"ปล่อยร้าง “เขาดินสอ”จุดชมวิว-แหล่งดูนกเหยี่ยวมีชื่อระดับนานาชาติติด1ใน5 ของโลก

รูปภาพ
  ปล่อยร้าง “เขาดินสอ”จุดชมวิว-แหล่งดูนกเหยี่ยวดีที่สุดมีชื่อระดับนานาชาติติด 1 ใน 5 ของโลก ศาลาที่พักส่องเหยี่ยวชมวิวผุพังนานหลายปีนักท่องเที่ยววอนหน่วยงานจับมือร่วมกันปรับปรุงซ่อมแซมให้หลบแดดหลบฝนได้ก็ยังดีพร้อมร้องขอห้องน้ำ ด้านเทศบาลตำบลบางสนแจงติดขัดเรื่องงบและอยู่ในระหว่างประสานบูรณาการร่วมหลายหน่วยงาน        “ เขาดินสอ” เป็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ตำบลบางสน  อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศา สามารถมองเห็นทะเลและภูเขาได้หลายมุม รวมถึงอ่าวต่าง ๆ ในพื้นที่ ได้แก่ อ่าวบ่อเมา อ่าวทุ่งวัวแหล่น และอ่าวสะพลี   ยอดเขาดินสออยู่สูงประมาณ 736 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล          เป็นแหล่งดูนกเหยี่ยวอพยพที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และนานาชาติ ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกจุดชมเหยี่ยวที่ดีที่สุด  โดยในฤดูอพยพ ประมาณเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน จะมีฝูงเหยี่ยวบินผ่านเป็นจำนวนมาก หลายหมื่นถึงแสนตัว  มีนกเหยี่ยวหลายสายพันธุ์ เช่น เหยี่ยวนกเขาจีน   เหยี่ยวนกเขาญี่ปุ่น   เหยี่ยวหน้าเทา...

ทหารผ่านศึกชาวบ้านบุกภ.จว.ชุมพร

 

           เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 6 มิถุนายน 2568  นายประคอง จิตประสงค์ "ผู้ใหญ่หยีต" และ นายคนึง เมืองทิพย์ ประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยกลุ่มทหารผ่านศึกและชาวบ้านกว่า 500 คน ไปรวมตัวกันที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ภายในศูนย์ราชการ เพื่อเรื่องเรียนต่อ พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.ชุมพร




 โดยชาวบ้านทั้งหมด ก่อนหน้านี้เป็นกลุ่มที่รวมตัวกันอยู่ที่ศาลาอเนกประสงค์หมู่บ้านหมูที่ 13 ตำบลหงษ์เจริญ อ.ทาแซะ จ.ชุมพร ใช้เป็นศูนย์กลางในการเรียกร้องให้รัฐนำที่ดินสวนปาล์มหมดสัมปทานกว่า 23,000 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ารับร่อ และป่าสลุย ที่หมดสัมปทานนาน 10 ปี แล้ว เพื่อนำมาบริหารจัดการและจัดสรรให้กับราษฎรและชาว



บ้านที่ไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งหมดสัมปทานมานานถึง 10 ปี แต่รัฐเกียร์ว่างไม่ดำเนินการใดๆ ปล่อยให้กลุ่มนายทุน เจ้าหน้าที่รับ นักการเมือง บางคนบางกลุ่ม นำแรงงานต่างด้าวเข้าไปเก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมันออกมาขายให้โรงงานนายทุน ปีละเกือบ 1,000 ล้านบาท โดยที่รัฐไม่ผลประโยชน์ใดๆเลย ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทำกันเป็นขบวนการร่วมกันระหว่างนายทุน เจ้าหน้าที่รัฐ กลุ่มผู้มีอิทธิพล และนักการเมือง มานานหลังจากสวนปาล์มหมดสัมปทานนับ 10 ปี



          ตัวแทนชาวบ้านและทหารผ่านศึกกล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าว ที่ผ่านมาชาวบ้านและกลุ่มทารผ่านศึกได้ออกมารวมตัวกัน โดยใช้ศาลาอเนกประสงค์หมู่บ้านและอาคารร้างในสวนปาล์มหมดสัมปทานเป็นจุดรวมตัวและจุดพัก เพื่อคอยตรวจสอบดูแลพื้นที่สวนปาล์มหมดสัมปทานกว่า 2 หมื่นไร่ มานานกว่า 1 เดือนแล้ว เพื่อไม่ให้กลุ่มนายทุน เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีอิทธิพล และนักการเมือง นำแรงงานต่างด้าวเข้าไปลักขโมยเก็บเกี่ยวปาล์มออกมาขาย จนกระทั่งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะกลุ่มทหารผ่านศึกและชาวบ้านออกตรวจพื้นที่ผ่านไปถึงหน้าสำนักงานของบริษัทนายทุนที่หมด


