อนุสาวรีย์ยุวชนทหาร มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไฉนถูกลืม ปล่อยรกร้างทรุดโทรมไร้การดูแล

รูปภาพ
อนุสาวรีย์ยุวชนทหารตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงสาย 4001 ชุมพร-ปากน้ำใกล้สะพานข้ามคลองท่านางสังข์ หมู่ 1 ตำบลบางหมาก อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร อนุสาวรีย์แห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2    สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้ประกอบวีรกรรมของหน่วยยุวชนทหารที่ 52  ตำรวจ ทหาร และประชาชน ซึ่งได้ปะทะต่อสู้จนถึงขั้น ตะลุมบอน ณ บริเวณสะพานท่านางสังข์กับกองทหารญี่ปุ่น 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 หรือเมื่อ 84 ปีที่แล้ว ที่ยกพลขึ้นบกจากหาดคอสน ตำบลท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร ทำให้ผู้บังคับหน่วยยุวชนทหาร และผู้กล้า เสียชีวิต 5 นาย เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ระลึกถึงวีรกรรมของผู้เสียสละชีวิตในการปกป้องผืนแผ่นดินไทยและถือเป็นเยี่ยงอย่างสืบไป          แต่มาวันนี้อนุสาวรีย์ยุวชนทหาร ไฉนจึงดูเก่ารกร้างเหมือนกับว่าขาดการดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควร จากการสำรวจพบว่า หน้ารูปปั้นมีเครื่องเซ่นไหว้พร้อมดอกไม้ธูปเทียนวางอยู่หมายถึงมีผู้คนแวะมาสักการะบูชา   โคมไฟบริเวณรอบฐาน ที่ตั้งอนุสาวรีย์ฯชำรุดเสียหาย โคมครอบไฟสีขาวหายไปหลายดวง บ้างก็แตกหัก บิดเบี้ยว สา...

เผาแล้วศพ 3 แม่ลูกเหยื่อสาวซิ่งBMWทนายแก้วเผยไม่หนักใจเรื่องคดี

       เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 26 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประกฤษณ์  รัตนภา  อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นสามีและพ่อของเด็กที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สาววิ่งรถเก๋งBMW ชน 3 แม่ลูกเสียชีวิตในพื้นที่เมืองชุมพรเป็นข่าวดังข้ามปี ได้เดินทางไปที่

มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนย้ายร่างนางเย็นจิตร  รัตนภา  นายกฤตเมธ  รัตนภา  และเด็กหญิงบุณยานุช  รัตนภา  3 แม่ลูกไปยังวัดสุวรรณนัทธี หรือวัดคูขุด ตั้งอยู่ตำบลบางหมาก



 อ.เมืองชุมพร เพื่อทำการฌาปนกิจ โดยมี ดร.มนต์ชัย  จงไกรรัตนกุล หรือทนายแก้วเดินทางจากกรุงเทพมหานครโดยเครื่องบินมาร่วมในพิธีฌาปนกิจในครั้งนี้ด้วย

        พร้อมทั้งมีผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนที่ทราบข่าว และเพื่อนนักเรียนโรงเรียนศรียาภัยชั้นม.2 และม.4 ของนายกฤตเมธ และเด็กหญิงบุณยานุช มาร่วมไว้อาลัยครั้งสุดท้ายเป็นจำนวนเป็นจำนวน ภายหลังจากทำพิธี



สวด วางผ้าบังสุกุล วางดอกไม้จันเสร็จสิ้น พิธีทางศาสนา เพื่อนนักเรียนร่วมใจกันร้องเพลงสลักจิตและเพลงฝนตกไหม ให้เพื่อนฟังเป็นครั้งสุดท้ายบางคนกลั้นน้ำตาไม่อยู่กอดกันร่ำให้ท่ามกลางผู้คนที่ร่วมเดินทางมาแสดงความในในในพิธีฌาปนกิจ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

        นายประกฤษณ์ ผู้เป็นพ่อก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ร่ำให้ขณะเพื่อนลูกชายและเพื่อนลูกสาวร้องเพลงไว้อาลัย ก่อนจะเคลื่อนศพขึ้นเมรุ โดยที่เพื่อนๆนักเรียนที่มาร่วมงานช่วยกันยกหีบศพบรรจุร่างเด็กหญิงบุญยานุช ขึ้นบนเมรุอย่างพร้อมเพรียงทุกคนที่มาในงานไม่คาดคิด ต่างมองอย่างเอ็นดูและชื่นชมถึงความรักที่มีต่อเพื่อน



