ผู้เสียหายโผล่แฉแม่กานต์ผัวโหดซ้อมเมีย เหตุวงแชร์ล่มหนีซุกภูเก็ต

รูปภาพ
  ลูกแชร์แจ้งความท้าวแชร์ หนีไป 2 ปี มาพบอีกทีหลังมีข่าวอดีตผัวโหดทุบตีเมียปางตาย แม่พามอบตัวที่แท้เป็นหญิงคนเดียวกันที่โกงแชร์หนีจากชุมพรแม้ปิดหน้าแต่สืบจนเจอถูกแฉซ้ำ                จากกรณีเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 67 ที่ผ่านมา น.ส.ภัครดา หรือน้องนิกอายุ 27 ปี ชาว หมู่ 1 ตำบลวังไผ่ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ให้ดำเนินการเอาผิดนายธนากานต์ หรือกานต์  อายุ 24 ปี ชาว ม. 7 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร อดีตสามี ในข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บทั้งกายและจิตใจ โดยนำคลิปภาพเคลื่อนไหวในพฤติการณ์ที่อดีตสามีก่อเหตุทำร้ายชกแตะต่อย จนได้รับบาดเจ็บ ที่แอบบันทึกไว้มามอบเป็นหลักฐาน             ต่อมาเมื่อช่วงเวลา 17.00 น.วันที่ 31 ธันวาคม 67   ทาง น.ส.กาญจนาอายุ 42 ปี ได้นำตัวนาย    นายธนากานต์ หรือกานต์ ลูกชายมามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร หลังจากที่ นายกานต์ ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ทะเบ...

3 แม่ลูกเหยื่อสาวซิ่งเก๋งBMWชนดับวิญญาณยังห่วงทำกู้ภัยหลอนยืนร้องให้หน้าห้องเชื่อรอความยุติธรรม

 

3 แม่ลูกเหยื่อสาวซิ่งเก๋งBMWชนดับวิญญาณยังห่วงทำกู้ภัยหลอนยืนร้องให้หน้าห้องโลงสั่น ต้องโทรแจ้งญาติจุดธูปบอกพร้อมซื้อไก่ย่างส้มตำอาหารโปรดเซ่นไหว้ คาดยังห่วงรอความยุติธรรมหรือมาเยี่ยมในวันพ่อ

        จากเหตุการณ์สาวซิ่งเก๋งรถBMW ความเร็ว 207 กม./ชม. ชน 3 แม่ลูกเสียชีวิตบริเวณบนสะพานข้ามทางรถไฟบ้านหนองหมุก ตำบลตากแดด อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร เมื่อคืนวันที่ 27 พ.ย.67 จนเป็นข่าวโด่งดังตลอด 1 สัปดาห์ หลังตั้ง

สวดอภิธรรมศพจนถึงวันที่ 3 ธันวาคม ทางญาติได้เคลื่อนย้ายทั้ง 3 ศพไปเก็บไว้ชั่วคราวที่มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร จนกว่าจะเรียกร้องความยุติธรรมให้ถึงที่สุดถึงจะนำร่างทั้งหมดฌาปนกิจต่อไปตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

        ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวทราบว่าเกิดเหตุการณ์ขนหัวลุกกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ทำงานอยู่ภายในมูลนิธิชุมพรฯจนต้องโทรแจ้งญาติเดินทางมาจุดธูปบอกกล่าวพร้อมกับซื้ออาหารโปรดของ 3 แม่ลูกมาเซ่นไหว้  หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านของนายประกฤษณ์  รัตนภา  อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นสามีและพ่อของเด็กที่เสียชีวิต

       โดยนายประกฤษณ์ หรือติ๊ก  เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า หลังจากเคลื่อนย้ายศพไปฝากไว้ที่มูลนิธิชุมพรฯตอนไปได้จุดธูปนำทางออกจากบ้านแต่หลังจากเสร็จเดินทางกลับไม่ได้จุดธูปบอกกล่าวว่าพ่อกลับก่อน วันนี้(5 ธ.ค.)มากู้ภัยผู้หญิงโทรศัพท์มาหาบอกว่าคืนที่ผ่านมาได้ยินเสียงกุ๊กกั๊กๆและมีเสียงร้องให้คร่ำครวญ ถึงสองวันซ้ำๆกัน  ส่วนตัวยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่ แต่เข้าใจว่ามันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

         ตนจำได้ว่าตอนที่ตนไปดูศพในวันเกิดเหตุเห็นว่าลูกสาวนอนเสียชีวิตตาไม่หลับ แม้ว่าตนพยายามปิดตาให้แต่ภรรยากับลูกชายตนปิดตาให้ แต่หลังจากนั้นตนก็เชื่อว่าตาไม่หลับทั้ง 3 คน วันนี้ทางกู้ภัยบอกว่าให้เข้าไปจุดธูปไหว้ศพให้หน่อย จึงชวนพี่ๆไปเป็นเพื่อนที่มูลนิธิชุมพรแวะซื้อส้มตำข้าวเหนียวไก่ย่างไปฝากด้วย

        พอไปถึงน้องๆกู้ภัยก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ต่อมาได้จุดธูปบอกกล่าวว่าอย่าไปรบกวนพี่ๆน้องๆกู้ภัยไม่นานให้จะมารับกลับให้ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว   อีกอย่างตนก็ลืมไปว่าวันนี้เป็นวันพ่อโดยปกติทุกปีที่ผ่านมาครอบครัวเราจะทำอาหารกินกันเล็กๆน้อยๆภายในบ้านไม่ได้ออกไปเที่ยวข้างนอก เป็นไปได้ว่าลูกมาเตือนว่าวันนี้เป็นวันพ่อ”

     ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่มูลนิธิชุมพรฯพบนายอุดมศักดิ์ ฯอายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยดูแลร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย พาเข้าดูสถานที่ตั้งศพ 3 แม่ลูก เห็นได้ว่าบนโลงศพที่บรรจุร่างพี่น้อง มีน้ำดื่ม ชาเขียว น้ำโกโก้ ไก่ย่างหลายชิ้น  นมเปรี้ยวยูเอชที รสผลไม้รวมกับรสสตอเบอรี่  เค้กรสช็อกโกแลต  1 ชิ้น  ข้าวต้ม 2 ถ้วย  พวงมาลัย 2 พวง  

         ส่วนบนโลงศพผู้เป็นแม่ มีข้าวต้ม 1 ถ้วย เค้กรสกาแฟ 1 ชิ้น น้ำดื่ม 1 ขวด น้ำแดง 1 แก้ว แลพวงมาลัย 1 พวง นายอุดมศักดิ์ เล่าถึงเหตุการณ์ระทึกขนหัวลุกว่า  เมื่อคืนที่ 2 กลุ่มน้องๆกู้ภัยที่อยู่เวร 4-5 คนประมาณหลังเที่ยงคืนได้ยินเสียงดังครึม 2 ครั้ง หันมองไม่มีอะไรหลังจากน้องกู้ภัยนั้นก็วิ่งเผ่นขึ้นห้องพักประมาณตี 1 มีคนเคาะประตูแล้วมีเสียงผู้หญิงยืนร้องให้

        ตนเองเจอคืนแรกประมาณเที่ยงคืนกว่าๆขณะจุดธูปจู่ๆโลงคนเป็นแม่สั่น ตนถามในใจว่าเอ๊ะมีอะไรหรือเปล่า พูดไปว่า “อย่ามายุ่งผมนะผมไม่ได้ทำอะไรผมมาดี”หลังจากนั้นก็เงียบ เหมือนกับว่าผู้ตายยังเป็นห่วงเป็นกังวล

         นายอุดมศักดิ์  เล่าประสบการณ์ว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่ค่อยเจอหรือเจอน้อยมาก นอกจากว่าถ้าจะมาก็มาหาญาติให้เขาเห็นถ้ามาลักษณะนี้กับกู้ภัยแบบนี้น้อยมาก

         ส่วนน.ส.รัตนา ฯ อายุ 39 ปี พนักงานทำความสะอาด เล่าว่า คืนแรกประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆขณะนั่งกรอกน้ำมันอยู่หลังศาลาไม่ไกลจากที่ตั้งโลงศพได้ยินเสียงผู้หญิงมีอายุวัยกลางคนร้องพักใหญ่ๆเหมือนคนเสียใจ

        พอตกเที่ยงคืนกำลังนอนอยู่บนโซฟาไม้ได้ยินเสียงดังครื้ดคราดๆ คิดว่าเป็นเสียงของเครื่องทำความเย็นโลงศพทำงานแต่มันไม่ใช่เสียงที่เคยเป็น ไม่คิดอะไรล้มนอนต่อสักพักเหมือนเดิมจึงลุกขึ้นนั่งฟังว่าเป็นเสียงอะไรกันแน่ หันมองดูโลงพบว่าโลงของคนเป็นแม่สั่นสะเทือน” ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเพราะมอเตอร์โลงแอร์หรือเปล่า จากประสบการณ์สัมผัสอยู่ที่นี่มานานโลงไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน”

         อีกคนที่เจอกับเหตุการณ์สุดหลอนคือ น.ส.กฤตินี ฯหรือพี อายุ 24 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยประจำศูนย์ เล่าว่า ตนก็เจอเหตุการณ์ประหลาดวันแรกตอนเย็นที่พาร่างผู้เสียชีวิตมาไว้ที่มูลนิธิฯ หลังจากทุกคนกลับกันหมดแล้ว ตนได้พาลูกชายชื่อน้องภาคิน วัย 10 เดือน เข้าห้องน้ำเปลี่ยนแพมเพิร์ส ลูกชายยกมือบ๊ายบ่ายเรียกป้า ป้า ตนมองไปยังจุดสายตาที่ลูกชายมองพบว่าไม่มีใคร มีลุกชายกับตนสองคนเท่านั้น คืนนั้นลูกชายร้องให้ทั้งคืนตอนแรกไม่ทราบสาเหตุได้สอบถามเพื่อนๆและเห็นโลงศพเท่านั้นรู้เลย  รุ่งเช้าก็จุดธูปบอกผู้เสียชีวิต”

.......................................................................


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ผญบ.ถอยกลับรถไม่ชินทางแต่ลื่นไถลลงคูน้ำริมถนนจมข้ามคืนชาวบ้านพบเป็นศพ

ถึงคราวซวย!หนุ่มจอดรถริมทางตร.สายตรวจพบพิรุธยาบ้าร่วงตุ๊บไม่รอดโดนรวบทันควัน

อึ้งรวบหนุ่มค้นห้องพบอาวุธปืนยาว-พกสั้นอื้อกระสุนเกือบพันนัด