ตามรวบแรงงานต่างด้าวลอบค้ายาเสพติดและผลิตปืนเถื่อนขาย

รูปภาพ
  ภายใต้อำนวยการ พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้สั่งการให้เปิดปฏิบัติการค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด และผู้ค้ายาเสพติด ( Re X-Ray) ในพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน ครอบคลุมทั้งจังหวัด  เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน ตามแผนปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด No Drug No Dealers ผนึกกำลังชุมชน เป็นหมู่บ้านชุมชนปลอดยาเสพติด         โดยล่าสุด เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอปะทิว , เจ้าหน้าที่ทหาร ชป.ฉก.ร. 25 กกล.เทพสตรี (ด่านตรวจความมั่นคงบ้านพละ) , เจ้าหน้าที่หน่วยเฝ้าตรวจทางการภาพ หน่วยข่าวกรองทางการทหาร กอ.นมน.ภ. 4 ส่วนหน้า ลงพื้นที่ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดกลุ่มผู้ค้าตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์ จำนวน 3 จุด ซึ่งมีพฤติกรรมลักลอบค้ายาเสพติดให้กับกลุ่มเพื่อนแรงงานชาวเมียนมาร์ด้วยกัน           โดยจุดแรก สามารถจับกุม Mr.SAN TUN ( ซาน ทูน) และ Mrs.Khin Khin Htww แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ได้...

สาวใหญ่พ้นคุกกลับบ้าน พบอดีตผัวติดพนันแอบขายบ้าน-สวนทุเรียน ต้องอาศัยโรงรถญาติเป็นที่หลับนอน

 

        สาวใหญ่วัย  53 ปี หลังพ้นโทษคดียาเสพติดเดินทางกลับบ้านที่พ่อแม่เคยสร้างไว้ด้วยน้ำพักน้ำแรง หวังเป็นที่อยู่อาศัย ทำสวนทุเรียนเลี้ยงชีพในช่วงบั้นปลายชีวิต ต้องน้ำตาตกพบว่าอดีตผัว ที่เคยเลิกรากันกว่า 2 ปี  เหตุเพราะติดการ

แสดงทะเบียนบ้านตัวจริงว่าเป็นเจ้าของ

พนันและติดผู้หญิง ย่องกลับมาแอบขายบ้านและสวนทุเรียนเชิดเงินไปจนหมด ขณะสาวใหญ่ผู้เสียหายถูกจำคุกอยู่ในฑัณฑสถานหญิงสงขลา  จึงร้องขอความเป็นธรรมทวงถามถึงหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องว่า มีการซื้อขายกัน

ได้อย่างไรเมื่อ ทั้งที่ผู้เสียหายยังมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านอยู่ในทะเบียนบ้าน อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าของบ้านผู้เสียหายถาม ใครเป็นผู้เซ็นต์รับรองหนังสือซื้อขายบ้านให้



        โดยเมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่พบน.ส.รัชนีพร  กลิ่นม่วง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 12 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร(เจ้าของบ้านหลังที่มีปัญหา) หลังได้รับการร้องเรียนขอความเป็นธรรมผ่านผู้สื่อข่าว ซึ่งหลังเกิดเหตุดังกล่าวผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร




       น.ส.รัชนีพร เปิดเผยว่า ตนเองเดินเป็นคนสุราษฎร์ธานี พ่อแม่ได้ซื้อที่ดินจำนวน 1 แปลงจำนวน 5 ไร่ และได้ปลูกบ้าน และพาสามีมาอยู่ด้วยกันซึ่งเป็นสมบัติของพ่อแม่ตนเอง โดยบ้านดังกล่าวได้เป็นชื่อของตนเป็นเจ้าบ้านเพียงผู้เดียว ไม่มีชื่อสามีอยู่ในทะเบียนบ้าน  ต่อมาสามีติดการพนันและติดผู้หญิงและพาผู้หญิงหนี ทิ้งให้ตนอยู่บ้านประมาณ 2 ปีกว่า และระหว่างนั้นได้ทำสวนปลูกทุเรียนไว้ประมาณ 70 ต้น


ต้นทุเรียนที่เคยปลูกไว้ก่อนถูกจำคุก ปัจจุบันเก็บผลผลิตได้แล้ว

     หลังจากนั้นตนเองถูกจับคดียาเสพติดจำคุกอยู่ในฑัณฑสถานหญิง 11 ปี 11 เดือน  พ้นโทษถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่  9 กันยายน 2567  ต่อมาเมื่อวันที่ 11 กันยายน จะกลับไปอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ทราบว่าถูกอดีตสามีย้อนกลับมาขายบ้านและสวนทุเรียนไประหว่างที่ตนเองอยู่ในเรือนจำ ทำให้เดือดร้อนมากไม่มีที่อยู่ ต้องไปอาศัยญาติที่อำเภอหลังสวนเป็นที่พักอาศัยแต่เกิดความเกรงใจ จึงย้ายมาขออาศัยอยู่ในโรงรถของญาติฝ่ายสามีคนปัจจุบันในตำบลเดียวกัน เพราะใกล้บ้านของตนเพื่อจะเดินเรื่องขอความเป็นธรรม


       โดยสอบถามไปทางผู้นำชุมชนกับปัญหาดังกล่าวให้เรียกผู้ที่ซื้อบ้านของตนมาเคลียร์กันได้หรือไม่  แต่ก็ยังเงียบ ตนต้องสืบติดตามหาผู้ซื้อผู้ขายเอง ทราบว่าบ้านของตนถูกขายเปลี่ยนมือไปแล้ว 5 ราย ซึ่งรายที่ 5 ล่าสุดนี้ซื้อบ้านและสวนทุเรียนของตนเมื่อประมาณ 1 ปีก่อนเนื้อที่จำนวน 5 ไร่ในราคา 3 ล้านบาท กลับมาเห็นบ้านตนเองและสวนทุเรียนที่ปลูกมากับมือรู้สึกเสียใจ เกิดความสงสัยว่าทำไมมีการซื้อขายกันง่ายทั้งที่บ้านก็ยังมีชื่อของตนเป็นเจ้าของ ซึ่งมีหลักฐานชัดเจน อยากรู้ว่าใครเป็นคนเซ็นต์รับรองหนังสือให้ ทั้งที่รู้ว่าเจ้าของบ้านติดคุกอยู่

      ล่าสุดเมื่อวันนี้(17 ก.ค.) ตนเองนำเอกสารหลักฐานไปร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท่าแซะ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้ไปพุดคุยเจรจากัน ทางศูนย์ไม่สามารถออกหนังสือให้ได้ ไม่เข้าใจว่าเรามาเพื่อร้องของความเป็นธรรมทำไมทำให้เราไม่ได้ ตั้งศูนย์ดำรงธรรมไว้ทำไม สุดท้ายต้องพึ่งสื่อมวลชน ” น.ส.รัชนีพร ผู้เสียหาย เผย

.....................................................


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ฝ่ายปกครองอำเภอสวีรวบหนุ่มวัย 30 ปี หลังนัดส่งยาบ้าที่ป้ายโครงการทำถนนฯได้ไอซ์ยาบ้ากว่า 1 หมื่นเม็ด

โวยผญบ.ตัดปาล์มหมู่บ้านขายกว่า 7 ปีเงินสูญกว่า 2.5 ล้านชาวบ้านทวงถามไร้คำตอบ

หนุ่มลูกจ้างล้งทุเรียนถูกรถไฟชนดับ คาดทำงานอดนอนเดินเหม่อลอย