รถไฟสายใต้ชนกระบะลากไกล 1 กม.สภาพยับเป็นเศษเหล็กเสียชีวิตทั้งคัน 3 ราย

รูปภาพ
         เมื่อเวลา 10.30. น. วันที่ 17 ก.ย. 67 พ.ต.ต ชินวงศ์ อินทร์ทอง สว.(สอบสวน)สภ.ละแม  จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่าเกิด เหตุ  รถไฟชนรถยนต์กระบะบริเวณถนนทางตัดข้ามทางรถไฟบ้านหัวมาด ม. 5 ตำบลทุ่งหลวง อ.ละแม จ.ชุมพร เบื้อง สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี ต้นทราบว่ามีผู้เสียชีวิตหลายราย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ  กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษมชุมพรเขตละแม เร่งตรวจสอบ       ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ 1. นางสาวชัฎชฎาภา  เจริญจริง  อายุ 44 ปี   2. นาง สนับสนุนโดย ร้านเค.เอส.รุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์ สายใจ ทวีศิลป์อายุ 51 ปี  และ 3. นายประเจิด ทวีศิลป์ อายุ 57 ปี  กระเด็นออกจากตัวรถห่างจากจุดทางตัดรถไฟประมาณ 100-200 เมตร หน่วยกู้ภัยฯและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดก่อนให้กู้ภัยลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดส่งชันสูตรโรงพยาบาลละแมอย่างละเอียดอีกครั้ง  สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์       ห่างจากจุดพบศพผู้เสียชีวิตประมาณ 1 กม. พบรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ตอนครึ่ง สีขาว ทะเบียน บล 5779 ชุมพร  สภาพถูกรถไฟชนยับเสียหายเป็นเศษเหล็กทั้งค

แรงงานกรีดยางชาวเมียนมาร์เมายาใช้มีดงอจับเมียและลูกวัย 4 เดือน เป็นตัวประกัน จนท.ส่งเพื่อนพม่าไปคุย

 

แรงงานกรีดยางชาวพม่าเมายาใช้มีดงอจับเมียและลูกวัย 4 เดือน เป็นตัวประกัน จนท.ส่งเพื่อนพม่าไปคุย เรียกร้องขอยาบ้าแล้วจะปล่อยเมียและลูก

            เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 31 ธันวาคม 2565 นายศราวุธ พัดทรัพย์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ้านทรัพย์สมบูรณ์ ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีแรงงานชาวพม่าเมายาบ้าอาละวาดวิ่งไล่ทุบตีเมียอยู่ในสวนยางของนาย

มงคล (ขอสงวนนามสกุล) จึงประสาน พ.ต.ท.บุญชู จันทร์เดชะ สวป.สภ.ปะทิว ร.ต.ต.คมสันต์ ทองมี รอง สว.(ป) สภ.ปะทิว นายพัทธดลย์ สืบถวิลกุล กำนัน ต.ชุมโค และกำลังชุดกู้ชีพกู้ภัยปะทิว สมาคมนักข่าวจังหวัดชุมพร รุดไปตรวจสอบ

สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี

            ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวปลูกอยู่ในสวนยางพารา ห่างจากถนนสายคลองวังช้าง-มาบอำมฤต(สายใน)เพียง 70 เมตร และห่างจากบ้านนายศราวุธ พัดทรัพย์ ผู้ใหญ่บ้านเพียง 2 กม.เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงได้พบแรงงานกรีดยาง

ชาวเมียนมาร์ ทราบชื่อภายหลังคือนายมิน อายุ 24 ปี ในมือข้าวขวา มีมีดงอยาวเกือบเมตร ถืออยู่ ส่วนด้านซ้ายจับผมของนางซิน อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นภรรยา พร้อมต่อว่าด่าทอด้วยภาษาพม่า และบางครั้งตบหน้าภรรยา หลายครั้ง จนหน้าหันด้วย

