เจ๊อ้วน คอตกเข้าห้องขัง หลังตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก! อุ้มฆ่าสามี ฝากขอโทษครอบครัว “เสี่ยหมาด”
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
เจ๊อ้วน คอตกเข้าห้องขัง หลังตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก! อุ้มฆ่าสามี
ฝากขอโทษครอบครัว “เสี่ยหมาด” ยอมรับชะตากรรม ขณะที่ศพเสี่ยหมาดเดินทางมาถึงตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่สำนักสงฆ์ใกล้บ้าน
โดยมีญาติและชาวบ้านรอรับศพอย่างเนืองแน่น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า
เมื่อช่วงหนึ่งทุ่มที่ผ่านมา
พนักงานสอบสวนได้ให้เจ๊อ้วนเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาและสำนวนทั้งหมด
จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนพร้อมกับเจ้าหน้าที่กองปราบได้ถ่ายภาพเจ๊อ้วนเพื่อทำบันทึกจับกุม
โดยสีหน้าเจ๊อ้วนเริ่มเศร้าและดูเหนื่อยล้า
กระทั่งเวลา 19.10 น.
พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวเจ๊อ้วน
เพื่อเข้าห้องควบคุมขังของโรงพักนาสัก
โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีที่มีโทษสูง
ทำให้เจ๊อ้วนจะต้องในห้องขังของโรงพักเพียงลำพัง ไม่มีผู้ต้องหาคนอื่นๆ
โดยระหว่างที่เจ๊อ้วน
กำลังจะเดินเข้าห้องควบคุมขัง
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
ได้นำร่างของเสี่ยหมาด มาทำบันทึกประจำวันที่โรงพักนาสักพอดี
ซึ่งเดินทางออกจากโรงพยาบาลตำรวจช่วงเวลา 15.00 น.
ขณะนั้น นักข่าวได้พยายามสอบถามเจ๊อ้วนว่า มีอะไรอยากจะฝากขอโทษครอบครัวของเสี่ยหมาดหรือไม่ โดยเจ๊อ้วน หันกลับมาตอบกับนักข่าวทันทีว่า “ อยากจะไปที่งานศพเพื่อขอโทษญาติของสามีทุกคน แต่มันทำไม่ได้ ก็ฝากขอโทษตรงนี้แล้วกัน ขอโทษตระกูลสมหวังทุกๆคน"
สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์ จากนั้นทีมข่าวได้สะกิดบอกเจ๊อ้วนว่า
ศพของเสี่ยหมาสอยู่ด้านหน้าโรงพักพอดี เจ๊อ้วนลองขอตำรวจไปกราบศพเสี่ยไหม
ทันใดนั้น เจ๊อ้วนได้หันหน้าไปที่หน้าโรงพัก
โดยมีผู้สื่อข่าวได้ช่วยกันขอเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เจ๊อ้วนได้กราบศพขอโทษเสี่ยหมาสครั้งสุดท้าย
แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกจับกุมเจ๊อ้วนแล้ว
จึงไม่สามารถปล่อยตัวออกไปด้านนอกโรงพักได้ และได้คุมตัวเจ๊อ้วน
ให้เดินเข้าห้องขังทันที
นักข่าวได้พยายามสอบถามเจ๊อ้วนเป็นครั้งสุดท้ายว่า
“ป้าอ้วนมีอะไรอยากบอกเสี่ยหมาดไหม เพราะเสี่ยหมาสอยู่ใกล้ป้าอ้วนมากสุดแล้วตอนนี้”
เจ๊อ้วนได้ตอบกลับทีมข่าวว่า “ฉันไม่รู้จะทำยังไง อโหสิกรรมให้ฉันด้วย
ฉันขอโทษฉันผิดไปแล้ว
จากนั้นเจ๊อ้วนได้เดินถือไม้เท้าประคองตัวเองเข้าห้องขังทันที
ขณะเดียวกันหลานชายของเสี่ยหมาด ได้นำของใช้ส่วนตัว สบู่ ยาสีฟัน เสื้อผ้า เครื่องนุ่มห่ม หมอน และพัดลม เพื่อขอตำรวจเอาไปให้เจ๊อ้วน เนื่องจากในห้องขัง ไม่มีทั้งแอร์และพัดลม โดยเจ้าหน้าที่ได้รับไว้ และจะขอตรวจข้าวของ
ทั้งหมดก่อน ว่า
มีสิ่งของที่คล้ายเชือกหรืออาวุธที่ใช้ทำร้ายตัวเองหรือไม่ เนื่องจาก
คืนนี้เจ๊อ้วนจะต้องนอนในคุกเพียงคนเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่กลัวที่สุดคือ กลัวจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย
ต่อมามูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์
จังหวัดนครศรีธรรมราชได้นำศพไปยังสำนักสงฆ์พระยืนซึ่งตั้งอยู่ใกล้บ้านเสี่ยหมาด
โดยที่มีญาติพี่น้องและชาวบ้าน ได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับตั้งสวดอภิธรรมศพไว้แล้ว
พร้อมทั้งรอรับศพเสี่ยหมาดกันอย่างเนืองแน่น
ทันทีที่ยกโลงบรรจุศพเสี่ยหมาดลงจากรถมูลนิธิฯเพื่อนำไปตั้งไว้ที่จัดเตรียมไว้
เมื่อเปิดฝาโลงออกพบว่าร่างเสี่ยหมาดถูกห่อไว้ด้วยผ้าดิบสีขาวมัดแน่นไม่ให้เห็นร่างกายเนื่องจากมีสภาพเปื่อย
โดยมีญาติพี่น้องและชาวบ้านที่มีความสนิทสนม ต่างร่ำให้อย่างโศกเศร้าเสียใจ
ขณะที่ญาติได้นำเสื้อผ้าเสี่ยหมาดมาใส่ไว้ในโลงศพพร้อมทั้งนำผ้าขนหนูสีแดงห่มให้ด้วย
ขณะที่ป้าหมูซึ่งเป็นพี่สาวเสี่ยหมาด
ยืนร่ำให้ข้างโลงศพพร้อมทั้งพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า
“ถ้าน้องเชื่อพี่จะไม่เป็นพันนี้เลย
น้องไม่เชื่อเลย”
......................................................................
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น