คนร้ายกระหน่ำยิงร่างพรุนหนุ่มชาวสวนทุเรียนดับคาบ้าน
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 26 มี.ค.67 พ.ต.ต.ทวีศักดิ์ รักสกุล สว.สอบสวน สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากนายธิเบก เทพศิริ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 (บ้านต่อตั้ง) ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ว่ามีลูกบ้านถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านหลัง
หนึ่ง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาให้ได้ทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์
ศรีสุวรรณ์ ผกก.สภ.พะโต๊ะ,พ.ต.ท.พรศักดิ์
มงคล รอง ผกก.สืบสวน สภ.พะโต๊ะ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดชุมพร
กำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.พะโต๊ะและหน่วยกู้ภัยสายชล เขตพะโต๊ะ
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว
ปลูกอยู่ริมถนนหมู่บ้านสายบ้านต่อตั้ง-บ้านในเจะ
ห่างจากถนนสายพะโต๊ะ(ชุมพร)-ราชกรูด(ระนอง)กว่า 10
กม.โดยภายในบ้านเจ้าหน้าที่พบศพนายเวนิช (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้า
กางเกงขายาวสีดำ สภาพนอนหงาย แขนทั้งสองยกพับมือแตะอยู่บริเวณใบหน้า
ส่วนขาขวาทับขาซ้าย สภาพพับงอ ที่บริเวณขอบเอวกางเกง มีมีดเหน็บอยู่ 1 ด้าม นอนเสียชีวิตคาประตูกระจกระหว่างห้องครัวกับห้องโถง เลือดที่นองพื้นเริ่มแห้งเกรอะกรัง ใกล้กันยังมีกระดานเขียง จำนวน 1 อัน มีใบกัญชา
สนับสนุนโดย ร้านเค.เอส.รุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์ ตกหล่นอยู่จำนวนหนึ่ง
และริมพนังห้องยังมีบ้องกัญชาวางพิงอีก 1 บ้อง
จากการตรวจสอบภายในห้องเก็บซึ่งอยู่ถัดไปจากห้องครัวพบประตูถูกงัดพังทั้งบาน
และพบกระสุนไม่ทราบขนาดติดฝั่งอยู่ขอบประตู กระจก จำนวน 1 นัด
เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บพยานหลักฐานแวดล้อมในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด
ชันสูตรพลิกศพ พบว่า
บริเวณร่างกายด้านขวามือของนายเวนิช ผู้ตาย ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง
จำนวนหลายนัด โดยเข้าบริเวณท้ายทอย 1 นัด ก้านคอ 3 นัด ไหล่ 3 นัด ราวนม 1 นัด ชายโครง 1 นัด
กระสุนฝั่งใน เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ทางหน่วยกู้ภัยนำศพมา รพ.พะโต๊ะ
เพื่อชันสูตรรายละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบถามนายธิเบก ผู้ใหญ่บ้าน ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ขณะที่ตนเองกำลังนั่งประชุมกับชาวบ้านอยู่ ได้มีนางสุจินต์ อายุ 80 ปี โทรศัพท์แจ้งมาที่ตนว่า นายเวนิช ลูกชาย
ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านแล้ว ให้ช่วยแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ซึ่งหลังจากที่ตนได้รับแจ้งมาก็ได้โทรศัพท์ไปที่
สภ.พะโต๊ะ และได้ร่วมเดินทางมาตรวจสอบพร้อมกันพบว่านายเวนิช
ถูกยิงนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านดังกล่าว
ผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่า ในส่วนสาเหตุการสังหารในครั้งนี้นั้น ตนเองไม่อยากจะไปก้าวก่ายการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แต่ตนเองยืนยันว่า นายเวนิช ผู้ตาย เคยมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและถูกจับมา
1 ครั้ง แต่หลังจากที่พ้นโทษมา
ก็ได้ปฏิญาณตนว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก และตนเองและชุมชน
ก็จะหมุนเวียนมาตรวจปัสสาวะนายเวนิช อยู่ทุกอาทิตย์
ซึ่งก็ไม่พบสารเสพติดในร่างกายอีกเลย ในส่วนที่มีปัญหาภายในครอบครัวนั้น
ตนเองก็เพียงรู้มาบ้างเล็กน้อย ส่วนจะมีเรื่องกับคนภายนอกนั้น
ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะนายเวนิช จะไม่ชอบไปสุงสิงกับใคร
