ทนายไม่ปล่อยผ่านยื่นมือช่วยสาวใหญ่หลังพ้นคุกพบถูกอดีตผัวขายบ้านที่ดินเกลี้ยงไร้ที่นอน

รูปภาพ
  ทนายไม่ปล่อยผ่านยื่นมือช่วยสาวใหญ่หลังพ้นคุกพบถูกอดีตผัวขายบ้านที่ดินเกลี้ยงไร้ที่นอนต้องอาศัยโรงรถเพื่อนบ้านเป็นที่หลับนอน รวบรวมพยานหลักฐานมอบหมายให้ทนายเดินหน้าฟ้องขอความเป็นธรรมทวงคืนบ้านและที่ดิน         จากกรณีน.ส.รัชนีพร  หรือสาว กลิ่นม่วง  อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 12 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังพ้นโทษคดียาเสพติดเดินทางกลับบ้านที่พ่อแม่เคยสร้างไว้ด้วยน้ำพักน้ำแรง หวังเป็นที่อยู่อาศัย ทำสวนทุเรียนเลี้ยงชีพใน ช่วงบั้นปลายชีวิต ต้องน้ำตาตกพบว่าอดีตผัว ที่เคยเลิกรากันกว่า 2 ปี  เหตุเพราะอ้างว่าติดการพนันและติดผู้หญิง ย่องกลับมาแอบขายบ้านและสวนทุเรียนเชิดเงินไปจนหมด ขณะสาวใหญ่ผู้ร้องถูกจำคุกอยู่ในฑัณฑสถานหญิงสงขลาและพ้นโทษเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 รวมเป็นเวลา 11 ปี 11 เดือน         พบว่าถูกขายผ่านมือไปแล้วถึง 5 ราย  จึงร้องขอความเป็นธรรมทวงถามถึงหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องว่า มีการซื้อขายกันได้อย่างไรเมื่อ ทั้งที่ผู้เสียหายยังมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านอยู่ในทะเบ...

นราธิวาส/รอง ผบช.ทท.ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมในฐานความผิด 10 กลุ่มต้องห้ามฯ

 

รอง ผบช.ทท.ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมในฐานความผิด 10 กลุ่มต้องห้ามฯที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว พร้อมสวมบทเชฟควงตะหลิวผัดข้าวให้เจ้าหน้าที่ทาน


พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง /รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว

             เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยว 3 กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ตำบลลำภู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นประธานในพิธีปล่อยแถว เพื่อออกปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้น ระดมกวาดล้างอาชญากรรมในความผิด 10 กลุ่มต้องห้าม


 และการอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวมพร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีพ.ต.ต.ณัฐวรรธน์ สงคง สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวนราธิวาส นายณรงค์ สังข์ประสิทธิ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส ตำรวจจราจร ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน(อส.) ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีปล่อยแถวในครั้งนี้


           พ.ต.ต.ณัฐวรรธน์ สงคง สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวนราธิวาส กล่าวว่าด้วยกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวมีนโยบายการในการดูแล รักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวก รวมถึงการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะฐานความผิด 10 กลุ่มต้องห้าม การอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด ความผิดตาม

พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง และฐานความผิดอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม การท่องเที่ยวในภาพรวม จึงได้ระดมกำลังข้าราชการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมบูรณาการกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน(อส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนและออกตรวจสอบ โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นบริษัททัวร์นำเที่ยว สถานประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวที่เข้าข่ายว่ากระทำผิดกฎหมาย ออกตรวจค้นตามเป้าหมายที่ได้วางแผนไว้

              ด้านพล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่าประเทศไทย/ซึ่งเป็นจุดหมายลำดับต้นๆของโลกที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเลือกที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และจากนโยบายการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของรัฐบาลที่มีนโยบายฟรีวีซ่าอย่างเต็มรูปแบบทำให้ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยหลายล้าน คน ทำให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวและสร้างเม็ดเงินและรายได้ให้กับประเทศ และเพื่อเป็นการป้องกัน

 ปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผล กระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวถูกเอารัดเอาเปรียบ จึงได้กำหนดให้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นระดมกวาดล้างอาชญากรรมการกระทำความผิดต่างๆโดยเฉพาะที่เป็นฐานความผิด 10 กลุ่มต้องห้ามที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวม ซึ่งเราได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นเป็นประจำทุกเดือน ผลการระดมปิดล้อม 20,000 กว่าราย

10 กลุ่มต้องห้ามโดยเฉพาะบริษัททัวร์ผิดกฎหมาย ไกด์นำเที่ยวผิดกฎหมาย เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ยานพาหนะที่ผิดกฎหมาย ไม่มีประกัน ทะเบียนผิดกฎหมาย ซึ่งเมื่อเกิดอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวจะเดือดร้อนเพราะรถไม่มีประกัน และพวกอัชญากรรมยาเสพติด มีอาวุธปืนในแหล่งท่องเที่ยว และอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งทางตำรวจได้โฟกัสในเรื่องนี้ ซึ่ง

ในการปฎิบัติการในวันนี้ มีการบูรณาการกำลังหลายหน่วยงานพร้อมกันทั่วประเทศ ขอให้ทุกคนตั้งใจร่วมมือร่วมใจปฏิบัติหน้าที่ และให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ เกิดความปลอดภัยทั้งผู้ปฏิบัติงานรวมถึงนักท่องเที่ยวด้วย

                โดยภายหลังจากพิธีปล่อยแถวเสร็จพล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจให้มีกำลังใจปฏิบัติหน้าที่เพื่อพิทักษ์อำนาจดูแลประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นแล้วรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ยังสวมบทเชฟลงมือปรุงอาหารทำข้าวผัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับประทาน ดูแลเอาใจใส่ลงมือทำอาหารด้วยตัวเอง ซึ่งระหว่างปรุงอาหารนั้นบรรยากาศครึกครื้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เต็มไปด้วยความชื่นมื่น เพื่อเจ้าหน้าที่ได้กินอิ่มและพร้อมปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนต่อไป

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาส /รายงาน

*********************************************************

สนับสนุนข่าวโดย






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ฝ่ายปกครองอำเภอสวีรวบหนุ่มวัย 30 ปี หลังนัดส่งยาบ้าที่ป้ายโครงการทำถนนฯได้ไอซ์ยาบ้ากว่า 1 หมื่นเม็ด

รวบสามผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 3แสนลอบขนมากับรถทัวร์โดยสาร