ไม่เอาไม้หลักปักชายหาดป้องกันน้ำเซาะอ้างผุพังง่าย ขอแบบแข็งแรงถาวร

รูปภาพ
  ประชาคมชุมชน ตำบลหาดทรายรี แหล่งท่องเที่ยวดัง ผู้นำ เจ้าอาวาสวัด ชาวบ้าน กว่า 300 คน ร่วมแสดงจุดยืนไม่เอาไม้หลักปักชายหาดป้องกันน้ำกัดเซาะ อ้างไม่ยั่งยืน หักผุพังเป็นตอฝังดิน อันตราย นักท่องเที่ยวหนี เรียกร้องผู้เกี่ยวข้องอยากได้แนวกันคลื่นแบบถาวรยั่งยืน             วันที่ 29 ส.ค. 68 ที่ศาลาวัดสุวรรณคูหาวารีวงศ์ หรือ วัดถ้ำโพงพาง หมู่ที่ 3 ตำบลหาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร ได้จัดให้มีการประชุมประชาคมและร่วมแสดงความคิดเห็น ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งในช่วงฤดูลมมรสุมของทุกปี ที่บริเวณชายหาดหน้าวัดจนพังเสียหายและได้เสียพื้นที่ไปแล้วส่วนหนึ่ง โดยมี นางสกุลตลา ไมตรีจิตร  นายก อบต.หาดทรายรี นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร เขต 1 นายทรงชัย ชูทิพย์ โยธาธิการและผังเมือง จ.ชุมพร นายเดช เพชรวรรณ กำนันตำบลหาดทรายรี พร้อมด้วย พระครูปลัดวีระยุทธ ทนตจิตโต เจ้าอาวาสวัด เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง              โดยมีชาวบ้านหมู่ที่ 1,2,3,4,5,6,7...

เกิดเหตุระทึก ครูป่วยจิตเวชเกิดคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนอัดลมแกว่งไปมาจ่อจะยิงลูกศิษย์

 

โดยเหตุดังกล่าวผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 23 กันยายน 2567 ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุ ว่าที่สถาบันอาชีวะแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายชุมพร-ปะทิว ต.นาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร ได้มีคนคลุ้มคลั่ง อาละวาดใช้อาวุธปืนเดินไล่ทำท่าทางจะยิงใส่กลุ่มอาจารย์และลูกศิษย์ ที่กำลังเตรียมตัวเข้าประชุมการจัดการเรียนการ


สอน จึงสั่งการให้ตำรวจชุดสายตรวจ พร้อมตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ จ.ชุมพร รุดไปตรวจสอบควบคุมเหตุการณ์ พร้อมประสานกู้ชีพกู้ภัยสาย มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ร่วมเตรียมความพร้อมหากมีเหตุอันไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้

               ในที่เกิดเหตุพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นเหล่าอาจารย์นักศึกษา และผู้ปกครอง ให้ออกอยู่รอบนอกเพื่อความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่พบชายคลุ้มคลั่ง ยืนอยู่บริเวณหน้าอาคารด้านหน้าเสาธง ซึ่งห่างจากหลังป้อมยาม เพียง 100 เมตร พบครูชายรายหนึ่ง  อายุ 59 ปี เป็นอาจารย์สอนประจำวิชาช่างยนต์ กำลังเดินถืออาวุธปืนแกว่งไปมา

           เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้บริหารสถานบัน พยายามเข้าเจรจาให้สงบสติอารมณ์ แต่ไม่เป็นผล ครูชายที่ก่อเหตุ ได้ยกอาวุธปืนเล็งมา ทำให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและคณะผู้บริหาร ต่างถอยกรูวิ่งหลบมาหลบตัวอยู่หลังรถยนต์ที่จอด ก่อนจะออกมาเกลี่ยกล่อมอีกครั้ง หลังพบว่าอารมณ์ฉุนเฉียวลดลง โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงยอมวางอาวุธปืนลงและนั่ง

