ผญบ.แจงตัดปาล์มขายเงินล้านสูญเชื่อปมการเมืองการเลือกตั้งท้องถิ่น

โดยกรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้รับการแจ้งจาก นายหนูไกร วงธรรม กำนัน
ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ว่า เวลา 09.00 น.วันที่ 12 กรกฎาคม 2568
บริเวณศาลาประชุมหมู่บ้าน ม.1 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
จะมีชาวบ้านซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หรือคนไทยพลัดถิ่น ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ม.1
และ ม.2 ตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จำนวนมาก
จะแห่กันมาแสดงตนเพื่อขอออกบัตรประจำประชาชนไทย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ
พบภายในอาคารศาลาประชุมหมู่บ้าน มีชาวบ้าน กว่า 100 คน ทั้งชายและหญิง อายุตั้งแต่ 15 ปีจนถึง 70 ปี ต่างถือเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งขึ้นหน้าด้วยเลข 6 และบัตรประจำตัวประชาชน ขึ้นหน้าด้วยเลข 0 พร้อมหลักฐานสำเนา ท.ร.38 ข หรือแบบรับรองรายการทะเบียนประวัติบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนทะเบียนบ้าน ซึ่งในใบ ท.ร.38 ข ระบุเกี่ยวกับเลขประจำตัว ที่ขึ้นหน้าด้วยเลข 0 ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด สถานที่เกิด ซึ่งจะระบุประเทศพม่า
และระบุจัดทำทะเบียนราษฎร์
อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 0/89 ซึ่งเป็นบ้านกลางสำหรับคนไทยพลัดไทย ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
มายื่นต่อ นายสมพูล มีสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้าน ม. 1 และ น.ส.ปุญญิศา บัวเกิด
ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากทางอำเภอให้เปิดบริการรับเอกสารแสดงตนเพื่อออกบัตรประจำตัวประชาชนไทย(บัตรสีฟ้า)
โดย น.ส.ละออง ไผ่ผา (เสื้อสีดำ)อายุ 23 ปี พร้อมด้วย น.ส.ดาราพร
เสริมพันธ์ อายุ 32 ปี และ น.ส.นิภาพร เพชรฉิม อายุ 32 ปี
ซึ่งทุกคนทะเบียนราษฎร์อยู่บ้านเลขที่ 0/89 ม. ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เปิดเผยว่า จำความได้ตนเองเกิดที่มะริด
ประเทศเมียนมาร์ จนสองขวบพ่อแม่ก็ได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในประเทศไทย โดยอาศัยอยู่ที่
ม.1 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร และเมื่อได้อยู่ประเทศไทย
ก็ได้มีการสำรวจบุคคลต่างด้าว เพื่อออกบัตรประจำตัว ซึ่งตนเองอยู่ในกลุ่มสอง คือ
บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ซึ่งเป็นกลุ่มเลขหน้าขึ้นด้วย 0-89
บัตรด้านหน้าจะเป็นสีขาว ด้านหลังจะเป็นสีชมพู และจะมีชื่ออยู่ทะเบียนบ้านกลาง คือ
0/89
ทั้งสาม กล่าวว่า ทุกคนมีความต้องการบัตรประจำตัวประชาชน
ซึ่งแสดงความเป็นคนไทยอย่างถูกต้อง เพราะที่ผ่านมา
พวกตนไม่สามารถจะได้สิทธิเทียบเท่าคนที่ได้บัตรประจำประชาชนไทย ซึ่งเป็นสีฟ้า มี
ไอดี การ์ด ซึ่งทำได้ทุกอย่าง แม้การเลือกตั้ง ซึ่งพวกตนก็อยากจะใช้สิทธิตรงนี้เช่นกัน อีกทั้งคิดจะทำธุรกรรมอะไรก็ไม่ได้
เพราะบัตรเก่าที่ระบุบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน เขาคงคิดว่าเป็นคนต่างด้าว
น.ส.ละออง พร้อมด้วย
น.ส.ดาราพร และ น.ส.นิภาพร
กล่าวทั้งน้ำตาอีกว่า หลังจากที่รู้ว่าให้มายืนยันและแสดงตนเพื่อออกบัตร
ตนเองถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจ เพราะรอมานานมาก ที่จะเป็นคนไทยอย่างสมบูรณ์
แม้จะติดงานหรือจะถูกไล่ออกจากงานก็ยอมที่จะต้องรีบเดินทางมายื่นเรื่อง
ซึ่งจากนี้ต่อไป ชีวิตความเป็นอยู่หลังจากที่ได้บัตรประจำตัวประชาชนไทย แล้ว
พวกตนรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่