        ด้านทนายแก้ว และนายประกฤษณ์  ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวว่า คดีนี้อัยการฯฟ้องหลายข้อหา หลักๆคือ ประมาททำให้บุคคลถึงแก่ความตาย รวมถึงตรวจพบสารเสพติดด้วย และกรณีพิเศษขอให้ศาลมีคำสั่งริบรถBMW ของ



กลางด้วย ก่อนหน้านี้ในชั้นพนักงานอัยการเปิดโอกาสให้มีการไก่เกลี่ยก็ไม่มา หลังจากไปกราบขอขมาศพหลังจากนั้นไม่เคยมาหรือติดต่ออีกเลยจนถึงปัจจุบัน เงินเยียวยาไม่เคยได้รับ รับเพียงเงินประกันเท่านั้น เงินจากฝ่ายผู้ละเมิดผู้ขับขี่และทางญาติก็ยังไม่มี



        ในส่วนเรียกค่าเสียหายทางเพ่งจำนวนเงิน 24 ล้านเศษ จากการลำดับเหตุการณ์เด็กทั้งสองคนและภรรยา เด็กทั้งสองคนเป็นอนาคตของชาติมาเสียชีวิตไป จริงแล้วไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้ แต่ทางเราต้องดำเนินการตามกฎหมายกำหนด ทางจำเลยมีการปฏิเสธต่อสู้ว่าค่าเสียหายที่ทนายแก้วเรียกไปสูงเกินส่วน แต่จะสูงแค่ไหนเป็นดุลพินิจของศาล



          ณ วันนี้รู้สึกเสียใจเพราะทางฝ่ายคู่กรณีไม่ได้ส่งใครมา หรือติดต่อมาแสดงความเสียใจหรือไว้อาลัยกับคุณพ่อเลยรู้สึกเศร้าใจนิดหนึ่ง ไม่มีจิตสำนึกเลยถามว่ายังมีความเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่ารู้สึกเสียใจมาก  นายประกฤษณ์ถามผ่านการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว


      นัดหน้าในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นัดตรวจพยานหลักฐาน จำเลยและทนายต้องมาตามนัด ต้องดูกันว่าจะพูดอะไร ข้อหาที่ร้ายแรงในคดีนี้คือ ประมาททำให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย  โทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และมีอีกหลายข้อหา ขับรถความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ หลังเกิดเหตุไม่ให้การช่วยเหลือและตรวจพบสารเสพติด 2 ตัว เป็นต้น ข้อหาท้ายฟ้องในส่วนคดีอาญาของพนักงานอัยการฯค่อนข้างละเอียด

     ทนายแก้ว  กล่าวอีกว่า เท่าที่จำได้ที่ผ่านมาฝ่ายคู่กรณีเขารับสารภาพใน 2 ข้อหาขับรถประมาทฯและไม่มีใบขับขี่ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่จะปฏิเสธได้ พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการฯค่อนข้างทำสำนวนละเอียดมากจึงไม่มีความกังวลในเรื่องคดี ไม่หนักใจอะไร

       ทนายแก้ว  กล่าวต่ออีกว่า แน่นอนตอนนี้เกิดความเสียหายไปแล้ว แต่ในความเป็นมนุษย์ควรมีจิตใจกับผู้ จะส่งตัวแทนมาหรือใครมาแสดงถึงความจริงใจที่เหลืออยู่  แต่นี่มันไม่มีแค่เอาใจเขามาใส่ใจเรา ในวันนี่แขกมาเยอะเด็ก 2 คนที่เป็นเยาวชนและแม่ที่เสียชีวิต พ่อเขาต้องอยู่คนเดียวมันเปล่าเปลี่ยว

       นายประกฤษณ์  กล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องดูแลแม่ป่วยติดเตียงและยังต้องไปทำงาน ซึ่งมีเวลาน้อยมากแต่ต้องดำเนินชีวิตต่อไป  อยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการพิจารณาเพื่อคดีจะได้สิ้นสุดให้เร็วขึ้น”

..........................................................


 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ฝ่ายปกครองอำเภอสวีรวบหนุ่มวัย 30 ปี หลังนัดส่งยาบ้าที่ป้ายโครงการทำถนนฯได้ไอซ์ยาบ้ากว่า 1 หมื่นเม็ด

รวบสามผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 3แสนลอบขนมากับรถทัวร์โดยสาร