ตำรวจปส.ใช้ระบบAIตรวจจับป้ายทะเบียนคิดว่าเป็นรถขนยาเสพติดสกัดจับพบต่างด้าวอื้อ
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 8 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
พ.ต.ต.พิษณุ แก้วล้อม สารวัตรกองกำกับการ 4
กองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด
กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พร้อมกำลังควบคุมตัวนายชัยยศ เกิดมา อายุ 47 ปี
ชาวจังหวัดนนทบุรี และนายทินกร กายเย็น
อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา
โดยแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันซ่อนเร้น หรือให้การช่วยเหลือด้วยประการใดๆแก่บุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม พร้อมยึดรถกระบะโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ ตอนครึ่ง
สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวีทะเบียน นนทบุรี ติดตั้งตู้ทึบแสตนเลส และรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ ตอนเดียว สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ติดตั้งตู้ทึบติดสติ๊กเกอร์บริษัทขนส่งชื่อดังแห่งหนึ่ง
พร้อมทั้งควบคุมตัวชาวต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์แยกเป็นชาย 22 คน หญิง 16 คน รวมทั้งหมด 38 คน โดยแจ้งข้อกล่าวหา
เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สวีดำเนินคดีตามกฎหมาย
สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์
เบื้องต้นทราบว่า เมื่อช่วงประมาณ 10.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.ต.พิษณุฯ สารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการสกัดกั้นยาเสพติด นำกำลังผู้ใต้บังคับบัญชา ตั้งจุดเฝ้าระวังมีการตรวจจับป้ายทะเบียนรถด้วยระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ
หรือกล้องอ่านแผ่นป้ายอัตโนมัติ พบว่ารถกระบะติดตั้งตู้ทึบแบบขนส่งสินค้าเข้าสู่จังหวัดชุมพรปรากฏว่า
ใช้วิธีหลบด่านตรวจบ้านพละกับด่านตรวจยาเสพติดท่าแซะใช้เส้นทางถนนเลียบฝั่งทะเล
เจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามและสามารถสกัดจับรถทั้งสองคันได้ในพื้นที่ตำบลนาโพธิ์
อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เมื่อแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้นซึ่งขณะไล่ติดตามเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเบื้องต้นคาดว่าอาจจะเป็นรถลำเลียงยาเสพติด
แต่เมื่อเปิดประตูตู้หลังรถพบว่าเป็นชาวต่างด้าวชายหญิงทั้งหมด 38 คน จึงควบคุมตัวทั้งหมดรวมทั้งคนขับรถกระบะที่เป็นคนไทยสองคน
ไปยังสภ.สวี
สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์
จากการสอบสวนคนขับรถชาวไทย
ทราบว่าขับรถไปรับต่างด้าวมาจากกรุงเทพมหานครขับตามกันมา
ไปส่งปลายทางจังหวัดสงขลาและพัทลุง โดยจะมีคนร่วมขบวนการมารับช่วงต่อ
ซึ่งจะได้รับค่าจ้างคนละ 2,000 บาท ผู้ต้องหาทั้งสองคนสารภาพว่าทำมาหลายรอบแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่
3 มี.ค.ที่ผ่านมา ขนต่างด้าวไปส่งที่จังหวัดสงขลา
ก่อนรอบนี้มาถูกจับกุมได้
ด้านนายฮุนเซ็น อายุ 28 ปี ล่ามชาวเมียนมาร์ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวหลังได้พุดคุยกับชาวเมียนมาร์หลบหนีเข้าเมืองว่า ทั้งหมดมาจากรัฐยะไข่ เพราะหนีภัยสงครามที่มีการสู้รบกันตลอดและเพื่อความปลอดภัยจึงขายจำนองที่ดินทำกิน
บางคนพ่อแม่ก็ให้เงินมา
เอาให้นายหน้าเดินทางข้ามมายังประเทศไทยฝั่งชายแดนแม่ฮ่องสอน จ.ตาก ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์
โดยตั้งใจไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียบางรายมีญาติพี่น้องที่ทำงานอยู่ประเทศมาเลเซียส่งเงินมาให้และพร้อมรอรับอยู่แล้วแต่มาถูกตำรวจไทยจับกุมก่อน
ล่ามแปลภาษา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า
ระหว่างอยู่ในโรงพักสวีได้ยินเสียงร้องให้ของหญิงสาวชาวเมียนนมาร์ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง
รู้สึกหดหู่ใจและเวทนายิ่งนัก นายฮุนเซ็น ล่ามชาวเมียนมาร์ บอกว่า
เขาคิดถึงพ่อแม่และเกิดอาการเครียด”
....................................................................................
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น