โหดยิงหมดโม่ 6 นัดดับอนาถ บนถนนในสวนปาล์มน้ำมัน
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
คาดคนร้ายมากกว่า 1 คน จ่อยิงหน้าผากและลำตัวรวม 6 นัดชายวัย 48 ปีเสียชีวิตภายในสวนปาล์มน้ำมัน
ในพื้นที่ตำบลดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ตำรวจกำลังเร่งหาปมเหตุการสังหารในครั้งนี้
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 ก.พ.67 พ.ต.ต.จิรเมธ โชติรัตน์ สว.(สอบสวน)สภ.มาบอำมฤต ได้รับแจ้งพบศพถูกยิงเสียชีวิตอยู่ข้างรถยนต์กระบะบนถนนลำลองในสวนปาล์มของชาวบ้าน หมู่ที่ 16 ตำบลดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึง
สนับสนุนโดย อีซูซุสาขาสวีรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
แล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.มาบอำมฤต
กำลังตำรวจชุดสายตรวจสายสืบ แพทย์เวร รพ.มาบอำมฤต หน่วยกู้ภัยปะทิว
หน่วยกู้ภัยสายชล
ที่เกิดเหตุเป็นถนนดินหรือถนนลำลองที่ใช้ขับรถและเดินภายในสวนปาล์มของชาวบ้าน ห่างจากถนนสายหลักเส้นปากคลอง-ปะทิว ประมาณ 5 กม. พบรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ ตอนเดียว สีบอร์น-เทา ทะเบียน ชุมพร สภาพจอด
หันหัวไปทางทิศตะวันตก กระจกประตูรถทั้ง 2 ด้านถูกลดลงจนหมด ห่างจากประตูขวาด้านคนขับประมาณ 1 เมตร พบศพทราบชื่อภายหลังคือ นายนิโรจน์ อายุ 48 ปี ชาวตำบลปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร สภาพศพเริ่มแข็งเสียชีวิตมาแล้วกว่า 6 ชั่วโมง นอนตายหน้าลักษณะขาทั้ง 2 ข้างงอแบะออกเหมือนท่านั่งคุกเข่า นุ่งกางเกงขาสันสีน้ำตาล เสื้อยืด
สนับสนุนโดยร้านเค.เอสรุ่งเรืองเกษตรภัณฑ์คอกลมแขนสั้นสีดำ ใส่รองเท้าแตะ ถูกยิงที่กลางหน้าผาก 1 นัด กลางอก 4 นัด
ฝ่ามือซ้าย 1 นัด รวม 6 นัด ไม่พบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ได้ใช้สายเชือกกั้นรัศมีบริเวณที่เกิดเหตุไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป
และมีนางสาวจรรนภา อายุ 45 ปี ภรรยาผู้ตายนั่งร่ำไห้อยู่ใกล้ๆ
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถยนต์กระจกประตูรถทั้ง
2 ข้างถูกลดลงจนหมด พบโทรศัพท์มือถือตกอยู่ 1 เครื่อง กระเป๋าสะพาย 1 ใบ
และกระเป๋าตังค์ภายในมีเงินอยู่จำนวน 8,020 บาท เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนั้นพบว่าที่มีร่องรอยคนร้ายดึงเอากล้องวงจรปิดที่ติดอยู่หน้ารถของผู้ตายไปด้วยหลังก่อเหตุ
ส่วนกระบะหลังรถมีเลื่อยยนต์วางอยู่ 1 เครื่อง
จากการสอบสวนทราบว่า
นายนิโรจน์ผู้เสียชีวิต มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ก่อนเกิดเหตุวันที่ 26
ก.พ.ได้ออกจากบ้านไปรับจ้างเลื่อยไม้แปรรูปให้กับคนรู้จัก และกลับบ้านในตอนเย็น
ต่อมาช่วงประมาณทุ่มกว่า มีเพื่อนบ้านเห็นนายนิโรจน์ขับรถยนต์กระบะออกมาจากบ้านเหมือนมีใครโทรมาตามให้ออกไปหา
จนกระทั่งตอนเช้าวันที่ 27 ก.พ.มีชาวบ้านขับรถจักรยานยนต์ออกมาพบถูกยิงตายอยู่ข้างรถยนต์ของตัวเองในสวนปาล์มดังกล่าว
สาเหตุปมสังหารโหดเบื้องต้นสันนิษฐานว่า มีคนร้ายมมากกว่า 1 คน อาจจะโทรนัดนายนิโรจน์ออกมาหาเพื่อพูดคุยปัญหาบางอย่างกัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ คนร้ายจึงใช้ปืนจี้บังคับให้นายนิโรจน์ขับรถเข้าไปในสวนปาล์มของชาวบ้าน โดยมีรถจักรยานยนต์ของกลุ่มคนร้ายขับตามประกบไปด้วย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุที่ปลอดคน คนร้ายบังคับให้
ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤตตรวจสอบรถผู้เสียชีวิตให้นายนิโรจน์ลงมาจากรถ จากนั้นจับให้นั่งคุกเข่า
แล้วใช้อาวุธปืนสั้นชนิดลูกโม่ไม่คายปลอกจ่อยิงหน้าผากและกลางหน้าอกรวม 6
นัดจนหมดโม่
หลังก่อเหตุคนร้ายได้ดึกเอากล้องวงจรปิดที่ติดอยู่กระจกหน้ารถของผู้เสียชีวิตพาหลบหนีไปด้วย
โดยไม่เอาเงินและทรัพย์สินอื่นใด แล้วคนร้ายพากันหลบหนีไป
ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเก็บสอบปากคำเพื่อนผู้ตาย และบุคคลใกล้ชิด
เพื่อปมเหตุการฆ่าโหดที่แท้จริงเพื่อจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน
นางสาวจรรนภา เย็นสุวรรณ ภรรยานายนิโรจน์ผู้เสียชีวิตกล่าวว่า
สามีตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ส่วนตนมีอาชีพเป็นลูกจ้างอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
คืนก่อนเกิดเหตุตนกลับมาจากร้านอาหารประมาณ 4 ทุ่ม ก็ไม่พบสามี
ก็คิดเป็นเรื่องปกติเพราะสามีมีอาชีพรับจ้างทั่วไป บางวันก็กลับเร็ว
บางคืนก็กลับดึกเพราะนั่งดื่มกินกับเพื่อนๆ แต่เมื่อคนที่ผ่านมาสามีไม่ได้กลับบ้าน
ส่วนตนก็นอนหลับไป ตื่นมาตอนเช้าสามีก็ยังไม่กลับ
กระทั่งมีคนมาแจ้งว่าสามีถูกยิงตายอยู่บนถนนในสวนปาล์มดังกล่าว
นางสาวจรรนภากล่าวต่อว่า
พื้นที่จุดเกิดเหตุเป็นถนนในสวนปาล์มของชาวบ้านบุคคลทั่วไปจะไม่ใช้สัญจร
นอกจากชาวบ้านในละแวกนั้น สามีตนจะไม่ขับเข้าไปเองอย่างแน่นอน
และที่เกิดเหตุก็ห่างจากบ้านตนประมาณกว่า 4 กิโลเมตร อยู่คนละหมู่บ้าน
คนละตำบลกันด้วย
ส่วนสาเหตุตนไม่รู้เลยว่าเกิดจากอะไรเพราะสามีตนเคยมาพูดอะไรให้ฟังและไม่เคยเห็นมีเรื่องมะเลาะกับใครด้วย.
................................................................
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น