แรงตบ โดยนางซิน ไม่ได้ต่อสู้แต่อย่างใด โดยพยายามปกป้องก้มปิด ลูกชายวัย 7 เดือนไว้แนบอก อยู่ประตูหน้าบ้าน


สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์

            เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเพื่อระงับเหตุและสอบถามปัญหาที่เกิดเหตุ แต่นายมิน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ได้กระชากผมภรรยา ซึ่งอุ้มลูกน้อยแนบอกไว้ตลอด ลากเข้าไปในบ้าน พร้อมตะโกนด้วยภาษาไทย ที่นายมิน พอพูดได้ ห้ามทุกคนเข้าไป  ไม่

เชื่อจะใช้มีดงอฟันคอภรรยา พร้อมทั้งใช้มีดงอจี้คอนางซิน เจ้าหน้าที่ จึงต้องล่าถอยออกมา และพยายามเจรจากับนายมิน แต่ไม่เป็นผล กลับสร้างความกดดันเพิ่มขึ้น นายมิน ได้นำเชือกป่าน ขนาดเท่านิ้วก้อย มาผูกข้อมือขวาของนางซิน แล้วไปผูกไว้กับตัวประตูหน้าบ้าน ส่วนนายมิน ไปยืนอยู่ด้านหลัง โดยจะใช้มใดจ่อที่คอภรรยา เป็นระยะ

             เจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าของสวนและนำเพื่อนสนิท ของนายมิน มาช่วยในการเจรจา โดยโทรศัพท์เข้าไปหา  อยู่นานนับชั่วโมงกว่านายมิน จะยอมให้นายมาย ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทมาก ให้ถอดเสื้อ เข้าไปหา ซึ่งเจ้าหน้าที่มั่นใจว่าคงไม่

เกิดเหตุอันเลวร้าย จึงวางแผนกับนายมาย โดยจะให้นำน้ำเย็นซึ่งใส่ยานอนหลับไปให้ แต่นายมิน ขอให้มามือเปล่า ซึ่งนายมาย ก็ได้อาสาและเชื่อว่าเพื่อนไม่ทำอะไร ก่อนเข้าไป ใช้เวลาประมาณ 8 นาที นายมายได้เดินออกมาพร้อมบอกว่า นายมิน อยากให้ เจ้าหน้าที่ช่วยเอายาบ้า มาให้สัก 10 เม็ด เพราะนายมิน อยากเสพ

สนับสนุนโดย เพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์.

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดกู้ชีพกู้ภัย ร่วมทั้งญาติและเพื่อนชาวพม่าของนายมิน ได้ปรึกษากัน ก็ได้ยินเสียงนางซิน ร้องตะโกนขอให้ช่วยด้วยความเจ็บปวด ประกอบกับเมื่อยแขนที่ถูกเชือกผูกติดกับประตูและ

เพื่อนผู้ก่อเหตุโทรศัพท์เกลี้ยกล่อม

แขนอีกข้างต้องอุ้มลูกน้อย ออกมาอยู่ตลอด สร้างความหดหู่ใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก ซึ่งทำได้เพียงพยายามโทรศัพท์เข้าไปคุยกับนายมิน ให้ใจเย็นๆ ทางเจ้าหน้าที่พยายามไปหายาบ้ามาให้อยู่

ผู้ใหญ่บ้านเข้าช่วยเมียและลูกผู้ก่อเหตุ

              ต่อมาทาง พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สืบสวน ภูธรจังหวัดชุมพร  พร้อม พ.ต.ท.สุชาติ สิงหา รอง ผกก.(ป)สภ.ปะทิว และตำรวจชุดราชเดช ได้เดินทางมาถึง จึงได้ประเมินสถานการณ์ต่างๆเพื่อเตรียมแผนการเข้าจู่โจม อยู่ๆ

