แทบช็อก!สาวใหญ่ยืนกินข้าวในครัวงูจงอางยาว 4 เมตรเลื้อยมาหาทิ้งจานข้าววิ่งหนีตาย
![รูปภาพ](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhdZgLqLVrzwHW4_sq0xV16Yc9e7TVO-WF0uFds6q3njSBi6jlI3xEuwTYTCuWEhGqZBJiXFtsHc_oUKutCvD_4TZn-Gwlj03-cqNOgIB5zKUFPFeBo4uaXpFq4d_VPxqLJF_37S-rYMsqeADBkmJ3ediPgxZOGLum29S0eUINo4jvH-z_UW54Ih9Q4HRzM/s320/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E2025-02-14-14h05m32s.jpg)
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 21 มกราคม 2568
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายศุภกิจ ปัตเมฆ
อายุ 44 ปี ชาวหมู่ที่ 1 ตำบลบางหมาก
อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ว่า ตนเองมีรถแบ็คโฮ
ยี่ห้อ Sumitomo 210 สีเหลือง
หมายเลขทะเบียน 1ตท-29xx กรุงเทพมหานคร อยู่จำนวน 1 คัน ซึ่งดาวน์มาในราคา 300,000
บาท จากราคาเต็มอยู่ที่ 4,800,000 บาท ซึ่งรถคันนี้ได้ซื้อมาเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567
ซึ่งบริษัทอยู่ที่จ.ฉะเชิงเทรา
เพื่อนำมาประกอบอาชีพรับเหมาเกี่ยวกับงานโยธา ขุดตักดิน
ในพื้นที่จังหวัดชุมพรเท่านั้น
นายศุภกิจ กล่าวว่า และเมื่อวันที่ 18 มกราคม 68 ที่ผ่านมา หลังจากที่ทำงานรับจ้างปรับพื้นที่ในสหกรณ์นิคมท่าแซะ เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้ย้ายรถแบ็คโฮ ออกจากพื้นที่ โดยขณะนั้นเป็นช่วงเย็น ตนเองจึงได้นำรถไปฝาก
จอดไว้บริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลท่าข้าม อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เพื่อจะไปทำงานในพื้นที่ใหม่
ที่รับเหมาไว้ ไม่ไกลจากที่จอดรถตรงนี้มากนัก
นายศุภกิจ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 19 มกราคม 68 ตนเองขับรถมาที่รถแบ็คโฮ เพื่อจะย้ายรถขึ้นรถบรรทุกเทรนเลอร์ไปทำหน้างาน แต่เมื่อมาถึงก็ต้องตกใจเพราะรถที่ฝากไว้ ได้หายไปจากที่จอดแล้ว จึงได้เดินดูโดย
รอบๆแต่ก็ไม่พบ จึงออกไปดูตามอู่ต่างๆที่รับซ่อมและจำหน่ายรถประเภทนี้
แต่หายังไรก็ไม่พบ จึงเชื่อว่ารถแบ็คโฮ ของตนเองถูกโจรลักไปเป็นแน่
จึงได้เดินทางไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 20
มกราคม 68
นายศุภกิจ
กล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่แจ้งความแล้ว ทางพนักงานสอบสวน
ก็บอกว่าจะเร่งติดตามให้อย่างเร่งด่วน แต่ด้วยที่ตนเองร้อนใจ
เพราะหากล่าช้ารถแบ็คโฮ จะไม่หลงเหลืออะไรแล้ว
เพราะคนที่ขโมยรถขนาดนี้ไปต้องมีแหล่งที่จะชำแหละ
จึงได้พยายามตามหาด้วยการไปขอดูกล้องวงจรปิดตามบ้านและร้านค้าที่อยู่ริมถนนสายเพชรเกษม
จนพบว่า เมื่อช่วงเวลา 06.30 น.ของวันที่ 19 มกราคม 68 ได้มีรถยนต์บรรทุกเทรนเลอร์
ได้เข้ามาลักรถแบ็คโฮ ของตนเองขึ้นรถไป และมีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว
รุ่นฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สี่ประตู สีขาว
ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับตามออกไป โดยมุ่งหน้าลงทางใต้
นายศุภกิจ
ยังกล่าวต่ออีกว่า
และตนเองยังได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจป้อมปฐมพร
ได้นำภาพกล้องวงจรปิดที่บันทึกได้ขณะรถบรรทุกเทรนเลอร์ บรรทุกแบคโฮของตนเองผ่านไป
ทราบว่าเป็นรถยี่ห้อฮีโน่ ป้ายทะเบียน 70-08xx แต่จังหวัดไม่ชัดเจน
ตนเองจึงได้นำเอกสารหลักฐานที่หามาได้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ
จ.ชุมพร อีกครั้ง เพื่อให้ติดตามจับกุมคนร้ายกุมมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
นายศุภิจ
กล่าวต่อท้ายว่า ตนเองยอมรับว่าค้างชำระค่างวดเพียง 3
งวดและช่วงที่ค้างก็ประสานพูดคุยกับไฟแนนซ์ตลอด และหากว่าทางไฟแนนซ์ตามมายึดรถ
ความถูกต้องคือจะต้องแจ้งให้ทางตนเองได้รับทราบเพื่อจะได้มอบรถคืนให้อย่างถูกต้อง
และคนที่มายึดต้องได้รับมอบอำนาจจากบริษัทถูกต้องแล้วต้องมาแสดงต่อหน้าตนเอง
แต่นี้ไม่มีการติดต่อแต่อย่างใด
และหลังจากรถหายไปก็ยังไม่มีบริษัทติดต่อมาแต่อย่างใดเช่นกัน และตนเองยังตั้งข้อสังเกตว่ารถที่บรรทุกแบ็คโฮไปทำไมมุ่งหน้าลงทางใต้
ทั้งที่สาขาย่อยก็อยู่ใกล้ๆกับที่จอดรถและตนเองก็ไปดูแล้วก็ไม่มีจอด
และหากเอาไปจริง เกิดถอดเปลี่ยนอะไหล่ ตนเองมิต้องชดใช้ค่าเสื่อมสภาพหนักเหรอ
...........................................................
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น