ร.ท.ทหารเรือวัยเกษียณ เลือดร้อน ฉุนเพื่อนบ้านยิงผัวเจ็บเมียดับ

ชาวบ้านหมู่ 3 ตำบลวิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร ร้องผ่านสื่อคาใจน้ำท่วมบ้านสูงเกือบ
2 เมตร ทรัพย์สินเสียหายส่งรายชื่อรับเงินเยียวยา 9,000 บาทจากภาครัฐแต่สุดท้ายไม่มีรายชื่อผู้มีสิทธิ์รับเงินเหตุไม่เข้าเงื่อนไข
ผู้ใหญ่บ้านออกมาแจงพร้อมชี้ต่อคณะกรรมการพิจารณารายชื่อผู้ร้องไม่ตรงกับผู้ประสบภัย
นางกุศล
ศรีเมือง อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 3 ตำบลวิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร เจ้าของบ้านตามทะเบียนราษฎรและเป็นผู้เสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อกลางเดือนธันวาคม
2567 ที่ผ่านมา พร้อมนำสำรวจความเสียหายทรัพย์สินภายในบ้าน
โดยบ้านหลังดังกล่าวปลูกเป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างเป็นปูนชั้นสองเป็นไม้
ท่ามกลางสวนมะพร้าวห่างจากถนนคอนกรีตประมาณ 50 เมตร ติดกับคลองวิสัยฯ
สภาพตัวบ้านเก่าทรุดโทรมยังมีคราบร่องรอยความสูงระดับน้ำที่ท่วม
ภายในมีตู้ไม้ขนาดใหญ่
ตู้กับข้าวอลูมิเนียมถูกน้ำท่วมปล่อยทิ้งร้างยังมีคราบโคลนติดเกาะแห้งกรัง ส่วนบันไดไม้ขึ้นชั้นสองผุพังไม่สามารถใช้เดินขึ้นไปสำรวจได้
โดยนางกุศล เล่าว่า เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2567
ที่ผ่านมาเกิดอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ในจังหวัดชุมพร ทำบ้านของตนและเพื่อนบ้านในพื้นที่
หมู่ 3 ตำบลวิสัยใต้ได้รับผลกระทบเช่นกันโดยที่บ้านของตนมีน้ำท่วมสูงเกือบ
2 เมตร
ขณะนั้นตนได้จ้างคนงานเก็บมะพร้าวและเก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมันในสวน
และให้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว มีของใช้ส่วนตัวของคนงานเสียหาย
ต่อมาหลังน้ำลดสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 เดินทางไปที่อบต.วิสัยใต้ แจ้งรายชื่อทรัพย์สินเสียหายเพื่อรับเงินเยียวยาจากทางภาครัฐจำนวน
9,000 บาท ตามที่ประกาศ โดยระบุมีทรัพย์สินได้รับความเสียหายประกอบด้วย
เครื่องใช้ภายในบ้านเฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า
บ่อปลา ปุ๋ยเคมีผสมเสร็จแล้วจำนวน 5 กระสอบ และโอ่งใส่น้ำ
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่อบต.วิสัยใต้
นัดผู้ประสบภัยที่เคยส่งรายชื่อคนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรับฟังผลตรวจสอบว่ามีรายชื่อผ่านหรือไม่ผ่านการคัดเลือกรับเงินเยียวยา
ผลปรากฏว่าบ้านของตนไม่มีรายชื่อได้รับเงินเยียวยาเพียงบ้านเดียว
จึงถามเจ้าหน้าที่ว่าทำไมบ้านตนไม่มีรายชื่อซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าทางหน่วยเหนือแจ้งมาแค่นี้
เจ้าหน้าที่เป็นเพียงนำรายชื่อผลการตรวจสอบมาแจ้งกระจายข่าวให้ทราบเท่านั้น ขอย้ำว่าไม่มีรายชื่อของนางกุศล ศรีเมือง ขณะเดียวกันผู้ใหญ่บ้านตอบขึ้นมาว่า
“คุณไม่มีสิทธิ์คุณไม่มานอนตรงนี้” ซึ่งตนเองได้พูดโต้ผู้ใหญ่กลับไปเล็กน้อยว่า
“ถ้าคนไม่ได้นอนแช่น้ำไม่ให้ก็ไม่เป็นไร” และตนเองก็เดินออกไป
เพราะการประชุมจบเนื่องจากอ่านรายชื่อหมดแล้ว
นางกุศล เล่าอีกว่า ตนเองยังคาใจคำว่า หน่วยเหนือ คือใคร
เข้าใจว่าเป็นที่ว่าการอำเภอจึงเดินทางไปพบปลัดอำเภอพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ความเดือนร้อนและได้รับความเสียหายรวมถึงเหตุการณ์เข้าประชุมฟังผลรายชื่อผู้ได้รับเงินเยียวยา
ตนจึงยกตัวอย่าง เช่นชาวบ้านหมู่ 8 ซึ่งมีพื้นที่ติดกับหมู่ 3 น้ำท่วมเหมือนกันแต่มี 2
หลังคาเรือนไม่มีคนอยู่บ้านอีกคนอยู่พะโต๊ะส่วนอีกคนอยู่เมืองชุมพรทำไมถึงมีรายชื่อผ่านได้รับเงินเยียวยา
ซึ่งตนมีข้อสงสัย ทางปลัดอำเภอแนะให้ย้อนไปสอบถามทางอบต.