นายมิน ได้โทรศัพท์ เข้ามาหาเพื่อนชาวพม่า และขอพูดกับนายศราวุธ ผู้ใหญ่บ้าน และขอให้ทางผู้ใหญ่ เข้าไปเพียงคนเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้เข้าไปหา พร้อมจัดชุดราชเดช เตรียมความพร้อมหากเกิดอะไรขึ้น จะได้จัดการได้อย่างทันถ่วงที

เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ

              โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ขอให้นายศราวุธ เจรจา ขอนำตัวลูกน้อยของนายมิน ออกมาเพราะเกรงเด็กจะได้อันตรายจากการทำร้ายที่นายมิน ก่อขึ้น ซึ่งเมื่อผู้ใหญ่บ้านเดินเข้าไปตามระยะที่ทางเจ้าหน้าที่วางไว้ ทางนายมิน ก็ได้แก้เชือกที่ผู้มือของนางซิน ภรรยาออก พร้อมให้อุ้มลูกน้อย ไปให้ ซึ่งเมื่อ นางซิน เดินออกมาถึง ผู้ใหญ่บ้าน จึงได้อุ้มแล้วนำทั้งทุ้งแม่ลูกกึ่งวิ่งกึ่งเดินหนีมาทันที ซึ่งทำให้นายมิน โกรธมากจึงได้วิ่นเขาไปในบ้านพร้อมปิดประตู หน้าต่าง

 ตะโกนจับศัพท์ไม่ได้ เป็นช่วงเดียวที่ทางชุดราชเดช พร้อมอาวุธปืนกระยาง ปืนเลเซอร์ ครบมือ บุกเข้าไปชาร์จได้อย่างละม่อม ก่อนให้ทางชุดก็ภัยกู้ชีพ นำเปลสนามใช้เชือกรัดมือเท้า นำตัว ส่ง รพ.ปะทิว ไปตรวจหาสารเสพติด ซึ่งนายมิน ได้ยอมรับว่า ได้เสพยาบ้า จำนวน 3 เม็ด และได้สูบกัญชา ไปหลายครั้ง ก่อนก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มารับตัว ส่งสงบสติอารมณ์ ก่อนสอบสวนปากคำอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

              ด้านนายชัย หรือนายซินเมคะ เพื่อนชาวเมียนมาร์ อายุ 19 ปี บอกว่า ตอนที่นายมาย ได้เข้าไปหานั้นสาเหตุที่นายมิน ได้ก่อเหตุขึ้น ทราบว่า ได้มีปัญหาในเรื่องเงิน ที่ส่งไปทางบ้าน จ.มุมระแมง ประเทศเมียนมาร์ ไม่พอกับที่จำเป็นต้องใช้ แต่ไม่ทราบว่าเรื่องใด จำนวนเท่าไหร่ ทำให้เครียดและทะเลาะกับนางซิน ภรรยา ขึ้นดังกล่าว

             นายชัย ยังบอกว่า ก่อนหน้านี้ นายมิน เคย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ได้พร้อมยาบ้านจำนวนหนึ่งมาครั้งหนึ่งแล้ว และหลังจากที่พ้นคุกมา ก็ไม่ทราบว่านายมิน หันมาเสพยาเสพติดอีกหรือไม่ และ นายมิน เองก็อยากจะกลับประเทศเมียนมาร์แล้ว ไม่อยากอยู่ เหมือนว่า ทำเท่าไหร่ก็ไม่เหลือ

..............................................................................................


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชาวบ้านสุดทนสามผัวเมียมั่วสุมเสพยาแจ้งตำรวจช่วยเด็ก 2 คน

เหิมไม่เกรงกลัวกม.ผญบ.เตือนไม่ฟังรุกป่าต้นน้ำปลูกปาล์ม ป่าไม้หญิงสนธิกำลังซุ่มจับคาหนังคาเขา

จ่าทหารขับเก๋งออกจากค่ายจะไปธุระเสียหลักรถตกร่องกลางถนน เหินชนฝั่งตรงข้ามเสียชีวิต