บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม, 2023

อาสากู้ภัยคาใจหญิงปริศนาโผล่ร่ำให้พอรู้ว่าผู้ตายไม่ใช่คนขับเก๋งBMWฉิ่งหาย

รูปภาพ
        จากกรณี นางสาวจิรันธนิน อายุ 30 ปี ขับรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อ BMW หมายเลขทะเบียน กจ 44 นครศรีธรรมราช ด้วยความเร็ว 207 กม./ชม.พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ รุ่นเวฟ 110 ไอ หมายเลขทะเบียน 1 กณ 9257 ชุมพร มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ เป็นนักเรียนชายชั้น ม. 4 กับนักเรียนหญิงชั้น 2. โรงเรียนดังในเมืองชุมพร ตายพร้อมกับแม่รวม 3 ศพ  ขณะแม่ขับไปรับกลังจากเรียนพิเศษ ส่วนสาวที่เป็นคนขับรถ BMW ได้ขอให้ชาวบ้านละแวกเกิดเหตุช่วยหาแมวสายพันธุ์ต่างประเทศจนเจอ แล้วทิ้งรถเก๋งคันหรูอุ้มพาแมวหลบหนีหายไปกับความมืด เหตุเกิดเชิงสะพานถนนสาย จ. หมู่ 9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อค่ำวันที่ 27 พ.ย. 67 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมาและมีความเคลือบแคลงสงสัยหลายประเด็นของคดีดังกล่าวด้วย        ความเคลื่อนไหวล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 67 ฟังอีกมุมจากกู้ภัยสาวที่มีข้อสงสัยกับพฤติกรรมของหญิงสาวปริศนาเข้ามาร่ำให้ต่อหน้าร่างผู้เสียชีวิตแต่พอรู้ภายหลังว่าผู้เสียชีวิตไม่ใช่คนขับเก๋ง BMW กับกับอึ้งพร้อมกับหายตัวไป       โดยอาสากู้ภัยสาวรายนี้เป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าช่วยเหลือทำ CP

จับมือ 6 โรงเรียนเอกชนจัดแข่งขันกีฬาสานสัมพันธ์พัฒนาเยาวชนดังคำขวัญ “มิตรภาพเหนือชัยชนะ”

รูปภาพ
  เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 31 ส.ค. 66 ที่สนาม โรงเรียนพัฒนศาสน์วิทยา หมู่ 8 บ้านหนองปลา ตำบลท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นางสาวสุภัคกมล ชินวงค์ ศึกษาธิการจังหวัดชุมพร เป็นประธาน พิธีเปิดการแข่งขันกีฬา "เอกชนสัมพันธ์ ครั้งที่ สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี 4 (เครือข่ายท่าแซะ – ปะทิว) ในระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม ถึง 3 กันยายน  2566 โดยมีโรงเรียนเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 6 โรงเรียน  มีโรงเรียนพัฒนศาสน์วิทยาท่าแซะและโรงเรียนอนุบาลอัลบานีย์ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน             ที่มาของโครงการจัดการแข่งขันกีฬาเอกชนสัมพันธ์เครือข่ายท่าแซะ-ปะทิว นั้น เริ่มต้นมาจากการที่โรงเรียนเอกชนในจังหวัดชุมพรขาดเวทีการแข่งขันกีฬาเพื่อพัฒนา เยาวชน โรงเรียนเอกชนในอำเภอท่าแซะ มีแนวคิดร่วมกันว่า สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์ ควรจะจัดการแข่งขันกีฬาใน เครือข่ายเอกชนด้วยกันเองโดยเริ่มต้นในปี 2560 ต่อมาจึงเชิญโรงเรียนในเขต อำเภอปะทิว เข้าร่วมการแข่งขันในปี 2561         โดยมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน จนกระทั่งในปี 2563 โรงเรียนพัฒนศาสน์วิทยาท่านจะได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพร่ว