ด้านนางสุจินต์ ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ไฟที่บ้านเกิดเสีย ตนจึงได้โทรมาที่นายเวนิช ลูกชายให้ไปดูให้ และหลังจากที่ซ่อมเปลี่ยนฟิวส์เป็นที่เรียบร้อย นายเวนิช ลูกชาย ก็บอกว่า กลับบ้านก่อน เพราะต้องตื่นเช้าเพื่อรดน้ำต้นทุเรียน ตอนนั้นเวลาประมาณ 5 ทุ่ม แต่มาช่วงเช้าผิดสังเกต นายเวนิช ลูกชายไม่มากินข้าว จึง
เดินทางมาที่บ้านนายเวนิช ซึ่งห่างจากบ้านแม่ เพียงไม่ถึง 1 กิโลเมตร ก็พบว่าลูกชายนอนพิงประตูห้องครัว
โดยไม่รู้ว่าถูกยิงตายแล้วและได้เขย่าตัวเชิงลากตัว จนพบมาเลือดนองพื้น
จึงได้โทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้านดังกล่าว ส่วนสาเหตุนั้น ตนเองไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุใด
ส่วนจะมาจากปัญหาในพี่ๆน้องๆนั้น ตนเองไม่น่าจะเกิดขึ้น
ซึ่งก็ต้องรอเจ้าหน้าที่เก็บพยานหลักฐานเพื่อหาตัวคนร้ายรายนี้
ในขณะที่พี่ชายของผู้ตาย
กล่าวว่า
หลังจากที่พ่อไม่สบาย ตนเองก็ได้มาดูแลพ่อที่บ้านหลังดังกล่าว
จนล่าสุดพ่อไม่สบายหนัก ต้องส่งเข้ารักษาตัวที่ รพ.พะโต๊ะ จนล่าสุด
พ่อได้เสียชีวิตลง เมื่อเวลา 04.30 น.ของวันนี้(26มี.ค.)
พี่ชายผู้เสียชีวิต กล่าวอีกว่าตลอดที่พ่อรักษาตัว ตนเองไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน เพราะต้องเฝ้า
หรือบางที่ ที่กลับก็เพื่อมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และเมื่อตลอดทั้งคืน
ตนเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งเมื่อพ่อเสียชีวิต
ก็ได้แจ้งไปที่แม่พี่น้องและญาติ จนมารู้อีกที ว่า
น้องชายถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านแล้ว และทางตำรวจได้เรียกตนมาสอบ
ซึ่งตนก็มาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่เกี่ยวข้องอันใดของการตายของนายเวนิช
น้องชายแต่อย่างใด
เมื่อผู้สื่อข่าว
ได้สอบถามถึงปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งกันในครอบครัว พี่ชายผู้เสียชีวิตกล่าวว่า
การทะเลาะเบาะแว้งภายในครอบครัว หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็จะมีเกือบทุกครอบครัว
แต่ครอบครัวตนนั้น ไม่ได้อะไรมากมาย เพราะรู้น้องชายเป็นคนเจ้าอารมณ์
และสติไม่ค่อยจะดีร้อยเปอร์เซ็นต์หลังจากประสบอุบัติเหตุด้านสมอง
ก็มักจะหาเรื่องกับคนทั่วไปแทบทั้งหมู่บ้านแล้ว จึงไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
น้องไปสร้างเรื่องไว้ที่ไหนบ้าง แต่ตนยืนยันตนไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้
หากจะทำก็ทำไปนานแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พะโต๊ะ และ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานจังหวัดชุมพร
ได้เก็บพยานหลักฐานในบ้านเกิดเหตุแล้ว
ได้มาเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านของนายทวิช อย่างละเอียดอีกครั้ง
เนื่องจากพบร่องรอยคล้ายเลือดหยดตกอยู่บริเวณพื้นหน้าบ้าน 1 กองเล็กและบนเตียงนั่ง อีก 1 กองเล็ก นอกจากนี้ยังพบกระดาษทิชชู
จำนวนมากที่ถูกใช้แล้ว เปื้อนเลือด ถูกทิ้งกองอยู่ในร่องสวน ห่างจากตัวบ้านพี่ชายผู้เสียชีวิต เพียง 20 เมตรเศษ พร้อมทั้งเข้าตรวจค้นภายในบ้าน
ซึ่งก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอื่นใด เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายทวิช พร้อมนางสุจินต์
และลูกชาย อีก 2
คนไปสอบปากคำเพิ่มเติมและเก็บร่องรอยแฝงและคราบเขม่าดินปืน ที่ สภ.พะโต๊ะ ไว้ก่อน
ในเบื้องต้นสันนิษฐานเป็นความขัดแย้งในครอบครัวเป็นหลัก แต่ไม่ทิ้งประเด็นยาเสพติด
และเรื่องส่วนตัว ทั้งนี้จะติดตามตัวคนร้ายรายนี้ต่อไป
.............................................................................
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น