หนุ่มคนงานขับรถไถเสียหลักตกเหวลึกถูกทับดับเพื่อนหญิงรอดหวุดหวิด

แฉทำกันเป็นขบวนการใหญ่ นายทุน ผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่รัฐ
เก็บปาล์มน้ำมันในป่าสงวนพื้นที่หมดสัมปทานกว่า 2 หมื่นไร่
กอบโกยกันเดือนละนับ 100 ล้านบาท
ชาวบ้านเตรียมบุกทำเนียบร้องนายกฯ นำมาจัดสรรให้ราษฎรทำกินตามนโยบายรัฐบาล
วันที่ 17 พ.ค.68
จากกรณีที่มีชาวบ้านและกลุ่มอดีตทหารผ่านศึกมากกว่า 1 พันคน มารวมตัวกันที่ศาลาอเนกประสงค์หมู่บ้าน หมู่ที่ 13 ตำบลหงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นานกว่า 1 เดือนแล้ว
เพื่อใช้เป็นศูนย์รวมทำกิจกรรมเรียกร้องถึงหน่วยงานรัฐและรัฐบาล
จากปัญหาสวนปาล์มหมดสัมปทานถูกดองมานานนับ 10 ปี จำนวน 2 แปลง ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ารับร่อและป่าสลุย
ในท้องที่ตำบลหงษ์เจริญ เนื้อที่ 7,109 ไร่ 2 งาน 39 ตารางวา
และในท้องที่ตำบลรับร่อ เนื้อที่ 16,256 ไร่ 2 งาน 34 ตารางวา
รวมกว่า 23,000 ไร่ นั้น
โดยพื้นที่สัมปทานตามสัญญาทั้ง
2 แปลง ได้หมดสัมปทานมานานแล้วตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งบริษัทที่หมดสัมปทานได้ยื่นขอต่อสัญญา
แต่ถูกชาวบ้านคัดค้านมาตลอด จนปัญหายืดเยื้อมาถึงปัจจุบันปี พ.ศ. 2568 นานถึง 10 ปีแล้ว
แต่ในพื้นที่สวนปาล์มหมดสัมปทานทั้ง 2 หมื่นกว่าไร่
ยังมีนายทุนจากบริษัทใหญ่ ผู้มีอิทธิพล กลุ่มบุคคล
เข้าไปจัดสรรผลประโยชน์แบ่งพื้นที่กันดูแลเก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมันออกมาขายอย่างต่อเนื่อง
กอบโกยผลประโยชน์กันเดือนละนับร้อยล้านบาท
ขณะที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเกียร์ว่างปล่อยให้ปัญหายืดเยื้อมายาวนานนับ 10 ปี
โดยล่าสุดตัวแทนชาวบ้านในเขตพื้นที่หมดสัมปทานในแปลงตำบลหงษ์เจริญ
ได้มีมติจัดตั้งเวรยามบริเวณทางเข้าออกสวนปาล์มหมดสัมปทาน เพื่อตรวจสอบกลุ่มบุคคล
นายทุน ที่นำเครื่องจักรและแรงงานต่างด้าวเข้าพื้นที่ลักกลอบตัดปาล์มออกมาขาย
เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ให้จับกุม และทำกิจกรรมรณรงค์เรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐและรัฐบาลเร่งดำเนินการ
ไม่ต่อสัญญาสัมปทานแล้วนำมาบริหารจัดการและจัดสรรที่ดินทำกินแก่ราษฎรตามนโยบายรัฐบาลต่อไป
นายประคอง
จิตประสงค์ หรือ “ผู้ใหญ่หยีต” อดีตผู้ใหญ่บ้าน
ตัวแทนชาวบ้านเปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า
หลังจากที่ชาวบ้านและอดีตทหารผ่านศึก
ออกมาเรียกร้องกรณีสวนปาล์มหมดสัมปทานแต่ปัญหายังถูกปล่อยให้ยืดเยื้อมานานถึงปัจจุบัน
10 ปี ขณะที่ในพื้นที่ยังมีนายทุน ผู้มีอิทธิพล กลุ่มบุคคล
นำแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก เข้าไปเก็บผลปาล์มออกมาขายอย่างต่อเนื่อง
แต่ถ้าเป็นชาวบ้านตาสีตาสาจะถูกจับกุมทันที จึงอยากให้ผู้นำรัฐบาล
หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงมาในพื้นที่จะได้รู้ข้อเท็จจริงจากชาวบ้านว่าทำไมปัญหาจึงถูกดึงให้ยืดเยื้อมานานถึง
10 ปีแล้ว
นายประคอง
กล่าวต่อว่า ตอนนี้สวนปาล์มพื้นที่แปลงหมดสัมปทานในตำบลหงษ์เจริญ
ชาวบ้านมีความเข้มแข็งมาก ได้ตั้งกลุ่มจัดเวรยามคอยตรวจสอบบริเวณทางเข้าออก
หากพบนายทุน ผู้มีอิทธิพล กลุ่มบุคคล นำเครื่องจักร นำแรงงานต่างด้าว
เข้าไปลักลอบตัดปาล์มออกมาขายให้โรงงาน ก็จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่จับกุมทันที
นายประคองกล่าวต่อว่า
แต่แปลงหมดสัมปทานในพื้นที่ ตำบลรับร่อ อีกกว่า 1 หมื่นไร่
จากการตรวจสอบ ยังมีกลุ่มบุคคลนำเครื่องจักร แรงงาน
เข้าไปตัดปาล์มออกมาส่งขายให้โรงงานกันทุกวัน ซึ่งทำกันเป็นปกติ
โดยเมื่อวานที่ผ่านมาพวกตนและชาวบ้านได้เข้าไปถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน
มีทั้งรถแบ็กโฮ รถบรรทุกปาล์ม แรงงาน และได้แจ้งให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับกลับมาแต่อย่างใด
ซึ่งพวกตนและชาวบ้านอาจจะต้องนำหลักฐานและปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทั้งหมด
ไปรวมตัวกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
พื้นที่สวนปาล์มหมดสัมปทานกว่า 2 หมื่นไร
ซึ่งบริษัทฯเจ้าของสัมปทานเดิมได้ยื่นขอต่อสัญญาใหม่
แต่ยังไม่ได้รับพิจารณาเนื่องจากชาวบ้านคัดค้าน
ซึ่งปัญหายังยืดเยื้อเรื้อรังมายาวนานจนถึงปัจจุบัน 10 ปี ในขณะที่ต้นปาล์มน้ำมันในพื้นที่กว่า 2 หมื่นไร่ ถือเป็นของป่าอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้
ได้มีนายทุนจากบริษัทใหญ่ และกลุ่มบุคคล ที่มีอิทธิพล
เข้าไปจัดสรรแบ่งกันโซนรับผิดชอบ แล้วนำเครื่องจักร แรงงานต่างด้าวจำนวนมาก
เข้าไปเก็บเกี่ยวผลผลิตปาล์มน้ำมัน ออกมาส่งให้กับลานปาล์มของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
แล้วส่งขายต่อให้กับนายทุนโรงงานบริษัทใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐบางคน
จากหลายหน่วยงานเข้าไปเกี่ยวข้องร่วมมือทำกันเป็นขบวนการใหญ่
มีผลประโยชน์เดือนละมากกว่า 100 ล้านบาท
จึงทำให้ปัญหายืดเยื้อมาถึงปัจจุบันนาน 10 ปี ดังกล่าว
........................................................
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น