รถทัวร์กรุงเทพ-เกาะสมุยตกข้างทางผู้โดยสารเจ็บ 9 ราย

รูปภาพ
         เมื่อเวลา 02.50 น.วันที่ 23 มิ.ย. 68 ร.ต.ท.เกรียงชัย  ชุ่มแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.สวี จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่ามีรถทัวร์โดยสารตกข้างทางริมถนนสายเอเชีย 41 หมู่ 3 ตำบลครน อ.สวี จ.ชุมพร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลสวี หน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์เขตสวี เร่งตรวจ สอบ         ที่เกิดเหตุอยู่ฝั่งขาล่องใต้พบรถทัวร์โดยสารประจำทางกรุงเทพฯ-เกาะสมุย 99-347 ยี่ห้อ BENZ สี เทาคาดฟ้า  ทะเบียน 12-35xx  กทม. พลิกตะแคงอยู่ในร่องน้ำข้างทาง สภาพได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมดจำนวน 9 ราย กู้ภัยเร่งนำส่งโรงพยาบาลสวี  ทราบชื่อคนขับคือนาย เสมอ  อายุ 53 ปี ชาว อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี และคนขับอีกคนคือ นาย ไพศาล   อายุ 60 ปี ชาว อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี  และพนักงานประจำรถคือ น.ส.ชลธิชา  อายุ 34 ปี  ชาว อ.นาโยง จ.ตรัง        ใกล้กันพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ด สีขาว ทะ...

หนุ่มเลือดร้อนยอมขอโทษกู้ภัยแล้ว! ด้านผจก.มูลนิธิชุมพรฯป้องกู้ภัยฯ

 

จากกรณี นายภูมิพัฒน์ หรือไอซ์   จีวพงษ์  อายุ 17 ปี เป็นอาสากู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์(กู้ภัยสายชลชุมพร) และนางสาววิมลรัตน์  คชสงค์  อายุ 33 ปี เป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพประจำศูนย์มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ จ.ชุมพร เดิน

ทางเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักยานยนต์ชนกัน 2 คันทำให้มีคนเจ็บเป็นเด็กอนุบาลชาย-หญิง 2 คน แม่เด็กวัย 25 ปี  1 คน และคนขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นชาวเมียนมาอายุ อีก 1 คน

สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี

           ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลคนเจ็บอยู่นั้นได้มีสามีและพ่อของผู้บาดเจ็บเด็กและผู้ใหญ่แสดงอาการโมโหโวยวายที่ลูกเมียเจ็บจึงเดินขึ้นรถกู้ชีพเตะชายคู่กรณีที่เป็นชาวเมียนมาขณะนอนอยู่บนเตียงแต่ไปโดนนางสาววิมลรัตน์

 จนมีคนไปดึงอกมา หลังจากนั้นผัวคนเจ็บเดินเข้าไปรัวหมัดใส่นายภูมิพัฒน์ อาสากู้ภัยยืนอยู่บริเวณด้านหน้ารถกู้ชีพ ภายหลังช่วยเหลือภรรยาผู้ก่อเหตุเสร็จ จนได้รับบาดเจ็บ ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

สนับสนุนโดย ร้านเค.เอส.รุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์

         คืบหน้าเมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 21 พ.ค.นายคมสันต์  ตวงอิทธิกุล  รองประธาน/ผู้จัดการมูลนิธิฯ ออกมาเปิดเผยว่า เวรเช้าของเมื่อวานได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 4 ราย จึงได้ออกตรวจสอบและให้การช่วยเหลือคนเจ็บแต่ต่อมาทราบว่าเจ้าหน้าที่กู้ชีพประจำศูนย์และอาสากู้ภัยถูกญาติผู้บาดเจ็บทำร้ายร่างกาย ต่อมาทราบว่าเป็นสามีของหญิงและบิดาของเด็ก

นายคมสันต์  ตวงอิทธิกุล  รองประธาน/ผู้จัดการมูลนิธิฯ 

     หลังจากนั้นให้ไปตรวจร่างกายอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลพร้อมกับสอบถามข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง เพราะการที่มูลนิธิชุมพรฯเข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บโดยไม่ได้แยกแยะว่าใครผิดถูก คนไทยหรือต่างด้าว ซึ่งการเข้าให้การช่วยเหลือเป็นอย่างตามระบบการแพทย์ฉุกเฉินแต่ถ้าที่เกิดเหตุไม่ปลอดภัย ตามหลักสูตรกู้ชีพกู้ภัยจะไม่ปฏิบัติงาน

สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์

          การที่ญาติคู่กรณีชายต่างด้าวเข้ามาทำร้ายร่างกายด้วยบันดานโทสะหรือเจตนาทำร้ายคนเจ็บเป็นเรื่องพื้นฐานไม่ควรกระทำยิ่งขณะที่ปฐมพยาบาลอยู่ด้วยไม่ควรทำ กระผมในนามผู้บังคับบัญชาบันทึกเหตุการณ์รวบรวมพยานหลักฐานส่งข้อมูลทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย

         เรื่องราวการดำเนินคดีทางมูลนิธิชุมพรฯไม่ต้องการอะไรอย่างอื่นเพียงแต่การทำร้ายเจ้าหน้าที่นั้นไม่ควรกระทำอยากให้รู้ว่าเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือคนเจ็บเป็นเจตนาที่ดี ในฐานะที่เป็นองค์กรเราจำเป็นต้องปกป้องสิทธิ์ของพนักงาน และ อาสา  เจตนาของมูลนิธิฯมีเพียงเท่านี้

