สาธารณสุขอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก

รูปภาพ
  สาธารณสุขอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก วันที่ 19 ก.ย.67.ที่ บริเวณหน้าศาลพ่อตาหินช้าง หมู่ที่  2 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร   นายสิทธิชัย ชูจีน สาธารณสุขอำเภอท่าแซะเป็นประธานจัดกิจกรรมจิตอาสารณรงค์                 สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก โดยมีนายชัยยุทธ ไชโย ผู้อำนวยการ รพ.สต.สลุย เป็นผู้ดำเนินงานร่วมกับ ฝ่ายปกครองท้องถิ่น ปกครองท้องที่ ทหารตำรวจ  กองอาสารักษาดินแดน(อส.) สังกัด กองร้อยอาสารักษาดินแดน จังหวัดชุมพรที่ 1 อาสาสมัครสาธารณสุข สนับสนุนโดย ร้านเค.เอส.รุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์  จิตอาสา บริษัท cpi และเด็กนักเรียน โรงเรียนต่างๆ เข้าร่วม กิจกรรมจำนวนประมาณ 400 คน สาธารณสุขอำเภอท่าแซะ  กล่าวว่า เพื่อดำเนินการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก การเตรียมรับสถานการณ์ การแพร่ระบาดของไข้เลือดออก ในช่วงฤดูฝน และให้มีการทำงางานอย่างต่อเนื่องมีประสิทธิภาพ ตลอดจนกระตุ้นเตือนให้           สนับสนุนโดย เพิ่มพููลคาร์เซ็นเตอร์ ประชาชนในช

นักเรียนรุ่นพี่ทุบตีรุ่นน้องม.1ตั้งแต่เทอมแรก ซ้ำครูรู้เห็น ทนไม่ไหวเคยซดไฮเตอร์ ส่งรพ.ช่วยทัน

 

          ผู้ปกครองทนไม่ไหวกับพฤติกรรมเลวร้ายในโรงเรียนโพสลงโซเชียลทวงความยุติธรรมให้เด็กหญิงวัย 15 ชั้นม.1 โดยระบุว่า  “ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพร ใช้ให้เด็กรุ่นพี่ปิดประตูตบตีรุ่นน้อง ไม่พอใจอะไรกันทำไมไม่มาคุย

 มาลงกับเด็กได้ยังไง แบบนี้ต้องเอาผิดยังไงดีคะ ทุบตี4-5รอบแล้ว เป็นครูกันได้ยังไงมีจรรยาบรรณกันบ้างป่าว โรงเรียนก้อปัดความรับผิดชอบ มันเกินไปคะ มีการสั่งเด็กว่ามีอะไรห้ามบอกผู้ปกครอง พูดขู่เด็ก ใช้คำพูดหยาบคายกับเด็ก  #รบกวนแชร์ต่อๆกันหน่อยนะคะ

       ต่อมาเมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 24 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ทราบว่าผู้โพสข้อความและภาพบาดแผลของนักเรียนที่ถูกทำร้ายคือ พี่สาววัย 23 ปี โดยเล่าให้ฟังทางโทรศัพท์ว่า  “ตนเองเดิน

สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวี

ทางออกจากจังหวัดชุมพรและเพิ่งจะถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานีเมื่อตี 2 ที่ผ่านมาเพื่อทำธุระ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นน้องสาวตนเองเข้าเรียนโรงเรียนประจำ ถูกเพื่อนนักเรียนรุ่นพี่ทำร้าย ทุบ ตี ตั้งแต่เทอม 1  พร้อมกับบังคับซักผ้าให้ ถ้าไม่

ทำก็ถูกโดนซ้อม  โดยโทรศัพท์และทักแชตบอกแม่  แม่ทำอะไรไม่ถูกแต่จะไปหาก็อยู่ไกลมากคนละอำเภอ  เงินทองก็ไม่มี รถก็ไม่มี   ส่วนตนเองต้องไปเปิดร้านขายสินค้าต่างจังหวัด

