คนร้ายอาละวาดบุกงัดบ้านลักทรัพย์ผู้เสียหายวอนตำรวจเร่งจับกุมเพราะอยากถาม ทำไมต้องเผาบ้าน
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
นายสว่าง อายุ 62 ปี ชาวต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 18.40 น. ตนเองได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่าบ้านของตนเองเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งในขณะนั้นตนเองไม่ได้อยู่บ้าน เมื่อได้รับแจ้งก็ได้รีบ
กลับมาที่บ้าน
เมื่อมาถึงก็พบว่ามีเจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันดับเพลิง จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ซึ่งสร้างความเสียหายไปครึ่งหลัง โดยเฉพาะในส่วนของห้องนอนที่เสียหายหนักเนื่องจากมีอุปกรณ์เครื่องมือ
เครื่องใช้ภายในสวน มีตู้เสื้อผ้า ที่นอน และหนังสืออยู่เป็นจำนวนมาก
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบพื้นที่ ได้สันนิฐานว่าเป็นไฟฟ้าลัดวงจรประกอบกับตรวจสอบรอบบ้าน พบว่ากล้องวงจรปิดถูกทำลายไป1 ตัว จึงได้ไปตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ก็พบว่า ได้มีคนร้ายสวมหมวก ใส่กลางเกงขาสั้นสีดำ ใส่รองเท้าบูต ใส่เสื้อแขนยาว สะพายกระเป๋าเป้ลายพราง มือ
ซ้ายถือขวาน เดินเข้ามาจากทางหลังบ้านมุ่งตรงไปด้านข้าง ฝั่งซ้ายมือของตัวบ้าน ซึ่งหันหน้าไปทางถนนก่อนคนร้ายจะใช้ขวานที่พกติดมือมาพยายามงัดหน้าต่างแต่ไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากมีเหล็กดัดขวางอยู่ คนร้ายได้เดิน
กลับมาหลังบ้านอีกครั้งหนึ่งโดยคนร้ายได้หันมาเห็นกล้องวงจรปิดจึงรีบก้มหน้าผ่านกล้องไปคาดว่าคนร้ายได้ทำลายกล้องวงจรปิด
ก่อนจะปีนขึ้นบนหลังคาบ้านแล้วเปิดกระเบื้อง 1 แผ่นออกและมุดลงไปในบริเวณห้องน้ำภายในบ้าน
(ภาพกล้องวงจรปิดของบ้านใกล้เคียงกันสามารถบันทึกภาพไว้ได้)
สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์
นายสว่างยังเล่าต่อว่าคนร้ายมุดหลังคาเข้าไปในบ้านใช้เวลาไม่กี่นาที
ก็ออกมาโดยปีนออกมาจากช่องหลังคาทางเดิมเนื่องจากภายในบ้านได้ติดเหล็กดัดไว้ทุกช่องทาง
และหลังจากที่คนร้ายปีนออกไม่กี่นาที
กล้องวงจรปิดของบ้านใกล้เคียงสามารถจับภาพไว้ได้ว่าเกิดประกายไฟขึ้นบริเวณห้องนอนปีกด้านขวาด้านหลังของตัวบ้าน
เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามที่นั่งอยู่หน้าบ้าน ได้มองเห็นว่ามีกลุ่มควันและเริ่มมีประกายไฟขึ้นจากหลังคาบ้าน
จึงได้ประสานไปยังเทศบาลตำบลวังใหม่เพื่อให้นำรถดับเพลิงมาระงับไฟพร้อมกันนี้ก็ได้โทรมาแจ้งตนดังกล่าว
นายสว่างยังเล่าต่ออีกว่า ตนเองอยู่บ้านนี้มานานกว่า 30 ปี กว่าจะได้มีบ้านหลังนี้ต้องทำงานตรากตรำเก็บออมเพื่อมีบ้านเป็นของตัวเอง และเมื่อสร้างบ้านได้อย่างสมใจที่ตั้งไว้ไม่นานก็มีคนร้ายเข้ามางัดบ้านเพื่อลักทรัพย์ ตั้งแต่ปี 2540 จนมาถึงครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 โดยครั้งแรกคนร้ายได้เข้ามาขโมยน้ำหอมไป 1 ขวด ซึ่งก็รู้ตัวแต่ไม่อยากเอาความเพราะ
สนับสนุนโดยเพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์.
