รวบผัวเมียชาวเวียดนามชาวบ้านสงสัยแก๊งลักเด็กค้นรถเก๋งพบไฟโซล่าเซลล์เต็มคัน

รูปภาพ
  ผู้นำชุมชนประกอบด้วยกำนันผู้ใหญ่บ้านนายกอบต.โพสข้อความและคลิปกล้องวงจรปิดในสื่อโซชียล หลังจากนายสุนทร  น้อยราช กำนันตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพรรับแจ้งในกลุ่มไลน์ ว่ามีรถเก๋งโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนเทา ไม่ทราบทะเบียนบอกว่ามาขายผ้าใบ กางเกงยีนส์และขายไฟโซล่าเซลล์ ขับตระเวนขับรถลงไปคุยกับบุตรของลูกบ้าน ถามว่าพ่อแม่อยู่ไหม หลังจากเด็กตอบไม่อยู่ก็วิ่งไล่จับเด็ก ตอนนี้เด็กขวัญเสียมากให้ช่วยกันสอดส่องดูแล คนขายพูดไทยไม่ชัดตามคำบอกเล่าของเด็ก” ล่าสุดควบคุมตัวไว้ได้พบเป็นสองผัวเมียสัญชาติเวียดนาม โดยให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่แก๊งลักเด็กแค่มาหาซื้อทุเรียน ส่วนโซล่าเซลล์ซื้อติดรถไว้ใช้ที่บ้านประเทศเวียดนามใครอยากได้ก็ขายให้       จากเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 11 ส.ค. 68 ที่ชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชนที่ 4101 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยก 1 หมู่ 7 ตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พ.ต.ท.ศตกาญจน์  นวลมี  รอง ผกก.สส.สภ.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พร้อมด้วยพ.ต.ท.วิจิตร  สามัญเมือง  สว.สส.สภ.สลุย  ร.ท.นรินทร์  ม...

เจ๊อ้วน คอตกเข้าห้องขัง หลังตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก! อุ้มฆ่าสามี ฝากขอโทษครอบครัว “เสี่ยหมาด”

 

เจ๊อ้วน คอตกเข้าห้องขัง หลังตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก! อุ้มฆ่าสามี ฝากขอโทษครอบครัว “เสี่ยหมาด” ยอมรับชะตากรรม ขณะที่ศพเสี่ยหมาดเดินทางมาถึงตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่สำนักสงฆ์ใกล้บ้าน โดยมีญาติและชาวบ้านรอรับศพอย่างเนืองแน่น

สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี

          ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงหนึ่งทุ่มที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ให้เจ๊อ้วนเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาและสำนวนทั้งหมด จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนพร้อมกับเจ้าหน้าที่กองปราบได้ถ่ายภาพเจ๊อ้วนเพื่อทำบันทึกจับกุม โดยสีหน้าเจ๊อ้วนเริ่มเศร้าและดูเหนื่อยล้า 

สื่อรุมสัมภาษณ์ขณะเดินเข้าห้องขัง

         กระทั่งเวลา 19.10 น. พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวเจ๊อ้วน เพื่อเข้าห้องควบคุมขังของโรงพักนาสัก โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีที่มีโทษสูง ทำให้เจ๊อ้วนจะต้องในห้องขังของโรงพักเพียงลำพัง ไม่มีผู้ต้องหาคนอื่นๆ

สนับสนุนโดย ร้านเค.เอส.รุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์

         โดยระหว่างที่เจ๊อ้วน กำลังจะเดินเข้าห้องควบคุมขัง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นำร่างของเสี่ยหมาด มาทำบันทึกประจำวันที่โรงพักนาสักพอดี ซึ่งเดินทางออกจากโรงพยาบาลตำรวจช่วงเวลา 15.00 น.