จนท.สนธิกำลังบุกตรวจสอบกิจการขุดตักดินเชิง “เขาพาง”เจ้าของโชว์มีเอกสารถูกต้อง

รูปภาพ
  วันที่ 30 ส.ค. 66 ร.อ.กอบศักดิ์ นาคหาญ หน.ชรต. 403( ชพ.) พร้อมด้วยนางสาวเจริญขวัญ  แก้วทองราช  วิศวกรชำนาญการ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชุมพร และร.ต.อ.ฐปนนท์  แดงสกล  รอง สวป.สภ.เมืองชุมพร สนธิกำลังร่วมกันเดิน ทางเข้าตรวจสอบผู้ประกอบกิจการรายหนึ่งประกอบธุรกิจขุดตักดินเพื่อจำหน่าย ในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลหาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร  หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนผ่าน กอ.รมน.ชุมพร กรณีประชาชนร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนคาดว่าอาจจะมีการขุดตักดินรุกล้ำไปยังพื้นที่เขาพาง   สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี          พบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ด้านหลังเขาพาง ติดถนนสายหาดพันไกร-บางลึกมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองชุมพร เชื่อมต่อถนนสายเพชรเกษมเข้ามาประมาณ 2 กม.มีรถบรรทุกดินขับเข้าออกบริเวณดังกล่าวเป็นระยะโดยมีเจ้าของกิจการเดินทางพบเจ้าหน้าที่พร้อมนำเอกสารอนุญาตประกอบการและเอกสารครอบครองที่ดินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ          โดยนางสาวเจริญขวัญ  แก้วทองราช วิศวกรชำนาญการ สอจ.ชุมพร กล่าวหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบกิจการขุดตักดินของผู้ประกอบการ ปรากฏพบว่า บริเวณที่ได้รับอนุญาต กำลังประกอบกิจการโดยใช้รถแบคโฮ จำนวน 1 คัน 

ผู้สูงอายุสวมชุดครุยรับประกาศนียบัตร “ปริญญาชีวิต บัญฑิตปัจฉิมวัย” ลูกหลานแห่ร่วมยินดีมอบช่อดอกไม้แน่

รูปภาพ
          เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 29 ส.ค. 66 ที่ศาลาเอนกประสงค์ อบต.สวี อ.สวี จ.ชุมพร นายพิศิษฐ์  ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอสวี เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตร ปริญญาชีวิต  บัญฑิตปัจฉิมวัย แก่ผู้สูงอายุโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลสวี  ตำบลปากแพรก รุ่นที่ 1 จำนวน 51 คน โดยมีนายธวัชชัย  ซื่อสัตย์  นายก อบต.สวี   นางสุรีรัตน์  โอวาท ครูกศน.ตำบล สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี ปากแพรก    นางสาวชลธิชา  นาคมุสิก  พยาบาลวิชาชีพชำนาญการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปากแพรก และคณะครูผู้สอนที่เกี่ยวข้องร่วมในพิธี          การจัดการศึกษาของโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลสวี - ตำบล ปากแพรก ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นรุ่นที่ 1 ดังนี้ โรงเรียนผู้สูงอายุตำบลสวี - ตำบลปากแพรกได้ทำการเปิดการเรียนการสอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ภายใต้มุมมองเรื่องผู้ สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์ สูงอายุ จากภาพของคนแก่ทำอะไรไม่ได้ ไปสู่ อายุวัฒนะ และคุณภาพชีวิตที่ดี ทำการงานที่เป็นประโยชน์ และมีความสุขได้ โดย มีคำขวัญว่า “สูงอายุอย่างสง่า มีคุณค่าแก่สังคม” โดยเน้นการมีส่วนร่วมจากทุก ภาคส่วน ภาคีเครือข่าย วัด ชุมชน โรงเรีย

แม่ลุยแจ้งความต่อลูกเขยทาสยาทุบตีลูกสาวเป็นใบ้และกักขัง

รูปภาพ
               เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 27 ส.ค.66 ที่ สภ.ทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร   นาง เขียว อายุ 41 ปี  ชาวตำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร พร้อมด้วย นส.ดำ นามสมมุติ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการทางการพูดและการได้ยิน หรือ เป็นใบ้  เดินทางไปที่ สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี  สภ.ทุ่งตะโก เพื่อให้ ดำเนินคดี กับนายชรัฐ หรือไอ้ไข่ อายุ 35 ปี ชาวต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่ง เป็นสามี ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส  ทำร้ายร่างกายอย่างหนักในช่วงเดือนที่ผ่านมา จนร่างกายซูบผอม            จากหญิงสาวที่แม่เคยเลี้ยงมาจนรูปร่างอวบอิ่ม ตามใบหน้าและร่างกายมีบาดแผลร่องรอย หลายจุด  และ นำตัว นส.ดำ ไปกักขัง ไว้ แม่และญาติๆออกติดตาม เนื่องจากกลัวว่า ไอ้ไข่จะฆ่า นส.ดำ จนกระทั่ง ตำรวจ สายตรวจตำบลบาง สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์ น้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร สามารถจับกุมตัว ไอ้ไข่ที่พกปืนบรรจุกระสุนเต็มแม็กซ์ ขณะที่วกกลับไปที่บ้านพัก นำตัวไปดำเนินคดี ข้อหา พกพาอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ให้ประกันตัวชั้นสอบสวน ส่วนข้อหา ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว ให้ นางเขียวนำไปแจ้งความที่ สภ.ทุ่งตะโก เจ้าของท้องที่เกิ