ลูกจ้างร้านตู้ซักผ้าหยอดเหรียญแจ้งจับตำรวจยศ ร.ต.อ.พร้อมเมีย สูญเงินกว่า 1 ล้านบาท โดยเมียทำทีตีสนิทบอกอยากเซ้งร้านสานธุรกิจต่อ

ชาวบ้าน - ทหารผ่านศึก รวมพลเป็นยามเฝ้าแผ่นดิน
คุมพื้นที่สวนปาล์มกว่า 2 หมื่นไร่
ดักจับโจรนายทุน "แก๊งพุงกาง" ขโมยผลผลิต หลังหมดสัมปทานนาน 10 ปี รัฐเกียร์ว่าง กอบโกยนับหมื่นล้าน
จากกรณีชาวบ้านและอดีตทหารผ่านศึกนับพันคน รวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานเกี่ยวข้อง นำสวนปาล์มน้ำมันกว่า 23,000 ไร่ ที่หมดสัมปทานมาตั้งแต่ปี 2558 นานถึง 10 ปีแล้ว ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ารับร่อ-ป่าสลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ที่รัฐเกียร์ว่างปล่อยปละละเลยให้กลุ่มนายทุน กลุ่มอิทธิพล และนักการเมืองใหญ่บางคน ร่วมมือ
กับเจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่ม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า
"แก๊งพุงกาง" นำแรงงานต่างด้าว เข้าไปเก็บผลผลิตปาล์มขายอย่างต่อเนื่องวันละ
500-1000 ตัน กอบโกยรายได้เดือนละมากกว่า 100 ล้านบาท ปีละนับ 1 พันล้านบาท ทั้งๆที่หมดสัญญาสัมปทานนานถึง
10 ปี รวมผลประโยชน์กว่า 1 หมื่นล้านบาท
โดยให้นำพื้นที่กลับมาบริหารจัดการ
จัดสรรให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะและจัดเป็นที่ทำกินแก่ชาวบ้าน
เกษตรกรผู้ยากจนและคนไร้ที่ดินทำกิน ตามข่าวที่เสนอมาต่อเนื่องนั้น
วันที่ 23 พ.ค.68
ที่ศาลาอเนกประสงค์หมู่บ้าน หมู่ที่ 13 ตำบลหงษ์เจริญ
อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ชาวบ้านและอดีตทหารผ่านศึก
ใช้เป็นศูนย์รวมทำกิจกรรมเรียกร้องถึงหน่วยงานรัฐและรัฐบาล จากกรณีปัญหาดังกล่าว
พร้อมกับจัดตั้งเวรยามออกตรวจสอบในพื้นที่สวนปาล์มหมดสัมปทาน
โดยใช้รถยนต์กระบะวันละ 4-5 -คัน
พร้อมกำลังชาวบ้าน อดีตทหารผ่านศึก รวมกว่า 20 คน
เพื่อป้องกันไม่ให้แรงงานต่างด้าวของขบวนการ "แก๊งพุงกาง"
เข้ามาลักลอบตัดปาล์มและขนออกไปส่งให้โรงงานของนายทุนใหญ่
โดยมีชาวบ้านในพื้นที่และต่างพื้นที่ นำข้าวสารอาหารแห้ง สิ่งของอุปโภคบริโภค
ทยอยเดินทางมามอบให้ อย่างต่อเนื่องทุกวัน
เพื่อใช้เป็นเสบียงในการต่อสู้เรียกร้องจนกว่าจะลุล่วงตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว
ด้าน นายประคอง
จิตประสงค์ "ผู้ใหญ่หยีต" ตัวแทนชาวบ้านและอดีตทหารผ่านศึก
เปิดเผยว่าพวกเรามารวมตัวกันเรียกร้องนานเกือบ 2 เดือนแล้ว
กรณีสวนปาล์มกว่า 2 ไร่
หมดสัมปทานนาน 10 ปี
ที่ปล่อยปละละเลยให้นายทุนเข้าไปเก็บผลประโยชน์ ขณะที่จังหวัดชุมพรไม่ได้อะไรเลย
ซึ่งหลังจากที่สื่อได้นำเสนอข่าว
เริ่มมีหน่วยงานเกี่ยวข้องลงให้ให้ความสนใจบ้างแล้ว มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
และจะรวมตัวกันทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องจนกว่ารัฐบาลจะไม่ต่อสัญญาสัมปทานใหม่ให้กับนายทุน
และนำที่ดินทั้งหมดมาบริหารจัดการ จัดสรรให้แก่ราษฎรยากจน ผู้ไร้ที่ดินทำกิน ต่อไป
นายประคองเปิดเผยว่า
หลังจากต่อสู้กันมาและสื่อมวลชนนำเสนอข่าว ขณะนี้นายทุนใหญ่ก็เริ่มถอยแล้ว
โดยเก็บเครื่องจักร ถอดหัวรถพ่วงเทนเลอร์บรรทุกปาล์มออก
แต่อย่างไรก็ตามพวกเราก็ยังเดินหน้าต่อไป ซึ่งตอนนี้ได้จัดตั้งกำลังชาวบ้าน
อดีตทหารผ่านศึก ทำหน้าที่เวรยามเฝ้าแผ่นดิน
ออกตระเวนตรวจตรารอบๆพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน ตรวจสอบกลุ่มแรงงานต่างด้าว กลุ่มบุคคล
และรถยนต์บรรทุกของพวกนายทุนที่ลักลอบเข้าไปบรรทุกปาล์มทะลายออกไปส่งให้โรงงาน
หากพบเห็นก็จะสกัดไว้แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
หลังจากชาวบ้านและอดีตทหารผ่านศึกรวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง
ทำให้นายทุนและกลุ่มบุคคลในขบวนการแก๊ง "พุงกาง" ทำทีเป็นถอย
แต่เบื้องลึกที่ไม่ใช้เครื่องจักร รถแบ็คโฮ
และรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าพื้นที่เหมือนที่เคยทำมา ก็เพื่อตบตาหลอกชาวบ้าน
แต่จะใช้วิธีการแบบกองทัพมด โดยใช้รถยนต์กระบะวิ่งเข้าไปบรรทุกผลผลิตปาล์มที่แรงงานต่างด้าวตัดกองไว้
ตามจุดต่างๆ แล้วนำออกมา เนื่องจากมีความสะดวกและคล่องตัวในการหลบเลี่ยง
โดยกองทัพมดจะนำปาล์มที่บรรทุกมากับรถยนต์กระบะ
ไปส่งให้กับลานปาล์มของเอกชนที่เป็นอดีตนักการเมืองผู้กว้างขวางในพื้นที่ตำบลรับร่อ
และในพื้นที่ใกล้ถนนเพชรเกษมอีก 2-3 จุด
ที่นายทุนใหญ่เจ้าของโรงงานเช่าไว้ เพื่อตบตาว่าเปิดรับซื้อผลผลิตจากชาวบ้านทั่วไป
ซึ่งทีมข่าวเฉพาะกิจจะรายงานความคืบหน้าต่อไป.
.........................................................
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น