"พรรคโอกาสใหม่" เดินหน้าปักธงสาขาพรรคภาคใต้

รูปภาพ
  พรรคโอกาสใหม่" เดินหน้าปักธงสาขาพรรคภาคใต้ เปิดสาขาพรรค และแต่งตั้งคณะกรรมการพรรค ที่จังหวัดชุมพร เป็นสาขาที่ 9 เตรียมพร้อมส่งผู้สมัครลงสนามเลือกตั้ง       แกนนำ "พรรคโอกาสใหม่" ลุยภาคใต้จังหวัดชุมพร เปิดสาขาพรรค และแต่งตั้งคณะกรรมการ พร้อมผู้สมัคร สส. เตรียมพร้อมลงสนามเลือกตั้ง โดย นายสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี หัวหน้าพรรคโอกาสใหม่  นายวีระชัย นาคมาส อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองหัวพรรคโอกาสใหม่ นายธงชัย ลืออดุลย์ อดีตผู้ว่าจังหวัดราชการจังหวัดนครราชสีมา เลขาธิการพรรคโอกาสใหม่ ลงพื้นที่จังหวัดชุมพร เพื่อเปิดสาขาพรรคภาคใต้  ที่จังหวัดชุมพร โดยใช้สถานที่ โรงแรมเดอะบีชรีสอร์ท หมู่ที่ 6 ตำบลชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร เป็นสถานที่จัดประชุมจัดตั้งสาขาพรรคโอกาสใหม่ภาคใต้ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา       โดยในที่ประชุม ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารสาขาพรรค ได้คัดเลือก นายอนุชา ดีบุก อดีต ส.อบจ.ชุมพร หลายสมัย เป็นประธานสาขาพรรค และแต่งตั้งผู้สมัคร สส.ของพรรค เขตพื้นที่จังหวัดชุมพร ...

ไฟไหม้พรุกระจูด แหล่งพักผ่อนของคนชุมพรแห่งใหม่ระดมรถฉีดน้ำสกัดข้ามคืน

 

         เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 20 เม.ย.67 นายนพพร  มีสติ  ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองชุมพร จ.ชุมพร เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบไฟไหม้ป่าพรุกระจุด ซึ่งเป็นแหล่งพักผ่อนเป็นสถานที่ออกกำลังกายและเป็นแห่งท่องเที่ยวชมป่าพรุกระจูด พื้นที่


ทั้งหมด 860 ไร่ งบประมาณเกือบ 30 ล้านบาท ในการจัดสร้างปรับปรุงภูมิทัศน์ ซึ่งตั้งอยู่รอยต่อระหว่างตำบลปากน้ำและตำบลหาดทรายรี อำเภอเมืองชุมพร ขณะที่รถดับเพลิงประมาณ 5 คันรวมทั้งรถดับเพลิงของทหาร มทบ.44 จ.ชุมพร

สนับสนุนดดย อีซูซุสาขาสวี

 อีก 1 คันร่วมระดมฉีดน้ำสกัดป้องกันไฟลุกลามติดบ้านเรือนชาวบ้าน พื้นที่การเกษตรและสิ่งปลูกสร้างฝั่งจุดพักผ่อน “พรุกระจูด”


        จาการตรวจสอบสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน “พรุกระจูด” แบ่งออกเป็น 2 โซนโดยมีถนนลาดยางตัดผ่านกลางฝั่งซ้ายจัดไว้เป็นสนามหญ้าและถนนลานสำหรับวิ่งออกกำลังกายมีศาลาสร้างไว้ให้นั่งพักผ่อน ศาลากลางน้ำ  พร้อมกับสระน้ำสำหรับจัดกิจกรรมตามประเพณีโดยเฉพาะจัดงานลอยกระทง

สนับสนุนโดย ร้านเค.เอส.รุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์

       ส่วนอีกฝั่งถนนได้สร้างสะพานปูนซีเมนต์ มีลวดลายลักษณะคล้ายสร้างด้วยไม้มีความยาวประมาณ 300-400  เมตรเป็นรูปตัวยูสร้างให้นักท่องเที่ยวไว้เดินชมป่าพรุกระจูดที่ขึ้นแพร่กระจายไปทั่วบริเวณกว้างนับร้อยไร่ ห่างจากสะพานประมาณ 10 เมตรพบว่ามีร่องรอยไฟไหม้พรุกระจูดและกำลังค่อยๆลุกลามเรื่อยๆและเป็นวงกว้าง


       ขณะเดียวกันมีรถดับเพลิงของงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลปากน้ำชุมพร   รถดับเพลิงองค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำ   รถดับเพลิงเทศบาลตำบลหาดทรายรี  องค์การบริหารส่วนตำบลหาดทรายรี  และรถดับเพลิง

สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์

ของทหาร มทบ.44 จ.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่ระดมกำลังช่วยกันฉีดน้ำสกัดเลี้ยงไว้เพื่อไม่ให้เปลวไฟระอุขึ้นมาอีก แต่บางจุดเอาไม่อยู่เนื่องจากมีลมแรงและพร้อมเกิดเปลวไฟลุกลามขึ้นมาอีกเป็นบางจุดและง่ายที่ระอุเนื่องจากพื้นที่พรุกระจูดชั้นล้างเป็นไม้แห้งเกือบทั้งหมดซึ่งง่ายต่อการติดไฟ


        อีกทั้งการทำงานเข้าสกัดเพลิงค่อนข้างลำบากเพราะว่าพื้นที่ป่าพรุกระจูดมีพื้นที่กว้าง ต้องจอดรถดับเพลิงไว้บนถนนไม่สามารถเข้าใกล้กลุ่มเพลิงได้ สายดับเพลิงมีความยาวหลายสิบเมตรก็ไม่เพียงพอ โดยเจ้าหน้าที่ใช้วิธีต่อสายให้ยาวที่สุดพร้อมเดินลุยป่าเข้าสกัดเพลิง


         ส่วนอีกด้านที่ติดแนวเขตของหมู่ 4 และหมู่ 6 ตำบลปากน้ำ รถดับเพลิงของ อบต.ปากน้ำและรถดับเพลิงของทหารระดมฉีดน้ำและเร่งทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลามเข้าพื้นที่สวนปาล์มและสวนยางของชาวบ้าน ขณะเดียวกันที่ใกล้กับป่าพรุกระจูดจุดเกิดเหตุชาวบ้านกำลังจัดเลี้ยงงานบวชทำให้ควันไฟลอยปกคลุมไปถึงแต่ไม่มากนัก


      ทางด้านนายพงศกร  เนื่องชุมพร  นายก อบต.ปากน้ำ  กล่าวว่า เกิดเปลวไฟขึ้นเล็กน้อยบริเวณกลางป่าพรุกระจูดตั้งแต่เมื่อวานช่วงเช้า กระทั่งเที่ยงคืนลามขึ้นเรื่อยๆไปจนถึงแนวเขตสวนปาล์มของชาวบ้านทาง อบต.นำรถดับเพลิงระดมกำลังช่วยดับไฟจนถึงตี 3 จนข้ามคืน ในช่วงเช้ามืดพอลมพัดไฟก็ระอุขึ้นมาอีก แต่ขณะนี้สามารถป้องกันแนวเขตไม่ให้ไหลุกลามได้ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์


นายก อบต.ปากน้ำ

      นายก อบต.ปากน้ำ  กล่าวอีกว่า เกิดเหตุการณ์ขึ้นทุกปี เนื่องจากมีมีชาวบ้านเข้าไปตีผึ้งตีต่อ แล้วทิ้งคบเพลิงคบไฟทำให้เกิดไฟไหม้ บางทีก็เข้าไปเกี่ยวหญ้าแล้วทิ้งก้นบุหรี่ไว้  สาเหตุส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมแบบนี้เกือบทั้งหมด  อยากให้หน่วยงานใหญ่ๆเข้ามาดูแลเขตพื้นที่ท้องถิ่นเรื่องทางอบต.ปากน้ำ และหาดทรายรี จะของบประมาณจัดทำคันดินร่องน้ำเป็นแนวกันไฟรอบพรุกระจูด  พื้นที่ทั้งหมดของพรุกระจูดจำนวน 860 ไร่ติด 2 ตำบลปากน้ำและตำบลหาดทรายรี

        สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เปลวไฟยังไม่ได้ลุกลามไปเขตพื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน และไม่ได้รับความเสียหายเนื่องจากได้ทำแนวกันไฟไว้แล้ว แต่ชาวบ้านทั้ง 2 ตำบลได้รับผลกระทบจากควันไฟจากลมที่พัดพาไป  สถานการณ์ปัจจุบันป่าพรุกระจูดที่แนวเขตติดตำบลปากน้ำ หมู่ 1, 4, 6 ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ส่วนด้านที่ติดกับ ตำบลหาดทรายรี ขณะนี้ช่วยกันระดมกำลังเร่งทำแนวกันไฟคาดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรเพราะทหารนำกำลังพลลงมาช่วยด้วย” นายก อบต.ปากน้ำกล่าว

............................................................


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หนุ่มก่อสร้างซดเหล้าขาววันละ 4 ขวดหายตัว 7 วันพบนอนจมโคลนป่าโกงกาง

ร.ท.ทหารเรือวัยเกษียณ เลือดร้อน ฉุนเพื่อนบ้านยิงผัวเจ็บเมียดับ

สลดใจ แม่พาลูกชายส่งรักษาบำบัด รพ.รัฐแต่ถูกปฏิเสธ สุดท้ายหลอนผูกคอดับ