พ่อช้ำใจลูกชายแจ้งจับลักตัดปาล์มทั้งที่ปลูกมากับมือ
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
พ่อวัย 73 ปีร้องขอความเป็นธรรมผ่านผู้สื่อข่าวเกิดความช้ำใจลูกชายแท้ๆแจ้งตำรวจจับกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์(ลอบตัดผลปาล์มน้ำมัน)ทั้งๆที่ปลูกมากับมือ ถือครองที่ดินนานเกือบ 40 ปีตั้งแต่ลูกชายยังไม่เกิดสืบทอดจากญาติ
ที่เสียชีวิตจนศาลมีคำสั่งให้เป็นผู้จัดการมรดกในที่ดินทำกินเป็นส.ป.ก.และป่าฟื้นฟูสมัยพายุไต้ฝุ่นเกย์รวมเนื้อที่ประมาณ
35 ไร่ แม้ผู้เป็นพ่อแสดงเอกสารหลักฐานการถือครองที่ดินทำกินและหนังสือคำสั่งเป็นผู้จัดการมรดกต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วก็ตามแต่ยังถูกจับกุมพร้อมลูกชายอีกคน
เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนายสม (นามสมมุติ) 73 ปี ชาวตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร และ ลูกชายคนที่สอง อายุ 46 ปี หลังถูกลูกชายคนที่ 3 แจ้งความกล่าวหาว่าพ่อร่วมกันกับพี่ชายคนที่ 2 ลักทรัพย์โดยเข้าตัดผลปาล์มน้ำมัน พร้อมกับพาผู้สื่อข่าวไปดูพื้นที่ที่มีปัญหากับลูกชายซึ่งเป็นสวนปาล์มน้ำห่างจากบ้านนายลัย ประมาณ 2-3 กิโลเมตร
สนับสนุนโดย ร้านเค.เอส.รุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์
โดยนายสม พ่อวัย 73 ปี เล่าด้วยความช้ำใจว่า ตนเองได้จับจองที่ดินดังกล่าวตั้งแต่เมื่อ
30 กว่าปี หรือเกือบ 40 ปีที่แล้ว
สมัยนั้นได้ให้ผู้เป็นตาและผู้เป็นน้าอยู่ทำกินด้วยเป็นพื้นที่
ส.ป.ก.จำนวน 5 ไร่ 1 แปลง และจำนวน 3 ไร่ 1 แปลง
และมีพื้นที่ป่าฟื้นฟูจากพายุใต้ฝุ่นเกย์อีกจำนวนหนึ่งรวมทั้งหมดประมาณ 35 ไร่ ต่อมาผู้เป็นน้าได้เสียชีวิตเมื่อปี 2558
หลังจากนั้นปี 2559
ตนเองได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายในพื้นที่ครอบครองทำกินทั้งหมดประมาณ
35 ไร่ จึงมีการไต่สวนสืบพยาน
ต่อมาศาลจังหวัดชุมพรมีคำสั่งเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2559
และไม่มีคู่ความฝ่ายใดยื่นอุทธรณ์คำสั่งคดีถึงที่สุด
จึงออกหนังสือสำคัญให้ไว้เพื่อเป็นหลักฐานเมื่อวันที่ 20
มีนาคม พ.ศ. 2566
อดีตนางวัน(นามสมมุติ) ผู้เป็นน้า
มีหลานอยู่คนหนึ่งคือน.ส.นิศา(นามสมมุติ) อายุ 26ปี( พ.ศ.2566) หลังจากที่ตนได้เป็นผู้จัดการมรดกตามศาลสั่งจึงได้แบ่งที่ดิน
ส.ป.ก.ให้น.ส.นิศา จำนวน 3 ไร่
น.ส.นิศาได้ปลูกบ้านอยู่อาศัยกับบุตร ต่อมาได้พาบุตรย้ายออกไปอยู่นอกพื้นที่เนื่องจากเมื่อต้นปีที่แล้วน.ส.นิศา
ได้แจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สภ.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
พบว่ามีการใช้รถไถตัดดันเป็นทางบริเวณหน้าบ้านพักของน.ส.นิศา
ซึ่งเชื่อว่าเป็นการกระทำของลูกชายคนที่ 3
ของนายสมซึ่งมีเรื่องพิพาทฟ้องร้องกันอยู่เช่นกัน
เกี่ยวกับที่ดินแปลงติดต่อกัน
ส่วนนายสมที่มีปัญหากับลูกชายคนที่ 3 ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน
เกิดเรื่องครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 ตนและลูกชายคนที่ 2 ขับรถยนต์กระบะเข้าไปตัดผลปาล์มน้ำมันตามปกติ และมาทราบภายหลังว่าลูกชายคนที่ 3 ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.สลุย ต่อมาวันที่ 9 กันยายน 2566 ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกตนและลูกชายคนที่
2 เข้ารับทราบข้อกล่าวหาว่า
“ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของผู้มีอาชีพกสิกรรม
โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป” ปล่อยตัวกลับโดยไม่ได้ควบคุมตัว
และถูกลูกชายคนเดิมนำตำรวจจับเป็นครั้งที่
2 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567 พร้อมของกลาง 1.ผลปาล์มน้ำมันจำนวน 8 ทะลาย น้ำหนักประมาณ 180 กิโลกรัม คิดเป็นเงิน 1,053 บาท 2.รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ
รุ่น ดี-แม็ก สีบรอนเงิน ทะเบียน บธ 47xx ชุมพร 3.ชุดด้ามเคียวตัดปาล์ม ท่ออลูมิเนียม
4.เสียมแทงปาล์ม โดยกล่าวหาลูกชายคนที่ 2 ที่มากับผู้เป็นพ่อ)ว่า
“ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของผู้มีอาชีพกสิกรรม
โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป
,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต”
นายสม เล่าอีกว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตนนั้น
ได้นำเอกสารหลักฐานทางราชการ
การครอบครองที่ดินทำกินและคำสั่งศาลเป็นผู้จัดการมรดกให้เจ้าหน้าที่ดูก็ไม่เชื่อ
ส่วนลูกชายคนที่มีปัญหากันก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาใช้สิทธิ์อะไรไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่นั้น
ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งให้ตนทราบ เจ้าหน้าที่อ้างเพียงว่าใช้อำนาจ
“คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ” (คทช) ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจ พื้นที่กำกินประมาณ 35 ไร่นี้ใช้ทำกินมานานกว่า 30-40
ปีมาแล้ว
ส่วนลูกคนอื่นๆอีก 3 คน ก็ไม่มีปัญหาอะไร ตอนที่ถูกจับกุมถูกคุมขังอยู่ที่โรงพัก
2 คืน รู้สึกเสียใจที่ลูกแจ้งจับผู้เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดให้ติดคุก ก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาและได้ประกันตัวในชั้นศาล
อยากฝากบอกลูกชายว่าให้รู้ว่าสิ่งไหนผิดสิ่งไหนถูกที่ทำลงไป
ปาล์มสักต้นก็ไม่เคยปลูก เคยให้ปาล์มโซนบนจำนวน 100 ต้น
แต่ไม่พอจะตัดปาล์มเอาหมด ที่ให้ก็ไม่ใช่น้อย และตนติดใจว่าเจ้าหน้าที่ทำงานโดยมิชอบหรือไม่
เพราะว่าอยู่ดีๆเอาอำนาจคทช.มาบังคับใช้ทั้งที่ตนครอบครองมานาน
นายสม วัย 73 ปีบอกว่าถ้าลูกชายคิดได้ พ่อให้โอกาสเสมอ
พ่อแม่จะแบ่งที่ให้ลูกเองเพราะพ่อแม่จับจองทำมาหากินตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งงานมีครอบครัว”
ผู้เป็นพ่อ เผยความในใจ
....................................................................
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น