ผู้ว่าฯจ.ชุมพรนำทีมจัดกิจกรรมเก็บขยะใต้น้ำและชายหาดจังหวัดชุมพร เฉลิมพระเกียรติ

รูปภาพ
  วันนี้ ( 21 ส.ค. 68) นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นำจิตอาสาพระราชทาน หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ และประชาชนจิตอาสา ร่วมกิจกรรมเก็บขยะใต้น้ำและชายหาด จังหวัดชุมพร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 ภายใต้โครงการประชารวมใจรักษ์ทะเลไทย เทิดไท้องค์ราชัน โดยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) จังหวัดชุมพร ณ บริเวณลานอเนกประสงค์หน้าเทศบาลตำบลปากน้ำชุมพร อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร   โดยจิตอาสาได้ช่วยกันเก็บขยะชายหาด ณ บริเวณพื้นที่ชายหาดปากน้ำชุมพร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร และดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเลในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร บริเวณพื้นที่ระดับความลึกของน้ำทะเลไม่เกิน 10 เมตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย   สำหรับกิจกรรมเก็บขยะใต้น้ำและชายหาดจังหวัดชุมพร จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระช...

ชาวสวนปาล์มบุกศูนย์ราชการหลังลานปาล์มปิดไม่รับซื้อ-ราคากิโลฯ 4.50 บาท ไม่มีอยู่จริง

 

ชาวสวนปาล์มชุมพรฮือหน้าศาลากลางจังหวัด หลังรัฐใช้มาตาการกำหนดให้โรงงานต้องรับซื้อปาล์ม กก.ละ 4.50 บาท แต่ไม่มีอยู่จริง แถมผู้ประกอบการปิดรับซื้อผลผลิต หลังยื่นหนังสือประกาศให้เกษตรกรที่ขายไม่ได้ตามราคาที่รัฐกำหนด นำผลผลิตมาเทหน้าศาลกลางจังหวัด และเตรียมชุมนุมใหญ่อีกครั้ง

            เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 30 พ.ค.67 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดชุมพร นายกฤษฏ์ แก้วรักษ์ นายโสภณ สงวนเชื้อ แกนนำเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน พร้อมเกษตรการกว่า 100 คน ได้มารวมตัวเพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร

สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี

 ถึงนายกรัฐมนตรี กระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากสถานการณ์ผลผลิตปาล์มน้ำมันมีราคาตกต่ำกิโลกรัมละ 3 บาทกว่า ขณะที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้เข้า


มาช่วยเหลือใช้มาตรการทางกฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบการ โรงงานต้องรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในกิโลกรัมละ 4.50 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวสวนปาล์ม

สนับสนุนโดย ร้านเค.เอส.รุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์

              โดยขอให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทุกรายดำเนินการตามมติที่ประชุมดังกล่าว หากพบว่ามีการรับซื้อผลปาล์มในราคาที่ไม่สอดคล้องกับคุณภาพและราคาน้ำมันปาล์มดิบ จะเข้าข่ายเป็นการจงใจทำให้ราคาต่ำเกินสมควรหรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาสินค้า มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปีหรือปรับไม่เกิน 150,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 29 และโทษตามมาตรา 41 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542


              สำหรับมาตรการดังกล่าวของกรมการค้าภายในที่กำหนดให้โรงงาน ผู้ประกอบการลานปาล์มต้องรับซื้อผลผลิตกิโลกรัมละ 4.50 บาท ปรากฏว่าไม่มีอยู่จริง เนื่องจากโรงงาน ผู้ประกอบการยังรับซื้อผลผลิตอยู่ที่กิโลกรัมละไม่เกิน 3.50 บาท อีกทั้งลานปาล์มส่วนใหญ่ยังพากันปิดรับซื้ออีกด้วย 

สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์

         โดยกาชุมนุมของชาวสวนปาล์ม ได้มีบรรดาแกนนำกล่าวผ่านเครื่องเสียงถึงปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว แม้แต่มาตรการของหน่วยงานรัฐที่จะช่วยเหลือเกษตรกร ก็ยังไม่สามารถบังคับใช้กับโรงงานและผู้ประกอบการได้จริง ทำให้ชาวสวนปาล์มเดือดร้อนอยู่เหมือนเดิม นอกจากนั้นยังมีการนำป้ายที่เขียนข้อความประชดถึงรัฐบาลและหน่วยงานเกี่ยวข้องด้วย อาทิ “ ปาล์ม 1 โล ซื้อไข่ได้ 1 ฟอง” “ ไข่ลูกละ 4.80 บาท  ปาล์มโลละ 3.50 บาท ”  “ น้ำมันพืชขวดละ 55 บาท ปาล์มโลละ 3.50 บาท ” 


            ต่อมาบรรดากลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่มารวมตัวกัน ได้นำเตาแก๊สปิกนิก กระทะ น้ำมันพืช และไข่ไก่ มาทอดที่หน้าศาลากลางจังหวัดด้วย เพื่อจะแจกให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย

        ต่อมา นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผวจ.ชุมพร นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้มาพบพูดคุยกับแกนนำและกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน พร้อมกับรับหนังสือข้อเรียกร้องในการช่วยเหลือชาวสวนปาล์มที่ได้รับความเดือดร้อนจากราคาผลผลิตตกต่ำและขายไม่ได้จริงในราคาตามที่รัฐกำหนดมาตรการช่วยเหลือให้โรงงานและผู้ประกอบการรับซื้อ ผ่านไปถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

        นายกฤษฏ์ แก้วรักษ์ แกนนำชาวสวนปาล์มกล่าวกับชาวสวนปาล์มก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านว่า นับตั้งแต่เวลานี้วันนี้ ถ้าใครขายปาล์มไม่ได้กิโลกรัมละ 4.50 บาท ให้นำปาล์มมาที่ศาลากลางจังหวัด แล้วตนกับพาณิชย์จังหวัด จะไปสังเกตการณ์ขายให้กับพวกท่าน ถ้าไม่ซื้อก็จะดำเนินคดีตามมาตรการที่อธิบดีกรมการค้าภายในได้เซ็นต์คำสั่งไว้แล้ว ถ้าลานปาล์มไม่รับซื้อก็จะมีโทษไม่เกิน 7 ปี  หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเจ้าหน้าที่ไม่กำกับดูแลอาจเข้าข่ายความผิดฐานละเว้น และเกษตรกรชาวสวนปาล์มก็พร้อมจะกลับมารวมตัวกันใหม่อีกครั้ง.

………………………………………………………..


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ฝ่ายปกครองอำเภอสวีรวบหนุ่มวัย 30 ปี หลังนัดส่งยาบ้าที่ป้ายโครงการทำถนนฯได้ไอซ์ยาบ้ากว่า 1 หมื่นเม็ด

รวบสามผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 3แสนลอบขนมากับรถทัวร์โดยสาร