          ในส่วนของเจ้าหน้าที่ ที่บาดเจ็บบริเวณมือแขนได้หยุดพักงานรักษาตัวส่วนสภาพจิตใจยังมีความกลัวอยู่บ้าง น้องไอซ์หรือนายภูมิพัฒน์วัย 17 ปี ยังมีความหวาดกลัวในการออกปฏิบัติหน้าที่ โดยมีอัธยาศัยดี ไม่ก้าวร้าว ทราบว่าขณะเกิดเหตุเป็นจังหวะเดียวที่น้องไอซ์จะเข้าไปฝึกงานที่โรงพยาบาลผ่านมาจึงเข้าไปช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ หลังเกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างการคนที่มีจิตอาสาด้านการแพทย์ฉุกเฉิน กู้ชีพกู้ภัยอาจจะกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

       ผู้จัดการมูลนิธิชุมพรฯ เผยอีกว่า พื้นฐานการใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ว่ากับใครก็ตามโดยใช้อารมณ์ในการตัดสินปัญหาเป็นเรื่องผิดกฎหมายซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น”

        ด้านนายภูมิพัฒน์ หรือน้องไอซ์  อายุ 17 ปี อาสากู้ภัยฯ เล่าความรู้สึกว่า ตอนนี้รู้สึกกลัว ระแวง เพราะว่าในอนาคตจะโดนทำร้ายแบบนี้อีกไหมและกลัวเรื่องคดีความ   เพราะคนทำร้ายโพสรูปปืนลงเฟสด้วย รู้สึกเครียดมากไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และห่วงความปลอดภัย  ส่วนคดีความเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายคู่กรณีไว้แล้ว แต่ยังไม่มีคำขอโทษหรือโทรมา

            ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00   น.วันเดียวกัน  นายณัฐพลฯ คู่กรณี และนายภูมิพัฒน์ กับนางสาววิมลรัตน์  2 กู้ภัยที่ถูกทำร้ายร่างกายได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพรพร้อมด้วยนางไนยณา  อายุ 50 ปี แม่น้องไอซ์ติดตามมาด้วย  โดยหนุ่มคู่กรณี ให้สัมภาษณ์ว่า  วันนั้นด้วยความโกรธลูกวัย 2 ขวบ เจ็บหนัก ได้ไปถีบพม่าที่นอนอยู่บนรถไม่มีเจตนาให้ถูกใคร

           หลังจากนั้นมีชายใส่เสื้อชอปสวมหมวกอินเด๊กสีดำ(หมวกนิรภัย)มาถึงตัวลงจากรถจึงได้ชกไปทีสองที ซึ่งเข้าใจว่าเป็นคนซ้อนท้ายหรือคนขับที่มาด้วยกันกับพม่าคู่กรณี  แต่มารู้ภายหลังว่าเป็นน้องกู้ภัย   อย่างไรก็แล้วแต่เราต้องขอโทษและไม่สมควรขึ้นไปบนรถ ตอนนี้ได้ขอโทษขอโพยและได้คุยกันทั้งสองฝ่ายพร้อมญาติแล้ว ทางกู้ภัยไม่ได้ติดใจเอาความต่อกัน ก่อนหนุ่มคู่กรณีเดินทางกลับพร้อมกลุ่มเพื่อนๆออกจากโรงพักเมืองชุมพรไป

นางสาววิมลรัตน์ฯกู้ชีพประจำศูนย์มูลนิธิชุมพรฯ

           ส่วนกู้ภัยทั้งสองคน  เผยว่า ก่อนหน้านี้คู่กรณีได้คุยกันมาตลอดแต่ยังไม่ขอโทษ เพิ่งจะมาขอโทษก่อนแยกย้ายกันกลับ จริงแล้วส่วนตัวไม่ติดใจแล้วแต่คู่กรณีเป็นคนอารมณ์ร้อนถ้าเรื่องไม่จบจะไม่ปลอดภัยกับตัวเรา ทุกอย่างจบจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แต่ถ้าหลังจากนี้มีการพูดถึงเราอยู่ก็นำเอกสารแจ้งความเหมือนเดิม

น้องไอซ์กู้ภัยวัย 17 ปี

             ด้านนายภูมิพัฒน์  หรือน้องไอซ์ วัย 17 ปี อาสากู้ภัย เผยว่าตนเองรู้สึกยังไม่ปลอดภัยเหมือนเดิม แต่วันนี้คู่กรณียอมขอโทษแล้ว แต่ยังอ้างว่าเราเป็นคนดึงแขนกระชากตัวเขาลงมาจากรถ ตนเองรับว่าไม่ได้เป็นคนดึงออกจากรถแต่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนดึงซึ่งเขายังติดใจตรงนี้ แต่เรื่องนี้จบแค่นี้”

........................................................................................................


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หนุ่มก่อสร้างซดเหล้าขาววันละ 4 ขวดหายตัว 7 วันพบนอนจมโคลนป่าโกงกาง

ร.ท.ทหารเรือวัยเกษียณ เลือดร้อน ฉุนเพื่อนบ้านยิงผัวเจ็บเมียดับ

สลดใจ แม่พาลูกชายส่งรักษาบำบัด รพ.รัฐแต่ถูกปฏิเสธ สุดท้ายหลอนผูกคอดับ