบียน กต 2209 ชุมพร ถูกกระแสน้ำพัดจม บริเวณก่อนถึงสะพานปรา-นน ประมาณ 150 เมตร บนถนนสายเขาล้าน-ปลายกริม ม.9 ต.ครน ซึ่งมีน้ำป่าไหลเชี่ยวกราดชาวบ้านและผู้นำ
ชุมชนช่วยกันใช้เชือกนับร้อยคนช่วยดึงรถเก๋งขึ้นจากน้ำอย่างทุลักทุกเลและยากลำบากด้วยกระแสน้ำค่อนข้างรุนแรง มา
สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์จอดไว้บนถนนโดยมีนางพัชนิญา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี
เป็นผู้ขับ และมี ด.ช.กรวิชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 10 ปี โดยสารมา (มีความสัมพันธ์เป็นป้ากับหลาน)
แต่ด.ช.กรวิชญ์ได้ถูกกระแสน้ำพัดหายไป
จากการสอบถามทราบว่า นางพัชนิญาฯ ได้เดินทางมาส่งญาติในพื้นที่ ม. 10 ต.ครน และในช่วงเวลาเกิดเหตุกำลังจะเดินทางกลับบ้านพักในพื้นที่ ตำบลท่าหิน เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ มีกระแสน้ำพัดแรงจนทำให้รถเสียหลักจมน้ำ ซึ่ง
ร่วมวางแผนค้นหานางพัชนิญาฯ และ ด.ช.กรวิชญ์ฯ พยายามออกจากรถแต่ได้ถูกกระแสน้ำที่ไหลแรงพัดพาไป โดยนางพัชนิญาได้เปิดกระจกหน้าต่างพาด.ช.กรวิชญ์หนีตายออกจากรถแต่น้ำไหลเชี่ยวทำให้ด.ช.กรวิชญ์หลุดมือหาย นางพัชนิญาจึงได้กระเสือกระสนไปเกาะต้นไม้ไว้ได้ปลอดภัยต่อมามีชาวบ้านมาพบช่วยเหลือไว้ได้ แต่ ด.ช.กรวิชญ์ฯ ได้หายไปกับกระแสน้ำ
สนับสนุนโดยเพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์.
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนจิตอาสาในพื้นที่
พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยสายชลชุมพร ได้เร่งดำเนินการ ค้นหา
ด.ช.กรวิชญ์ฯแต่ปรากฏว่าช่วยกันระดมค้นหาหลายชั่วโมงยังไม่พบ จึงยุติการค้นหาโดยจะเริ่มกันในเช้าวันรุ่งขึ้นเวลา 09.00น. ขณะที่ระดับน้ำก็ลดอย่างรวดเร็วจนแห้งเช่นเดียวกันภายไม่กี่ชั่วโมง
สภาพรถคันเกิดเหตุ
ด้านนางสมบัติ หีดชนะ เลขานุการนายกอบต.ครน ได้เล่าเหตุการณ์ขณะไปพบผู้ประสบภัยเป็นคนแรกกับลูกสาวว่า เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักจึงเดินทางไปดูระดับน้ำบริเวณสะพานปรา-นน สังเกตเห็นรถยนต์ถูกกระแสน้ำพัดลอยไปไกลประมาณ 100-150 เมตรจึงร้องเรียกให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงช่วย พบเจ้าของรถเกาะติดอยู่บนต้นไม้
นางสมบัติ / ผู้เห็นเหตุการณ์คนแรกกับลูกสาวเรียกชาวบ้านช่วย
ช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัยและชาวบ้านผู้นำชุมชนอาสากู้ภัยนำสายเชือกมาดึงรถขึ้นจากน้ำได้สำเร็จ
โดยผู้ประสบเหตุเล่าว่า
เท้าไปแตะเบรกรถเลยหมุนลื่นไถลลงไปในน้ำทำให้พลิกคว่ำ
พอรู้สึกตัวว่ารถลงน้ำจึงเปิดประตูรถดึงหลานไว้แต่ระหว่างนั้นน้ำดันเข้าประตูเด็กจึงหลุดมือหายไป”
นางสมบัติเล่าให้ฟัง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น