และได้รับคำตอบจากอบต.ว่านัดจะตรวจสอบอีกครั้ง รอจนถึงทุกวันนี้ก็ยังเงียบ
ร้อนใจของเอกสารเงื่อนไข กติกา
การขอรับเงินเยียวยาเป็นอย่างไรตนเองมีข้อบกพร่องตรงไหน ตอนหลังจึงทราบว่ามีปลัด
อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นส่วนหนึ่งในการตรวจสอบรายชื่อผู้ประสบภัย
สรุปกระเด็นที่ตนไม่ได้รับเงินเยียวยาคำตอบเดียวคือ
“ไม่ได้นอนบ้าน”หมายถึงไม่ได้พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว
ทางด้านนายพิษณุ นิลบางพระ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ตำบลวิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร เผยว่า
ผู้ใหญ่บ้านเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการระดับอำเภอในการพิจารณามีหน้าที่ในการรับรองข้อมูลว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามที่ทางอำเภอเป็นผู้กำหนดผุ้ได้รับการช่วยเหลือ
ตัวอย่างกรณีบ้านที่มีข้อพิพาทไม่เข้าหลักเกณฑ์รับเงินเยียวยา
เจ้าของบ้านมีชื่อ เป็นเจ้าของบ้านถูกต้องตามหลักกฎหมาย แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ข้อแรก
ไม่ได้เป็นผู้ประสบภัย ข้อ 2 มีผู้เช่าผู้อาศัย
สามารถทำได้คือเจ้าของบ้านต้องหาหลักฐานเป็นสัญญาเช่าหรืออยู่อาศัยอย่างไรเป็นหน้าที่ของเจ้าของบ้าน
ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน ตนไม่มีหน้าที่พิจารณาอนุญาตว่าหลังนี้จะได้หรือไม่
แต่ทางตนรับรองข้อมูลว่าบุคคลนี้อยู่หรือไม่อยู่ในพื้นที่
ผู้ใหญ่บ้าน เผยอีกว่า
สำหรับบ้านหลังดังกล่าว เมื่อก่อนปล่อยให้เช่า และน้ำท่วมทุกปีได้รับของแจกทุกปี มารอบนี้เห็นว่ามีคนอยู่แต่ไม่ใช่เจ้าของบ้าน
โดยสรุปผุ้ที่จะได้รับเงินเยียวยาต้องเป็นผู้ประสบภัย ตนมีหน้าที่รับรองข้อมูลแจ้งตามความเป็นจริงไปทางคณะกรรมการพิจารณาแล้วว่าบุคคลคนนี้(เจ้าของบ้าน)ไม่ใช่ผู้ประสบภัยตัวจริง
ไม่ได้เป็นผู้อยู่อาศัย ทั้งนี้ทั้งนั้นการพิจารณาต้องกลับไปถามคณะกรรมการผู้พิจารณา
ผู้ใหญ่บ้าน เผยเพิ่มเติมว่า สำหรับหมู่ 3 ตำบลวิสัยใต้ มีจำนวน 44
หลังคาเรือนตามทะเบียนบ้าน
แต่มีผู้ประสบภัย 55 หลังคาเรือน เพราะแบ่งแยกเป็นบ้านเช่า
และยังมีผู้ประสบภัยอีกหลายรายประมาณ 4-5 หลังที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเนื่องจากยังขาดเอกสารหลักฐาน
แต่ทุกคนเข้าใจหลักเกณฑ์การได้รับเงินเยียวยา”
...................................................................................................
ตามที่เข้าใจ ผู้ประสบภัย คือ ตัวบุคคล หรือทรัพย์สิน เสียหายก็คือประสบภัยไหมคะ
ตอบลบ