สายการบิน “นกแอร์” เครื่องใหญ่บินเที่ยวเย็นช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร

รูปภาพ
สายการบิน “นกแอร์” เครื่องใหญ่บินเที่ยวเย็นช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา 19.00 น. ที่ท่าอากาศยานชุมพร ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร นายเจริญโชค พรหมชุติมา นายอำเภอปะทิว พร้อมด้วย นายชาญยุทธิ์ ศรีแก้ว ผู้อำนวยการท่าอากาศยานชุมพร นายอาสา จุลทับ  ประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร นางสาวกฤชสร ทรายแก้ว ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดชุมพร ต้อนรับผู้โดยสาร ที่เดินทางมาชุมพรด้วยสายการบินนกแอร์  (ขนาด 181 ที่นั่ง) ซึ่งกลับมาเปิดให้บริการระหว่างกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – ชุมพร อีกครั้งเป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ในวันนี้ ทั้งนี้ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) มีกำหนดการทำการบินโดยเครื่องบินแบบโบอิง 737-800  ในเส้นทาง กรุงเทพฯ  (ดอนเมือง) - ชุมพร และ ชุมพร - กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) ด้วยตารางการบิน 4 เที่ยวบิน / สัปดาห์ คือ วันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ ดังนี้ เส้นทางบิน กรุงเทพฯ (ดอนเมือ

กอ.รมน.ชุมพร สนธิกำลังเข้าตรวจสอบนายทุนลักลอบโค่นป่าต้นน้ำ ปลูกปาล์มในพื้นที่ตำบลสลุย

 

        วันที่ 10 พ.ย.65 พ.อ.พสิษฐ์ ชาญเลขา รอง ผบ.มทบ.44/รอง ผอ.รมน.จว.ช.พ.(ท.) สั่งการให้ ร.อ.กอบศักดิ์ นาคหาญ หน.ชรต.403(ช.พ.),ร.ท.จเรศรีสุวรรณ จนท.ฝ่ายการข่าวฯ 

พร้อมด้วย นายสุนทร บรรพต กำนัน ต.สลุย , นายอนุชา มาตรหมาย ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.สลุย ,จนท.ตำรวจ กก.5


บก.ปทส.,จนท.ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ช.พ. จนท.ศูนย์โครงการฟื้นฟูพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบวาตภัยจากไต้ฝุ่นเกย์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี

            ร่วมตรวจสอบกรณีร้องเรียนผ่านสายด่วน 1374 เลขที่เอกสาร ชุมพร/3534 ลง 9 พ.ย.65 เรื่อง บุกรุกพื้นที่ป่า (ป่าฟื้นฟูที่ประสบภัยไต้ฝุ่นเกย์) บริเวณ บ้านสะพานหิน ม.8 ซ.สะพานหิน 1 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จากการตรวจสอบ

พบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ภูเขามีการปลูกไม้เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพป่าให้อุดมสมบูรณ์ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเคยประสบภัยไต้ฝุ่นเกย์พัดผ่าน สร้างความเสียหาย เมื่อปี 2532 โดยทางศูนย์โครงการฟื้นฟูพื้นที่ภาคใต้ที่ประวาตภัยตาก

สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์

ไต้ฝุ่นเกย์ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว มีการปลูกต้นไม้ทดแทน จนเกิดความอุดมสมบูรณ์ คณะเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบยังพบรอยเท้าของ เก้ง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าหายาก บริเวณพื้นที่ดังกล่าว

        จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวถูกบุกรุก พบร่องรอยของการใช้เครื่องจักร ในการปรับพื้นที่ เพื่อปลูกปาล์มาน้ำมัน สำรวจแล้วประมาณ 200 ต้น เนื้อที่ถูกทำลาย ประมาณ 14 ไร่ 2 งาน 7 ตารางวา ขณะตรวจสอบไม่พบบุคคลหรือ

สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์..

เครื่องจักร บริเวณดังกล่าว จึงมอบหมายให้ นายอุดร รังศรีบุตร จนท.ประจำศูนย์โครงการฟื้นฟูฯ รวบรวมภาพถ่าย ราย

ละเอียดที่เกี่ยวข้อง ร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สลุย เพื่อหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

............................................................................


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คนร้ายบุกยิงเจ้าของฟาร์มวัวดับสลดคาบ้าน คาดปมเหตุปล่อยวัวกินพืชสวนชาวบ้าน

รวบสองผู้ต้องหาพร้อมรถตู้ทึบสองคัน ร่วมลอบขนและทิ้งโรฮิงญา

ญาติร่ำให้หนุ่มออกทอดแหจับกุ้งพลัดเรือจมหายค้นหาข้ามคืนพบเป็นศพ