ด้าน นายประสิทธิ์ อิงสุวรรณ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 0/89 ม.1
ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร กล่าวว่า ตนเองเกิดที่จาก จ. มะริด
ฝั่งประเทศเมียนมาร์ ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2540
ตนก็ได้อพยพมาอยู่ที่ประเทศไทยและได้ใช้ชีวิตทำมาหากินที่ ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
ตั้งแต่นั้นมาโดยไม่เคยกลับไปประเทศเมียนมาร์เลย ปัจจุบันมีลูก 8 คน
และลูกทุกคนก็เรียนจบกันหมด
แต่ติดปัญหาคือไม่มีหน่วยงานไหนที่จะรับกับคนไม่มีสถานะอย่างพวกตน
ซึ่งสร้างความลำบากใจให้กับลูกๆเป็นอย่างมาก
นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนเองรู้สึกดีใจมาก
และเมื่อรู้ว่าทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดให้มายื่นเอกสารแสดงตน
ก็รีบนำครอบครัวทุกคนมาทันทีเพื่อจะได้บัตรประจำตัวประชาชนไทย ที่เฝ้ามานาน
และต่อจากนี้ไปก็จะสามารถเข้าถึงสวัสดิการต่างๆที่รัฐจัดให้เสียที ลูกๆก็สามารถยื่นหลักฐานความเป็นคนไทยเข้าสมัครเป็นตำรวจทหารตามที่ใฝ่ฝัน
อีกทั้งตนเองก็จะสามารถซื้อสิ่งของทรัพย์สินต่างๆเป็นชื่อตนเองเพื่อสร้างสถานะครอบครัวอย่างมั่นคงเสียที
ในขณะที่ทาง นายสมพูล มีสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้าน ม. 1 กล่าวว่า
หลังจากที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
เสนออนุมัติหลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติ
และสถานะให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาในอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน
และกลุ่มบุตรที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักร
ซึ่งอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งมีแนวเขตที่ติดชายแดนกับประเทศเมียนมา
ทำให้มีประชากร จำนวนหนึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หรือคนไทยพลัดถิ่น ได้มาพักอาศัยอยู่
โดยจะกระจายอยู่ในพื้นที่ ม.1- 7 ของ ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
ผู้ใหญ่บ้าน ม. 1 กล่าวต่อว่า ซึ่งทางอำเภอท่าแซะ
ได้ทำการลงพื้นที่สำรวจเก็บพร้อมสรุปข้อมูลตามโครงการพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น
ทั้งสิ้นกว่า 1 พันราย ซึ่งคัดแยกออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มแรก เป็นผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่าเชื้อสายไทย ซึ่งอยู่ในหมวดเลข 6
กลุ่ม 66,77 และเลข 7 ซึ่งได้รับคำขอแล้วและได้สัญชาติไทยแล้วในบางส่วน กลุ่มสอง
คือบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ซึ่งเป็นกลุ่มเลข 0-89 หรือกลุ่มเชื้อสายไทย
ซึ่งกลุ่มนี้ได้สัญชาติไทยแล้ว ไปบางส่วนเช่นกัน และยังมีเหลือตกค้าง
ซึ่งในวันนี้ก็ได้เปิดจุดบริการรับเอกสารยื่นเรื่องแสดงตนเพื่อขอบัตรประจำตัวประชาชนไทย
ทั้งหมด 360 ราย ของทั้งหมด 7 หมู่ ในพื้นที่ตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
ส่วนทางด้าน นายหนูไกร วงธรรม กำนัน ต.สองพี่น้อง กล่าวว่า
ตนเองรู้สึกดีใจกับทุกคนที่จะได้รับบัตรประจำตัวประชาชนไทยเสียที เพราะที่ผ่านมา
ผู้นำทุกคนในพื้นที่พยายามช่วยกันอย่างเต็มความสามารถที่จะช่วยเหลือ
เพราะทุกคนจะได้เข้าถึงสิทธิประโยชน์ที่พึงได้จากรัฐตามนโยบายต่างๆ
จึงได้ไปศึกษาขั้นตอนต่างๆไปจนถึงการยื่นเรื่องขอเปลี่ยนสถานะต่อทางภาครัฐ
จนกระทั่งได้มีนโยบายลงมาอันนำไปสู่การได้มาของบัตรประจำตัวประชาชนไทยของกลุ่มชาติพันธ์หรือคนไทยพลัดถิ่นในพื้นที่
ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ดังกล่าว
………………………………………………………….
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น