        จนล่าสุดคืนวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมาเหตุการณ์เริ่มหนักขึ้นน้องสาวโทรบอกแม่ว่า คุณครูและรุ่นพี่อยู่หน้าหอโดยพลักน้องสาวเข้าไปในห้องปิดประตูแล้ว ทุบตีน้องสาวขณะนั้นมีครูรู้เห็นทุกอย่างแต่ไม่ช่วย บอกผอ.โรงเรียน โดยผอ.บอกว่าเดี๋ยวจัดการให้แต่นิ่งนอนใจมาตลอดเหตุการณ์ดังกล่าวผู้เป็นแม่เล่าให้ฟัง ขณะนั้นตนเองซึ่งเป็นพี่สาวก็ขายของอยู่สุราษฎร์

สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์

        พี่สาว เล่าอีกว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ตนเองเดินทางไปโรงเรียนเข้าพบ ผอ.เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่ไม่พบใครเลยครูสักคนก็ไม่เจอ ครูประจำหอก็ไม่เจอ หลังจากนั้นได้เบอร์โทรศัพท์ ผอ. จึงโทรสอบถามผอ.แจ้งว่าไปราชการ แต่ให้ติดต่อรอง ผอ.จึงโทรไปสอบถามรอง ผอ.แต่ รองผอ.ไม่คุยอะไรทั้งนั้น แต่นัดคุยในวันจันทร์ ตนย้อนถามว่าทำไมต้องคุยวันจันทร์  แม่ไม่ว่างมาเพราะต้องรอพี่สาวมาด้วยหลังจากนั้นรอง ผอ.ตัดสายทิ้ง ตอนแรกตนตั้งใจไม่เอาเรื่องเพราะผ่านมาแล้ว ทำจะเรื่องย้ายโรงเรียน

            หลังจากตนกลับออกมาจากโรงเรียนประมาณ 1 ชั่วโมง น้องสาวโทรศัพท์เข้ามาพร้อมกับร้องให้บอกว่าโดนรุ่นพี่ลากเข้าไปตบในห้องน้ำ โดยรุ่นพี่ถามว่ามึงไปบอกอะไรพ่อแม่  มึงทำให้กูและครูเดือดร้อน หลังจากนั้นโทรไปหาผอ.เล่าเหตุการณ์ให้ฟังก่อนหน้านั้นว่าจะไม่เอาเรื่อง แต่น้องสาวกลับถูกกระทำอีก ถูกกระทำซ้ำซากไม่ไหวแล้ว

สนับสนุนโดยเพิ่มพูลคาร์เซ็นเตอร์.

       พี่สาวเด็กนักเรียนชั้นม.1 เล่าต่ออีกว่า ตอนนี้น้องสาวเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว เคยถูกทำร้ายจนเกิดอาการเครียดกินน้ำไฮเตอร์แต่ครั้งนั้นช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลไว้ทัน ต้องนอนรักษาตัวอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ กลับมาไม่ถึงครึ่งเดือดจนมาเริ่มเกิดเหตุอีกครั้งในวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา

       ขณะนี้เป็นห่วงความปลอดภัยของน้องสาวมากๆสภาพทางจิตใจก็แย่ แต่ทางโรงเรียนไม่ให้นำตัวน้องออกมา ผอ.นัดคุยวันจันทร์นี้ ตนไม่อยากจะฟ้องร้องอะไรทางโรงเรียน ทางโรงเรียนดีมากๆแต่ทัศนคติสังคมในโรงเรียนมันแย่ มันป่าเถื่อน ตนเองไม่เคยพบเจอรุ่นพี่ทุบตีรุ่นน้องแบบนี้ เรื่องนี้ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้น้องสาว อยากหาคนรับผิดชอบทำไมน้องสาวถูกทุบตีตั้งแต่เทอม 1 ถึงเทอม 2”  พี่สาวเด็กที่ถูกทำร้าย กล่าว

ขณะเดียวกันต้องรอให้ทางโรงเรียนดังกล่าวได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับสังคมต่อไป

.....................................................................................


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชาวบ้านสุดทนสามผัวเมียมั่วสุมเสพยาแจ้งตำรวจช่วยเด็ก 2 คน

เหิมไม่เกรงกลัวกม.ผญบ.เตือนไม่ฟังรุกป่าต้นน้ำปลูกปาล์ม ป่าไม้หญิงสนธิกำลังซุ่มจับคาหนังคาเขา

จ่าทหารขับเก๋งออกจากค่ายจะไปธุระเสียหลักรถตกร่องกลางถนน เหินชนฝั่งตรงข้ามเสียชีวิต