ลงกับพื้น ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าคุมตัว พร้อมยึดอาวุธปืนไว้ได้ ก่อนนำมาตรวจสอบพบว่า อาวุธปืนที่นำมาใช้ก่อเหตุ เป็นปืนอัดลมที่ยิงด้วยเม็ดพลาสติกนั้นเอง เจ้าหน้าที่จึงให้ทางหน่วยกู้ชีพกู้ภัย ช่วยกันจับมัดตัวขึ้นรถพยาบาล นำส่ง รพ.ชุมพร ทำการรักษาตัวต่อไป

            สำหรับเหตุการณ์อาจารย์คลุ้มคลั่งในครั้งนี้ ทางผู้บริหารท่านหนึ่ง ซึ่งเข้ามาเจรจาขอให้ทางผู้สื่อข่าวไม่ให้ถ่ายและนำเสนอข่าวออกไปเพราะเกรงกระทบต่อจิตใจของครอบครัวและสถาบัน อีกทั้งอีกเพียง 1 ปีคนดังกล่าวจะเกษียณแล้ว ไม่อยากให้เกิดมลทิน และอาจถูกให้ออกหรือไล่ออก 

           และหากจะนำเสนอ ก็ขอให้ใช้นามสมมุติและเบลอภาพ และปกปิดชื่อสถานบันให้ด้วย พร้อมเปิดเผยว่า ครู คนดังกล่าวเป็นผู้ป่วยจิตเวช มานานแล้ว และจะต้องกินยารักษาตลอด โดยในวันนี้ ซึ่งจะรับผิดชอบด้านเครื่องเสียงตามอาคารของสถาบัน และในวันนี้ก่อนเหตุการณ์ณ์ พบว่า เครื่องเสียงผิดปกติ ก็เลยจะไปเอาอุปกรณ์ที่ห้องเก็บของมาซ่อม แต่พบว่าห้องเกิดล็อกกุญแจ จึงเกิดอาการไม่พอใจ เอะอะโวยวาย จนทางอาจารย์ที่อยู่ใกล้ ได้โทรมาแจ้ง ตนจึงได้ไปหาก็พบว่า ครูถืออาวุธปืน อยู่แล้ว ส่วนอาจารย์คนอื่นๆก็วิ่งกระเจิงหลบหนีไปจนหมด แต่ตนเองรู้ว่าอาวุธปืน ถืออยู่เป็นของปลอม ก็เลยไม่ได้กลัวแต่หวั่นว่า จะไม่สามารถคุมสถานการณ์ได้ และอาจารย์เค จะไปก่อเหตุใช้อาวุธปืนปลอมทุบตีนักศึกษาหรือผู้ปกครองได้ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาดำเนินการดังกล่าว

          ในขณะที่ผู้ปกครองท่านหนึ่ง(ปิดหน้า)ยอมรับว่าหากเกิดเหตุในลักษณะนี้ ตนเองก็รู้สึกว่าสถาบันที่ลูกมาเรียน จะปลอดภัยอีกหรือเปล่า เพราะสถาบันก็รู้ว่า มีผู้ป่วยจิตเวช ที่ต้องกินยาตลอด แต่ทำไมให้มาสอนนักศึกษาอยู่อีก น่าจะจัดตำแหน่งที่ดีไม่กดดันให้อาจารย์คนนั้นได้ทำหน้าที่จะดีกว่าหรือไม่

.........................................................


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รวบสามผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 3แสนลอบขนมากับรถทัวร์โดยสาร

สั่งปิดโรงเรียนผู้ปกครองเครียดบุตรไร้ที่เรียนครูหอบเด็กเช่าห้องแถวสอน

รวบผัวเมียชาวเวียดนามชาวบ้านสงสัยแก๊งลักเด็กค้นรถเก๋งพบไฟโซล่าเซลล์เต็มคัน