         ขณะนั้น นักข่าวได้พยายามสอบถามเจ๊อ้วนว่า มีอะไรอยากจะฝากขอโทษครอบครัวของเสี่ยหมาดหรือไม่ โดยเจ๊อ้วน หันกลับมาตอบกับนักข่าวทันทีว่า “ อยากจะไปที่งานศพเพื่อขอโทษญาติของสามีทุกคน แต่มันทำไม่ได้ ก็ฝากขอโทษตรงนี้แล้วกัน ขอโทษตระกูลสมหวังทุกๆคน"

สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์

           จากนั้นทีมข่าวได้สะกิดบอกเจ๊อ้วนว่า ศพของเสี่ยหมาสอยู่ด้านหน้าโรงพักพอดี เจ๊อ้วนลองขอตำรวจไปกราบศพเสี่ยไหม ทันใดนั้น เจ๊อ้วนได้หันหน้าไปที่หน้าโรงพัก โดยมีผู้สื่อข่าวได้ช่วยกันขอเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เจ๊อ้วนได้กราบศพขอโทษเสี่ยหมาสครั้งสุดท้าย

แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกจับกุมเจ๊อ้วนแล้ว จึงไม่สามารถปล่อยตัวออกไปด้านนอกโรงพักได้ และได้คุมตัวเจ๊อ้วน ให้เดินเข้าห้องขังทันที

          นักข่าวได้พยายามสอบถามเจ๊อ้วนเป็นครั้งสุดท้ายว่า “ป้าอ้วนมีอะไรอยากบอกเสี่ยหมาดไหม เพราะเสี่ยหมาสอยู่ใกล้ป้าอ้วนมากสุดแล้วตอนนี้” เจ๊อ้วนได้ตอบกลับทีมข่าวว่า “ฉันไม่รู้จะทำยังไง อโหสิกรรมให้ฉันด้วย ฉันขอโทษฉันผิดไปแล้ว จากนั้นเจ๊อ้วนได้เดินถือไม้เท้าประคองตัวเองเข้าห้องขังทันที

           ขณะเดียวกันหลานชายของเสี่ยหมาด ได้นำของใช้ส่วนตัว สบู่ ยาสีฟัน เสื้อผ้า เครื่องนุ่มห่ม หมอน และพัดลม เพื่อขอตำรวจเอาไปให้เจ๊อ้วน เนื่องจากในห้องขัง ไม่มีทั้งแอร์และพัดลม โดยเจ้าหน้าที่ได้รับไว้ และจะขอตรวจข้าวของ

ทั้งหมดก่อน ว่า มีสิ่งของที่คล้ายเชือกหรืออาวุธที่ใช้ทำร้ายตัวเองหรือไม่ เนื่องจาก คืนนี้เจ๊อ้วนจะต้องนอนในคุกเพียงคนเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่กลัวที่สุดคือ กลัวจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย

        ต่อมามูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ จังหวัดนครศรีธรรมราชได้นำศพไปยังสำนักสงฆ์พระยืนซึ่งตั้งอยู่ใกล้บ้านเสี่ยหมาด โดยที่มีญาติพี่น้องและชาวบ้าน ได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับตั้งสวดอภิธรรมศพไว้แล้ว พร้อมทั้งรอรับศพเสี่ยหมาดกันอย่างเนืองแน่น

       ทันทีที่ยกโลงบรรจุศพเสี่ยหมาดลงจากรถมูลนิธิฯเพื่อนำไปตั้งไว้ที่จัดเตรียมไว้ เมื่อเปิดฝาโลงออกพบว่าร่างเสี่ยหมาดถูกห่อไว้ด้วยผ้าดิบสีขาวมัดแน่นไม่ให้เห็นร่างกายเนื่องจากมีสภาพเปื่อย โดยมีญาติพี่น้องและชาวบ้านที่มีความสนิทสนม ต่างร่ำให้อย่างโศกเศร้าเสียใจ ขณะที่ญาติได้นำเสื้อผ้าเสี่ยหมาดมาใส่ไว้ในโลงศพพร้อมทั้งนำผ้าขนหนูสีแดงห่มให้ด้วย

       ขณะที่ป้าหมูซึ่งเป็นพี่สาวเสี่ยหมาด ยืนร่ำให้ข้างโลงศพพร้อมทั้งพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า “ถ้าน้องเชื่อพี่จะไม่เป็นพันนี้เลย  น้องไม่เชื่อเลย”

......................................................................


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ฝ่ายปกครองอำเภอสวีรวบหนุ่มวัย 30 ปี หลังนัดส่งยาบ้าที่ป้ายโครงการทำถนนฯได้ไอซ์ยาบ้ากว่า 1 หมื่นเม็ด

กระบะเลี้ยวปาดหน้าเฟอร์จูนเนอร์ชนท้าย ก่อนลงมาชกต่อย กระบะเจอรุมสองชักปืนยิงเจ็บ