เป็นคนที่โดยสารรถตนเองอยู่ประจำ ต่อมาครั้งที่ 2 ได้เข้ามาทางเดิมคือเปิดกระเบื้องเข้ามาทางหลังคาบ้าน และได้เข้าไปเอาเงินและต้นไม้ โชคดีที่ไม่ได้เอาอาวุธปืนที่ตั้งอยู่หัวเตียงไปด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนเดิม และมาในครั้งที่ 3 คนร้ายได้งัดประตูหลังบ้าน ซึ่งเป็นประตูเหล็กออก และเข้าไปภายในบ้าน แต่ระหว่างนั้นได้มีชาวบ้านได้มาซื้อน้ำขวด
ผู้ก่อเหตุ
และถามว่าน้าเป็นใครและเข้ามาได้ยังไง ซึ่งคนร้ายก็ได้บอกว่าน้าเป็นญาติน้าลืมกุญแจไว้ และจะเข้าไปกินข้าว ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ได้สนใจอะไร ก่อนจะซื้อน้ำขวดและเอาเงินให้กับคนร้ายก่อนจะเดินกลับไป และเมื่อคนดังกล่าวไปถึงที่บ้านตนเองญาติได้ถามถึงตน(คือนายสว่าง)ว่าพี่หลวงและแฟนพี่หลวงกลับมาจากต่างจังหวัดหรือยัง ซึ่งชาวบ้านที่มาซื้อน้ำขวดบอกว่ายัง ญาติจึงเดินขึ้นมาดูก็ไม่พบคนที่ขายน้ำขวดให้กับชาวบ้านแล้ว เชื่อว่าคนร้ายคงกลัวจึงรีบหลบหนีไปและไม่ได้เอาอะไรไป
นายสว่างกล่าวต่ออีกว่า มาครั้งที่ 4 คนร้ายได้งัดหน้าต่างพังเสียหาย 2 บาน ซึ่งไม่สามารถเข้าไปในบ้านได้จนมาครั้งที่ 5 คนร้ายได้เข้ามาขโมยทรัพย์สินเงินกว่า 10,000 บาท ของชำที่ขายภายในร้านหลายรายการ ไม่ต่ำกว่า3-4 หมื่นบาทแต่ที่เสียหายหลักคือคนร้ายนอกจากจะลักทรัพย์ไปแล้วยังได้จุดไฟวางเพลิงบ้านจนได้รับความเสียหาย ซึ่งตนเชื่อว่าครั้งที่ 4 เท่านั้นที่ไม่ใช่คนร้ายคนเดิม นอกนั้น ตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงครั้งที่ 5 มั่นใจได้ว่าเป็นบุคคลเดียวกันที่ก่อเหตุ เพราะ
ดูจากเค้าโครงรูปร่างหน้าตา
ที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพได้
และคนร้ายคนนี้ยังไปก่อเหตุงัดบ้านลักทรัพย์อีกหลายๆพื้นที่
ตนเองอยากวนให้ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ตนเองอยากจะถามว่า
เข้ามาขโมยของแล้ว ทำไมต้องเผาบ้าน บ้านหลังนี้กว่าจะสร้างมาสองคนกับภรรยาต้องใช้เวลาและเก็บเงินด้วยความยากลำบาก
ในขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบผู้เสียหาย ที่ถูกคนร้ายบุกงัดบ้าน และเป็นคนร้ายคนเดียวกันที่ก่อเหตุลักทรัพย์และเผาบ้านของนายสว่างตามกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพได้ ทราบชื่อ รท.ถนอมศักดิ์ อายุ 63 ปี ชาวต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร คนร้ายคนดังกล่าวได้มาก่อเหตุที่บ้านเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนไปก่อนเหตุ 1 วันก่อนไปก่อเหตุบ้านนายสว่าง โดยตัวคนร้ายได้เดินมาดูลาดเลาก่อน 1 วันเมื่อรู้ว่าตนไม่อยู่จึงเข้ามาก่อเหตุโดยเดินมาทางหลังบ้านซึ่งติด
กับคลองชุมพร
และเดินเข้าไปในบ้านและได้งัดประตูแต่ไม่สามารถเปิดได้
จึงได้งัดหน้าต่างจนสามารถเข้าไปภายในบ้านได้ แล้วคนร้ายได้เข้าไปในห้องพระ
ซึ่งมีพระเครื่องและธนบัตรฉบับเก่าที่เก็บสะสมไว้คนร้ายได้เอาไปจำนวนมาก
ไม่สามรถตีเป็นมูลค่าได้ หลังจากคนคนร้ายได้เดินออกมาและขโมยอุปกรณ์เครื่องมือการเกษตรใส่กระเป๋าเป้
ลักษณะรูปร่างหน้าตาการแต่งตัวตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุบ้านนายสว่าง
และร้านขายของชำในพื้นที่ หมู่7 บ้านวังใหม่ รวมไปถึงบ้านของชาวบ้านในพื้นที่ หมู่4 บ้านนาด้วยเช่นกัน
รท.ถนอมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองหลังรู้ตัวคนร้ายก็ได้เดินทางไปที่บ้านแต่ไม่พบตัว และทราบว่าคนร้ายไหวตัวหลบหนีออกจากพื้นที่ และล่าสุดทราบว่าทางตำรวจรู้ตัวแล้วและออกหมายจับแล้ว
.................................................................
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น