สัมปทาน ช่วงประมาณบ่าย 3 โมง ได้เห็นบุคคลต้องสงสัยคาดว่าเป็นแรงงาน เมื่อเห็นพวกตนได้วิ่งหนีและทิ้งปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 ติดลำกล้อง ใส่อยู่ในถุงผ้า พร้อมเครื่องกระสุน ทิ้งไว้ข้างสำนักงาน 1 กระบอก ชาวบ้านจึงแจ้งตำรวจ สภ.สลุย มาตรวจสอบ ปรากฎว่าใช้เวลานานเกือบ 3 ชั่วโมง จนเกือบมืด เมื่อมาแล้วก็ไม่ยอมเปิดถึงดูว่าข้างในเป็นปืนชนิดใดอ้างว่ากลัวทรัพย์สินเสียหาย จะต้องพาไปเปิดที่โรงพัก ชาวบ้านจึงไม่ยอมขอตามไปดูด้วย เมื่อไปถึงโรงพักก็ยังโยกโย้บอกว่าร้อยเวรยังไม่สะดวกยังอาบน้ำอยู่ แต่ชาวบ้านก็ไม่ย่อท้ออยู่เฝ้าจนในสุดตำรวจก็ยอมเปิดดู ปรากฎว่าเป็นอาวุธปืนยาวเถื่อนไม่มีทะเบียน พร้อมเครื่องกระสุน

        ตัวแทนชาวบ้านและทหารผ่านศึกกล่าวต่อว่า เมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์ ชาวบ้านไปสอบถามถึงความคืบหน้าคดี ตำรวจ สภ.สลุย ก็พูดไม่ดี แถมต่อว่าชาวบ้านว่ามีแต่เรื่องวุ่นวาย ทำให้ตำรวจต้องเวลาไม่ต้องทำเรื่องอื่นกันแล้ว ทั้งๆที่จุดเกิดเหตุดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดของบริษัทหมดสัมปทานติดตั้งอยู่หลายตัว ซึ่งเป็นจุดที่กล้องบันทึกภาพเห็นคนทิ้งปืนชัดเจน แต่พอชาวบ้านพวกเราทำผิดเล็กๆน้อยๆ บางเรื่องก็ผิดแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตำรวจกลับยกโขยงกันไปตรวจสอบจับกุมดำเนินคดีเสร็จภายในวันเดียว ซึ่งทำคดีต่างกันยังกับหน้ามือเป็นหลังมือ เก่งแต่เฉพาะชาวบ้านเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีตำรวจบางคนมีพฤติกรรมทำตัวอยู่ข้างนายทุน คอยจ้องจะจับผิดแต่ชาวบ้านเท่านั้น

          ด้าน พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้ลงมาพบและพูดคุยกับตัวแทน กลุ่มทหารผ่านศึกและชาวบ้าน พร้อมกับรับทราบปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นและได้ชี้แจงว่า จะสั่งการกำชับให้ตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นธรรมและตรงไปตรงมา ซึ่งตนเองได้รับรายงานจาก ผกก.สภ.สลุยแล้ว เรื่องคดีอาวุธปืนเถื่อนดังกล่าว ก็มีความคืบหน้าไปพอสมควร ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และทำหนังสือขอภาพกล้องวงจรปิดจากบริษัทดังกล่าวแล้ว ซึ่งหากขอไปแล้วมีการประวิงเวลาหรือล่าช้า ก็จะให้ตำรวจใช้อำนาจเข้าไปตรวจสอบเองเลย และรับปากยืนยันว่าคดีนี้จะต้องรู้ผลภายใน 7 วัน

          ภายหลังจากแกนนำ กลุ่มทหารผ่านศึกและชาวบ้าน ได้รับฟังคำชี้แจงและคำยืนยันจาก พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.ชุมพร ต่างก็พอใจและปรบมือให้ พร้อมกับกล่าวของคุณ พล.ต.ต.สมคะเน ที่ลงมาพบและพูดคุยชี่แจงทำความเข้าใจท่ามกลางวงล้อมชาวบ้าน ได้รับรู้กันทุกคน ก่อนจะพากันแยกย้ายกลับ และรอฟังคำตอบเรื่องความคดีหน่าของคดีภายใน 7 วันต่อไป.

……………………………………….


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เสี่ยเจ้าของล้งรับซื้อทุเรียนจัดหนัก!โชว์เงินก้อนโต 1ล้านจ้างตบชู้สาวลูกชายจนกว่าจะเลิกกัน

สืบเมืองชุมพรขยายผลตามรวบยกครัวผัวเมียและแม่ลูกทั้งค้าทั้งเสพ

ลูกหนี้ยืมเงินเบี้ยวนัด ซ้ำพูดเย้ยอยากได้ให้ไปฟ้อง เจ้าหนี้เครียดผูกคอดับ